รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.15 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “อั๋น ภูวนาท คุณผลิน” ได้สัมภาษณ์ “เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ที่ตามเกาะติดเหตุการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” โดยเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม 100 เปอร์เซ็นต์
มีคนถามว่าคุณเต้เกี่ยวอะไรกับเรื่องคุณแตงโม คุณมาทำเรื่องนี้เพราะหิวแสงหรือเปล่า?
“ปกติทางการเมืองผมมีแสงเยอะอยู่แล้วนะ แต่เดิมมีแสงมากอยู่แล้ว ผมว่าผมเบอร์ต้นๆ ในสภาผู้แทนราษฎร เป็นเบอร์ต้นๆ ใน 500 คนอยู่แล้วนะ ไม่เกิน 1 ใน 5 อยู่แล้ว เป็นแบบนี้มานานหลายปีแล้ว และเป็นก่อนมาเป็นส.ส.ด้วย ซึ่งมีมานานแล้วเพียงแต่ว่าด้วยภาระหน้าที่ ด้วยอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ สภาผู้แทนราษฎร และอยู่ในพื้นที่ที่ผมอยู่ประมาณ 15 ปี พื้นที่พระราม 7 ซึ่งคุณแตงโมเป็นซูเปอร์สตาร์ เกิดในพื้นที่ของผม ถ้าผมไม่ไปตั้งแต่วันแรก ผมเป็นหมาเลย เป็นคนไร้น้ำใจ ทั้งที่กินเงินเดือนราษฎร กินภาษีประชาชน ผมก็ไปตั้งแต่วันแรก แต่ไม่ได้ไปกลางคืน 5 ทุ่มนะ เพราะหลับไปแล้ว เพราะตอนนั้นประชุม หน้าที่ผมถึง 3 ทุ่ม ออกจากสภาไม่ได้นะ ต้องลา แล้วเอฟซีเขาส่งไลน์มา แตงโมยังไม่เจอ พี่เต้มาช่วยดำน้ำ พี่เต้ประชุมสภาเลิกหรือยัง”
คุณถึงขั้นดำน้ำเหรอ แล้วปกติคุณดำได้เหรอ?
“น้ำขุ่นๆ ดำไม่ได้ เมื่อสองเดือนที่แล้ว ก่อนแตงโมเสียชีวิต ผมก็ไปกินข้าวที่ร้านโอยั้วะ แล้วโดดสะพานต่อหน้าต่อตาเลย พอโดดปุ๊บก็พุ่งพรวดขึ้นมา ผมก็เอ๊ะ ตกลงอยากตายหรือเปล่า ต้องถามเขาก่อน ถ้าเราไปขวางเขาจะเป็นบาป ผมถามเขาก่อนว่าอยากให้ช่วยมั้ย ถ้าเขาชูมือไม่ให้ช่วย จะไปขัดดวงเขานะ ผมบอกตกลงให้ผมช่วยมั้ย ผมมีทีมงานนั่งกินกันอยู่ห่างประมาณ 30 เมตร เขาบอกให้ช่วย หายใจไม่ออก ผมก็ถอดเสื้อ เตรียมถอดกางเกงแล้ว เขาบอกท่านส.ส.ไม่ต้อง เรามีทีมกู้ภัยอยู่แล้ว 2 คน เขาก็โยนห่วงยางไป เขาก็ปลอดภัย แต่ทราบภายหลังว่าเขาตายไปแล้ว เพราะสุดท้ายเขาก็อยากตายอยู่แล้ว เขาก็ไปหาวิธีอื่นอีก ถ้าวันนั้นผมโดดผมดังกว่านี้เยอะ ผมว่ายน้ำแข็งมาก”
มาพร้อมกล้องวงจรปิดเยอะมาก ?
