ล่าข้ามแผ่นดิน “ไอ้หวัง” มือฆ่า 2 ผัวเมียตายทั้งกลม หนีกลับไทย พี่ชายผู้ตายเปิดปม ทอง 15 บาท เงิน 8 แสน ไม่เชื่อลงมือทำคนเดียว

39

กรณีข่าวสยอง 2 ผัวเมียชาวไทยถูกหุ้นส่วน ถูก “นายหวัง” หรือ “สันติ” เพื่อนสนิทชาติเดียวกันฆ่าโหด ใช้เหล็กทุบ หมกศพยัดท้ายรถบีเอ็มดับเบิลยู จอดทิ้งหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวนที่ไต้หวัน ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้บินกลับประเทศไทย ขณะที่ผู้ตายท้องลูกแฝดได้ 5 เดือน ล่าสุดกองปราบได้ออกหมายจับเรียบร้อย

รายการโหนกระแสวันที่ 14 มิ.ย. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “ตี๋ ยิ่งยศ แซ่หลี่” พี่ชายผู้เสียชีวิต มาพร้อม “รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล” นักอาชญาวิทยา ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและบริหารงานยุติธรรม

มีพี่น้องกี่คน?

ตี๋ :   หลายคนอยู่ครับ มี่ (ผู้เสียชีวิต) เป็นน้องสาวคนโต

พี่ตี๋เป็นชาว?

ตี๋ :   จีนยูนนานครับ แต่อยู่ที่เชียงใหม่

มี่เป็นน้องสาวของพี่ น้องแท้ๆ ไปอยู่ที่ไต้หวันนานหรือยัง?

ตี๋ ตั้งแต่เรียนจบแล้วไปสอบทุนได้ ไปอยู่ทางนั้นยาวเลย แต่ก็ไปๆ มาๆ ตั้งแต่อายุสัก 16-17 โดยประมาณ เกือบๆ 20 ปี”

ฝั่งมาร์ค แฟนมี่ที่เสียชีวิต เขาไปเจอกันที่โน่น?

ตี๋ : เจอกันที่โน่น และจดทะเบียนสมรส

 ตี๋ รู้จัก โตมาด้วยกันด้วย แต่ความสนิทของผมไม่เท่ากับน้อง มี่กับหวังสนิทกันระดับหนึ่ง หวังน่าจะเรียนจบแล้วไปๆ มาๆ แต่น้องสาวไปเรียนที่โน่น ทำงานที่โน่น ตอนเรียนหนังสือก็เป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารจีนบ้าง เป็นล่ามบ้าง ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ไม่ได้เรียนอย่างเดียว

จนกระทั่งมี่คบหากับทางมาร์ค?

ตี๋ : มาร์คเพิ่งมาคบกันครับ

สุดท้ายคบหาจดทะเบียนสมรสและตั้งครรภ์ ลูกในท้อง 2 คน?

ตี๋ : หมอเอ็กซเรย์มาเป็นลูกแฝด แต่รู้สึกไม่แข็งแรงอยู่คนนึง ไม่รู้ว่าเพศอะไร ผมก็ไม่กล้าถามเพราะกลัวจะสะเทือนจิตใจ

เหตุที่เกิดขึ้น ตัวมี่เองเขาเคยโทรมาปรึกษามั้ยเรื่องของหวัง?

ตี๋ :   มีครับ ผมต้องขอปรึกษากับพี่ทนาย เปิดลำโพงให้ได้ยินด้วยกัน เรื่องแรงงานไทยไปขโมยเงินหวัง แล้วก็สร้อยคอทอง ตอนที่ปรึกษามี่โทรมาถามว่าคนงานของนายหวังขโมยเงินและสร้อยคอทองไป จะทำยังไงได้บ้าง มี่ก็บอกว่าไม่รู้จะทำยังไง ผมก็บอกว่างั้นเดี๋ยวไปปรึกษาทนายก่อน พอคุยเสร็จก็เล่ามาปะติดปะต่อ ทุกคนก็เตือนว่าต้องระวังนายหวังหน่อยนะ เพราะมันแปลกๆ เหมือนกัน ทางพี่ทนายก็เตือน ผมเป็นคนย้ำเลยว่ากลางค่ำกลางคืนเวลาไปไหนก็แล้วแต่ต้องระวัง โดยเฉพาะไปกับคนนี้

มี่ทำงานอะไร เอาล่าสุดที่เขาทำงาน?

ตี๋ : เปิดร้านขายอาหาร ขายทุเรียน ผลไม้ ขายหวย ถูกต้องตามกฎหมายนะที่โน่น แล้วก็เป็นล่ามที่เถาหยวน

เขาเปิดร้านทั้งหมด ร่วมทำกับมาร์ค สามี แล้วมุมนายหวังเขาทำอะไรที่โน่น?

