นางสาวกนกวรรณ เอี่ยมลิ้ม ผู้อำนวยการเขตบางกอกน้อย กทม. กล่าวกรณีมีการเสนอข่าวชุมชนรอบตลาดศาลาน้ำร้อน เขตบางกอกน้อย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากว่า สำนักงานเขตบางกอกน้อย ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 30 (วัดเจ้าอาม) ได้ดำเนินการสอบสวนโรคในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 และค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงใกล้ชิดผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ค้าและประชาชนในชุมชนรอบตลาดศาลาน้ำร้อน ได้แก่ ชุมชนสันติสุข ชุมชนพรพิพัฒน์ ชุมชนสุดสาคร กลุ่มผู้อยู่อาศัยตรอกข้าวเม่า และกลุ่มผู้อยู่อาศัยซอยวรภัทร เพื่อออกคำสั่งกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงและตรวจหาเชื้อ เพื่อควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง และได้ตรวจคัดกรองเชิงรุกโดยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ค้า ผู้ช่วยค้า ประชาชนรอบตลาดศาลาน้ำร้อน ผู้สัมผัสเสี่ยง และประชาชน รวม 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 14 พ.ค.64 ที่สำนักงานเขตบางกอกน้อย มีผู้เข้ารับการตรวจ 233 คน พบผู้ติดเชื้อ 33 คน ครั้งที่ 2 วันที่ 19 พ.ค.64 ที่ตลาดศาลาน้ำร้อน มีผู้เข้ารับการตรวจ 820 คน พบผู้ติดเชื้อ 87 คน ครั้งที่ 3 วันที่ 24 พ.ค.64 ที่สำนักงานเขตบางกอกน้อย มีผู้เข้ารับการตรวจ 710 คน พบผู้ติดเชื้อ 30 คน และครั้งที่ 4 วันที่ 28 พ.ค.64 ที่สำนักงานเขตบางกอกน้อย มีผู้เข้ารับการตรวจ 928 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ
ผู้อำนวยการเขตบางกอกน้อย กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้สำนักงานเขตฯ ยังได้ประชุมคณะทำงานหน่วยงานที่ได้ประสานความร่วมมือทางด้านวิชาการ การขอสนับ สนุนวัคซีน และการบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยง ประกอบด้วย โรงพยาบาลศิริราช สำนักอนามัย กทม. ศูนย์บริการสาธารณสุข 30 (วัดเจ้าอาม) ผู้ประกอบการตลาด และผู้นำชุมชนรอบตลาด ในการใช้วัคซีนควบคุมโรคแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกำหนดมาตรการควบคุมโรค และการฉีดวัคซีนในช่วงต้นเดือน มิ.ย.64 ขณะเดียวกันได้บูรณาการร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 30 (วัดเจ้าอาม) และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ และผู้นำชุมชน ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำ ตักเตือน จับกุมผู้ฝ่าฝืนมาตรการควบคุมป้องกันโรคตามพระราชบัญญัติควบคุมโรค พ.ศ.2558 ในชุมชน และสถานที่เป้าหมายในพื้นที่เขตบางกอกน้อย พร้อมทั้งแนะนำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 (D-M-H-T-T-A) ให้ผู้ประกอบการและประชาชนถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร และศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.) ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่คนงานรับจ้างในตลาดศาลาน้ำร้อน รวมถึงประชาชนรอบตลาดศาลาน้ำร้อน โดยสำรวจผู้ได้รับผลกระทบ และมอบอาหารแห้งและสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ส่วนการช่วยเหลือในระยะยาวได้ประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรเอกชน กลุ่มประชาคม ผู้นำท้องถิ่น สถาบันการเงิน เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือตามภารกิจหน้าที่ที่รับผิดชอบ ซึ่งจะได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวต่อไป