“ตอนนี้ทางตร. พนักงานสอบสวน เขาไม่มีประจักษ์พยานนะ ประจักษ์พยานมีแค่ 5 คน ที่กำลังถูกกล่าวหาอยู่ แล้ว 5 คนนี้เขามีการไปเตรียมทีมมาก่อน ไปปรึกษาหารือกันมาก่อน ตอนน้องแตงโมจมน้ำไปแล้ว ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วไปที่พิซซ่ามาเรียราชพฤกษ์ ติดกับบ้านผมเลย ผมไปขอมาหมดแล้ว ผมก็มีวิธีของผม อย่าลืมผมกว้างขวางพอสมควรนะ รู้เปล่าทำไมต้องไปไล่วงจรปิดเพราะตร.ดูแต่จีพีเอสกับความเร็วแค่นั้น มันดูได้แค่พฤติกรรมการขับเรือ ส่วนเรื่องตรวจเรือมีสองลำ ผมยังไม่ได้ไปดูตรงจุดนี้ เพราะทราบว่ามาตรวจทีหลัง 2-3 วัน มันช้าเกินไป แล้วไม่มีการอายัดเรือตั้งแต่เช้าวันนั้น ผมดูแล้วว่าพยานชักไม่ค่อยเข้าท่า ดูจากการเจอศพ ศพมันไม่ปกติ มีบาดแผล หน้าผากบวม ตาปิด”
เห็นจากภาพถ่ายเหรอ?
“ไม่ใช่ เห็นของจริง ผมอยู่ตรงนั้นห่าง 10 เซนฯ ผมเดินแอบดูอยู่”
คุณเห็นฟันมั้ย?
“ไม่เห็น เห็นแค่ลิ้นจุกปาก ที่ผมเห็น คือหนึ่งที่คอเหมือนรอยรัด แต่ผมทราบว่ามีสร้อยอยู่ อาจมีการรั้งหรือเชือกหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ห้อเลือดเต็มเลย ด้านอื่นปกติ ตาถลนปกติอยู่แล้วเพราะหายใจไม่ออก แต่อีกข้างตาปิด แล้วช้ำเลือดหน้าอกห้อเลือด ผิวหนังส่วนอื่นปกติ ปกติถ้าคนจมน้ำไม่มีบาดแผลอะไร ลักษณะจะสมดุล จะตัวใสๆ เหมือนจะปริ”
มีบางจุดที่ดูบอบช้ำไม่เท่ากัน?
“ใช่ และแผลที่ขาค่อนข้างใหญ่ยาวประมาณฟุตนึงเป็นเส้นตรง มีรอยบาด 2 อัน และมีแผลที่ขาด้านหลัง”
มันมีแผลที่หน้ามั้ย?
“ผมไม่ได้เห็นหนังหัวว่าเป็นยังไง คือความจริงถ้าวันนั้นถ้าไม่มีใครบอกว่าห้ามเห็นภาพแตงโมในจุดที่ไม่สวยงาม ให้จำภาพแต่สิ่งสวยงาม ถ้าวันนั้นกู้ภัยสามารถเอาภาพคุณแตงโมทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านซ้าย ด้านขวา คดีคงไม่ฝืดแบบนี้ เป็นเพราะเราปกปิดกันมากเกินไป จนกลายเป็นความลับ กลายเป็นปกปิดหมดทุกอย่าง ซึ่งทำให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะมีน้อยคนที่จะเห็น”
บางสื่อบอกว่า ส.ส.เต้บอกว่าน้องแตงโมฟันหันถึง 4 ซี่ ทำไมถึงรู้ทั้งที่บอกว่าไม่เห็น?
“ฟังจากพี่ไทด์ เอกพันธ์ เชื่อพี่ไทด์ เพราะแกเป็นคนเก็บศพคนจมน้ำมาจำนวนมาก และความเชื่อถือส่วนตัว เพราะพี่ไทด์แกเป็นคนไม่โกหกอยู่แล้ว ว่าไปตามความเป็นจริง แกเป็นคนอยู่ใกล้ศพนานกว่าเพื่อนนะ”
ตอนนี้ความจริงตรงนี้ไม่น่าจะยาก?
