ถือเป็นข่าวฮือฮาที่สร้างความตื่นเต้นให้กับแวดวงนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เมื่อ Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory (LIGO) หรือคณะวิจัยวิทยาศาสตร์ แถลงถึงการค้นพบ “คลื่นความโน้มถ่วง” ที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยระบุว่ามีอยู่ ตั้งแต่ 100 ปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยการแถลงข่าวครั้งนี้มีขึ้นที่ ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติในกรุงปารีส และที่กรุงลอนดอน
ทั้งนี้ทฤษฎีสัมพัทธภาพภาคทั่วไปของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ได้ทำนายไว้ตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อนว่า ในจักรวาลมีคลื่นความโน้มถ่วงดำรงอยู่ ต่อมามูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐฯได้ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยนี้ โดยมีการสร้างเครื่องตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงที่ปล่อยมาจากการกระแทกกันของหลุมดำ ซึ่งเครื่องนี้เปิดทำงานเพื่อตรวจจับคลื่นดังกล่าวมาสิบกว่าปีแล้ว จนกระทั่งหลายเดือนก่อนทีมนักวิจัยวิทยาศาสตร์ของลิโกได้สังเกตเห็นหลุมดำ 2 หลุมชนกัน และหลอมรวมเข้าด้วยกัน ทำให้ตรวจพบคลื่นความโน้มถ่วงได้อย่างชัดเจน
ตลอดระยะเวลาร้อยปีที่ผ่านมา หลังไอน์สไตน์เสนอทฤษฎีว่าด้วยคลื่นความโน้มถ่วง บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างก็พยายามไขปริศนาโดยการตรวจจับเจ้าคลื่นนี้ แต่ก็ไม่เคยพบเลย เหตุเพราะคลื่นมีความเบาบางมาก ดังนั้นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่นี้จึงสร้างความตื่นเต้นฮือฮาในแวดวงวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก
ด้าน LIGO หน่วยงานที่ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงกล่าวว่า การที่นักวิทยาศาสตร์สามารถได้ยินเสียงคลื่นนี้ ก็เท่ากับได้ยินจักรวาล และการค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงจะช่วยให้นักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์สามารถไขปริศนาของปรากฏการณ์ได้หลายอย่าง อาทิ การหลอมรวมของดาวนิวตรอน พฤติกรรมของหลุมดำใจกลางกาแล็กซีต่างๆ และยังต่อยอดการศึกษาไปสู่การเรียนรู้กายภาพและกำเนิดของจักรวาล รวมถึงความเคลื่อนไหวในจักรวาลด้วย
ด้านนักดาราศาสตร์แห่งเคมบริดจ์ กล่าวว่า “การค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงคือการเปิดสู่ยุคใหม่ของวงการดาราศาสตร์” และแน่นอนว่ายังจะนำไปสู่การพัฒนาแบบก้าวกระโดดของวงการวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ ต่อยอดไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย!
ที่มา http://www.iflscience.com/space/watch-live-major-gravitational-waves-announcement-today