“นิติเวชแค่เอารูปถ่ายมาให้เห็นเลย ให้นักข่าวไปเลย แล้วใช้วิธีเบลอเอา แต่อย่างน้อยให้เห็นฟัน จะจบง่ายๆ ถ้านิติเวชคลี่ออกมาเลย”
ไปรวบรวมกล้องวงจรปิดกับจุดที่เกิดเหตุริมแม่น้ำครบหรือยัง?
“ถือว่าครบ ไม่ได้ที่เดียวแค่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าฝ่ายผลิตบอกให้ตร.ไปแล้ว อยากให้แค่ตร.อย่างเดียว โดยปกติต้องให้ ตร.ส่วนนึง ถ้าผู้บัญชาการภาค 1 ขอถูกมั้ย แล้วผมขอล่ะ ผมก็เจ้าหน้าที่รัฐเหมือนกันนะ ทำเรื่องถูกต้องหมดทุกอย่างแล้ว มันจะมองได้สองมุมด้วยกัน ถ้าผิดตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารก็ผิดอยู่แล้วมันต้องให้ เพราะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ถ้าให้ช้าข้อมูลบันทึกทับหมดแล้ว ส่งผลให้คดีเปลี่ยนแปลง แต่ตร.มีเนี่ย ก็ยืนยันเฉพาะตร.มี แต่เราจะรู้มั้ยว่าในอนาคตตอนขึ้นพิสูจน์ที่ศาล คลิปนี้มันจะปกติ ต้องมียืนยันสองสามฝ่ายว่าคุณต้องไม่เปลี่ยนแปลงนะ คลิปต้องตัวเดียวกันนะ ต้นขั้วเดียวกัน มียืนยันที่มาที่ไปชัดเจน เขาเรียกพยานเอกสารทางราชการ”
ในทั้งหมดที่ได้มา แตงโมตกที่ไหน?
“ท่าเรือเทเวศร์ เวลา 21.54.05 น. เพราะท่าเรือเทเวศร์มีน้ำกระจาย และมีเงาคนตกลงมา เห็นในกล้องวงจรปิด ต้นขั้วกรมเจ้าท่า เป็นเรือลำนั้นแน่นอน พอตกเสร็จปุ๊บ ทุ่นออกขวามือ มีแสงสาดมา มีคนยืนบนเรือ 4 คน คนขับอีก 1 คน เหลือ 5 คน ซึ่งคลิปก่อนหน้านั้นที่ท่าเรือเทวราชกุญชร ยังมี 6 คนอยู่ อีกคนอยู่ด้านหลัง ทำท่าดึงอะไรสักอย่าง ผมไม่แน่ใจว่าท่าเรือเทวราช ผ่านสะพานพระราม 8 แล้ววนกลับ ผมใช้กล้องที่ท่าเรือเทวราชกุญชร ส่องแล้วนับคน เหลือ 5 คน ลองนับเอา จากนั้นไปสะพานซังฮี้ ทำไมต้องย้อนหลังเพราะผมดูพฤติกรรมบนเรือ คนเราจะโดดเรือต้องมีเหตุ มีการทะเลาะเบาะแว้งกันก่อน มีปัญหาอะไรกันก่อน”
คิดว่าตั้งใจโดดเหรอ?
“จะโดดหรือจะผลักก็ตาม มันต้องมีเหตุ ส่วนคลิปนี้น่าจะเป็นตรงข้ามการไฟฟ้าฝ่ายผลิต 22.33 น. เป็นคำให้การ 5 คนที่ถูกกล่าวหาว่าแตงโมตกบริเวณนี้ แล้วเขาขับเลยไป ประมาณ 22. 45 น. ค่อยวนกลับมา ได้คลิปมาหมดแล้ว”
มีตรงไหนส่อหรือพึงจะเป็นไปได้สักนิดว่ามีการตกตรงนั้น?
“วันนี้ผมได้คลิปตรงข้ามการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ท่าเรือพูลพิพัฒน์ จำกัด ซึ่งเรือกลับขากลับมาฝั่งตรงข้ามการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผมก็นั่งดู 2 นาที จนสุดริมขอบ ถ้าตกต้องวนเรือกลับสิ แต่มันไปเรื่อยเลย แล้วผมก็ดูคนท้ายเรือไม่มี มีใบพัดหมุนไปเรื่อยๆ ปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนสุดขอบเลย อันนี้ชัดจากไฟฟ้าฝ่ายผลิตนะ แต่พฤติกรรมของเรือที่น่าแปลก คือที่ซังฮี้นับได้ 5 คน คนใส่เสื้อสีส้มไม่มี พฤติกรรมคนขับเรือ ปกติเรือต้องขับชิดขวา เหมือนต่างประเทศ แต่ลำนี้ตอนไป ได้คลิปที่ท่าเรือเขมาฯ ตอนไปที่มาจากปทุมธานี วิ่งเลนซ้าย ซึ่งผิดกฎหมาย ปกติต้องวิ่งเลนขวานะ แต่ดันวิ่งเลนซ้าย พอผ่านท่าเรือเขมาฯ ผ่านท่าพิบูล 1 ผ่านบริษัทพรพิพัฒน์ ราชมงคลพระนครเหนือ ผ่านพระราม 7 ผ่านซังฮี้ เลนซ้ายหมดผิดกฎหมายหมดนะ แต่ไปถูกกฎหมายตอนผ่านหน้าสภาผู้แทนราษฎรเพราะสภาฯ ไฟสว่างหมดทั้งแนวเลย ก็ไปขวาสุดเลย พอเลยสะพานเฮี้ยวซ้าย มีเจตนาพิเศษ”
เขาทำเพราะอะไร?
“หลบกล้องวงจรปิด เพราะหนึ่งสว่าง สองราชการมีกล้องวงจรปิด เพราะมันแพน 360 องศา”
คิดว่าเขาหลบกล้องทำไม?
“หนึ่ง เขารู้กฎหมายว่าเห็นกล้อง แสดงว่าในเรือต้องผิดปกติ ปกติร้านอาหารต้องไม่แพนกล้องออก ต้องแพนกล้องไปข้างใน โรงแรมก็ต้องแพนกล้องไปข้างใน ไม่ค่อยมีใครแพนไปข้างนอก พอผ่านท่าเรือเทวราชกุญชร ชิดซ้ายแล้ววนกลับ ปกติขากลับต้องชิดขวา แต่ดันชิดซ้าย พอผ่านสภาฯ เสร็จก็ชิดซ้าย พอผ่านสะพานพระราม 7 ซังฮี้ ผ่านพระราม 7 22.29.45 น. ใกล้ตกแล้วนะ ชิดซ้ายอยู่ พอเลยจากนั้นก็ผ่านการไฟฟ้าฝ่ายผลิต โยกมาขวา ทำไมต้องโยกมาขวา เพราะแถบการไฟฟ้าฝ่ายผลิตกล้องเต็มเลย เขารู้”
ส.ส.เต้ เป็นวิศวกรผู้วางระบบกล้องวงจรปิดมาก่อน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ จบวิศวไฟฟ้า จบมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เลยพูดในรายละเอียดได้ค่อนข้างเยอะ คุณเต้เชื่อว่าคดีนี้เป็น?
“เดิมที 95 เปอร์เซ็นต์ แต่พอตรวจวงจรปิดมาครบแล้ว เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนะ ตอนนี้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างเดียว ส่งตร. ตอนนี้เป็นคดีฆาตกรรม 100 เปอร์เซ็นต์”
ทนายเจมส์ – ทนายเดชา บอกว่าด้วยพยานหลักฐานตอนนี้ไปได้สุดแค่อุบัติเหตุแน่นอน คุณคิดว่าคุณมีหลักฐานมากเพียงพอที่จะไปถึงการเป็นฆาตกรรม?
“ยังไม่พอ ต้องมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เรื่องร่างกายน้องแตงโมอีกส่วนนึง แต่ต้องเป็นหลักฐานที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นกลาง ไม่อยู่ภายใต้อะไรบางสิ่งบางอย่าง ต้องถามประชาชนว่าเชื่อถือสตช. หรือไม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำก็ได้ ดีเอสไอก็ได้ กำลังผลักดันอยู่ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ที่ดีที่สุดคือต้องให้พิสูจน์อีกครั้งนึง อย่าเพิ่งเผา เดิมทีตามศาสนาคริสเตียนเขาให้ฝัง ไม่ได้ให้เผา ผมมองว่าถ้าเมื่อศพเผาไปแล้ว ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงได้หมด หนึ่งหลักฐานไม่เหลือแล้ว ให้ดีต้องให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หรือรพ.ธรรมศาสตร์ หรือรพ.ของรัฐ เป็นคนตรวจ ไม่ใช่แค่รพ.ตำรวจ เพราะว่ามีสายการบังคับบัญชาอยู่”
ไปยื่นเรื่องขออายัดการเผาศพกับท่านนายกฯ?
“เพราะนายกฯ เป็นประธานกตล. คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฉะนั้นนายกฯ ก็รู้อยู่ประชาชนคิดยังไง ทันมั้ยก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ ผมโยนเผือกร้อนให้ท่านนายกฯ แล้ว ผมทำสุดทางของผม กระบวนการยุติธรรมของผมจะส่งให้พนักงานสอบสวนเต็มที่ ผมก็ไปของผม อันไหนไปได้ อันไหนเป็นอำนาจนายกฯ ก็โยนให้นายกฯ ส่วนนายกฯ ก็ไปถามประชาชนว่าจะให้พิสูจน์หลักฐานแค่นิติเวชของรพ.ตำรวจหรือเปล่า ให้ไปถามประชาชน นายกฯ มาจากประชาชนส่วนนึงนะ”
ถ้าแม่คุณแตงโมบอกว่าไม่ให้ผ่ารอบที่สองแล้วนะ?
“ไม่เกี่ยว ตอนนี้ปัจจุบันเป็นคดีอาชญากรรม คดีร้ายแรงของประเทศไทย เป็นคดีอาญาแผ่นดิน อัตราโทษสูง ใครเป็นคนฟ้องร้องก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะทายาทโดยธรรมหรือบุพการี โดยชอบด้วยกฎหมาย”
แสดงว่าคุณแม่ไม่มีสิทธิ์อนุญาตหรือไม่อนุญาต?
“ไม่เกี่ยวเพราะเป็นอาญาแผ่นดิน ที่คุณแม่ห้ามคนโน้นคนนี้มายุ่ง ได้เฉพาะเรื่องแพ่ง เรื่องสิทธิประโยชน์ในการเรียกร้องค่าสินไหม ก็เป็นเรื่องคุณแม่ แต่เรื่องอาญาแผ่นดินเป็นเรื่องของทุกคน”
เคยเจอคุณแม่มั้ย?
“ไม่เคยเจอ”
ถ้าแม่บอกว่าส.ส.เต้อย่ามายุ่งเรื่องนี้?
“หน้าที่ผม ผมรับกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ประชาชนเลือกผมมา เรื่องนี้เป็นเรื่องสะเทือนขวัญของพี่น้องประชาชน ประชาชนส่วนใหญ่ดูและหวังเรื่องนี้ และมองว่ากระบวนการยุติธรรมมันต้องเท่าเทียมกัน นานาอารยะประเทศเขาดูคดีนี้อยู่ ถ้าคดีนี้ไม่โปร่งใส ใครจะกล้ามาเที่ยวประเทศไทย”
ผมได้ยินเรื่องความพยายามจะตรวจอะไรบางอย่างจากเส้นผม?
“ผมก็เสนอให้นายกฯ ในฐานะที่คุมสำนักงานตร.แห่งชาติ สั่งท่านผบ.ตร. แล้วให้ผบ.ตร. ในฐานะคุมสำนวนทั้งหมด ให้พนักงานสอบสวน เรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 คนไปตรวจสอบเส้นผม เพราะเส้นผมถ้าเล่นยาจะอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน ไม่ว่าจะขนคิ้ว เส้นผม หรือขนในร่มผ้า ขนในร่างกายทั้งหมด เพราะมันอยู่ในราก ต่อให้โกนหัวคงไม่ได้โกนจั้กกะแร้มั้ง ขนใต้ร่มผ้าเยอะแยะ เอาไปตรวจสิ ถ้าไม่มีก็ไม่มี แน่จริงก็ให้ตรวจสิ ถ้าไม่แน่จริง แสดงว่าคุณมีอะไรหรือเปล่า แอลกอฮอล์แค่ 24 ชม. ก็หายไปแล้ว จริงๆ มันง่ายมาก แต่ลับลมคมในกันเหลือเกิน”
มีข่าวออกมาว่าคุณพ่อคุณแซน ข่าวเขาว่า มีนัดทานข้าวกับตร.ใหญ่ ชื่อป.?
“เอาง่ายๆ มีบก. อาวุโสของสื่อมวลชน เขายืนยันนอนยันว่าคุณพ่อคุณแซนรู้จักกับผบ.ปั๊ด โดยปกติแล้วถ้ารู้จักกัน ใครๆ ก็สงสัยได้ว่าทำไมแซนไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพราะโดยปกติ สมมติแซนบอกว่าแซนนั่งเล่นโทรศัพท์ แตงโมจับขา ถ้าสะบัดออกทำให้เพื่อนตกน้ำหรือเปล่า ถ้าสะบัดเข้าหมายถึงดึงเข้ามาก็ช่วยเพื่อน คนนี้ทำไมไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เอาง่ายๆ ทางผบ.ปั๊ดให้ลูกน้องประสานมากับผม บอกว่าตกลงยืนยันมั้ย ว่าไม่รู้จักกันจริง ถ้าผมบอกไม่รู้จักกันจริง แล้วอยู่ดีๆ บอกว่าท่านผบ.บอกว่าไม่รู้จักพ่อแซนจริง ถ้าโลกโซเชียลขุดขึ้นมาจะเป็นยังไง แต่ ณ วันนี้ท่านผบ. ก็ยืนยันว่าไม่รู้จัก”
ทางผบ.ปั๊ดบอกว่าไม่รู้จักพ่อคุณแซน?
“แต่ผบ.ปั๊ดให้โฆษกสตช. เป็นคนบอกผม แจ้งมาอย่างนั้น ผมก็แก้ข่าวให้ บอกว่าท่านยืนยันว่าไม่รู้จัก แต่ผมยังไม่ได้ยินจากปาก ถ้าเป็นผู้ใหญ่พูดอะไรต้องคิดนะ ไม่รู้จักก็คือไม่รู้จัก ไม่ใช่ไม่รู้จักแล้วอีกสองวันมีรูปออกมา โดยปกติการสืบสวนสอบสวน สมมติตั้งกรรมการสอบคุณอั๋น แต่คุณอั๋นเคยช่วยเหลือผม ผมเป็นกรรมการสอบคุณอั๋นไม่ได้นะ เป็นญาติพี่น้องก็ไม่ได้ คนเคยกินข้าวด้วยกัน ซื้อของกัน รู้จักมักจี่กัน มาสืบสวนสอบสวนไม่ได้ ต้องเปลี่ยนทั้งชุด”
ตั้งแต่ลงมาวุ่นวายเรื่องนี้ เคยโดนอิทธิพลอะไรมั้ย?
“มีใครกล้าโทรหาผมเหรอ ผมอยากเจอเหลือเกิน อยากรู้เหมือนกัน ว่าคนนั้นเป็นใคร ถ้าโทรมาบอกผมปุ๊บ ผมจะจัดการทันที”
จากนี้จะทำอะไรต่อ?
“เสาร์อาทิตย์จะรวบรวมพยานหลักฐานทางราชการทั้งหมด อาทิตย์หน้าจะมอบให้หัวหน้าพนักงานสอบสวน ผู้บัญชาการภาค 1 ส่วนทนายกับคุณแม่ จะตกลงกันยังไง จะเผาหรือไม่เผา ให้ไปตกลงกัน ถ้าให้ดีต้องชันสูตรอีกที่นึง แต่คนตัดสินใจได้อีกคนนอกเหนือจากแม่ คือนายกรัฐมนตรี”