ตี๋ : เป็นเหมือนล่าม หัวหน้าคนงาน ไม่เกี่ยวกับมี่เลย แต่เป็นเพื่อนกันและอยู่เมืองเดียวกัน ดูในเฟซได้เลย มีเวลาก็กินข้าว กินเหล้ากันได้

 ลักษณะดูแล้วก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้มีประเด็นอะไรเลย แต่เห็นว่ามีเรื่องทอง 15 บาท?

ตี๋ ทองนี่น้องสาวยืมให้นายหวัง ว่าเอาไปใส่ เวลาทำงานก็ต้องภูมิฐานกันนิดนึง เป็นทองของบ้านมี่ เป็นทองของมาร์ค เหมือนคุยกันเวลาทำงาน น้องสาวจะดูภายนอก เวลาทำงานก็ต้องให้ภูมิฐานหน่อย ดูดีหน่อย ถ้าคุมคนงานก็ให้ดูภูมิฐานหน่อย ก็ให้ทอง 15 บาทไปใส่เลย ให้ยืมปกติ จะใช้วันไหนก็ได้

สนิทกันขนาดนั้นเลย?

ตี๋ : เอาง่ายๆ มีรูปนึง ให้เขานั่งเก้าอี้ แม่นั่งพื้นยังได้เลย มันเกินคำว่าเพื่อน ขนาดแม่เรายังนั่งพื้น ให้ลูกๆ หลานๆ นั่งบนเก้าอี้ มันเหมือนเป็นลูกเป็นหลาน เป็นคนในครอบครัวแล้ว เข้าออกบ้านได้สบายเลย ไม่ต้องบอกใครด้วย

อยากให้เห็นว่าทองที่ให้ไป ก็เหมือนให้พี่น้องใส่นั่นแหละ?

ตี๋ ใช่ มันคือพี่น้อง ทุกคำพูดในเฟซ รักพี่ชาย พี่ชายมาหา เป็นแบบนี้ตลอด

สร้อยคอทองคำหนัก 15 บาท เป็นเส้นเดียวกับที่มาร์คใส่ มาร์คเอาให้หวังใส่เป็นเรื่องปกติ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?

ตี๋ มันรวมเงินอีก 8 แสนด้วย เพราะมีเรื่องว่าต้องไปเอาสร้อยคอคืน เอาเงินคืน แล้วนายสันติบอกว่าเงินถูกแรงงานไทยขโมยไปแล้วหนีแท็ก ตามตัวไม่เจอ น้องสาวก็ปรึกษาผมว่าจะทำยังไงถึงจะตามเงินตรงนี้ได้

เงิน 8 แสนเป็นของใคร?

ตี๋ เงินน้องสาว แต่อยู่กับนายหวัง เขาเอาไปหรือยืมไปนี่แหละ ทอง 15 บาทก็โดนเอาไปด้วย แล้วหนีแท็ก

เลยมองว่าน่าจะเป็นปมเหตุหรือเปล่า?

ตี๋ มีส่วน ผมว่าน่าจะเป็นสาระสำคัญ ธุรกรรมที่ทำด้วยกัน พ่อแม่ทุกคนรู้หมด พี่เขยรู้ พ่อแม่ก็รู้ แต่เงินก้อนนี้ไม่มีใครรู้ แล้วน้องสาวโทรมาปรึกษาผมโดยตรง แล้วย้ำด้วยว่าห้ามบอกใคร ผมเลยปรึกษาทนายว่าจะทำยังไงดี แล้วทุกคนก็บอกว่าต้องระวังหวังเพราะมีพิรุธมาก ผมก็บอกว่างั้นมึงต้องระวังนะ ไปไหนมาไหนเอาแฟนไปด้วย อย่าไปคนเดียว ช่วงหลังๆ น้องเขยเลยตัวติดกับน้องสาวผมตลอด

กรณีนี้ ตัวพี่เองบอกว่ากังวลใจ หลังมีการก่อเหตุฆาตกรรมน้องสาวและน้องเขยพี่ นายหวังหนีกลับมาเมืองไทย พี่กังวลใจเรื่องนึงไม่ได้กลัวนายหวัง แต่กลัวอะไร?

ตี๋ อิทธิพลที่อยู่ข้างหลังแก ผู้หลักผู้ใหญ่เยอะ แกมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลเยอะแถวไชยปราการ เชียงใหม่ ครอบครัวเขาถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีหน้ามีตาพอสมควร

จะดูแย้งกันมั้ย ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลมีหน้ามีตา แต่ปล่อยให้ลูกมายืมเงิน 8 แสน ยืมสร้อย?

ตี๋ ผมว่าในธุรกรรมการเงินทั้งหมด นายหวังเปิดเผยมาจริง แต่มีเงินก้อนนี้ที่เงียบกริบ ไม่มีใครรู้ มีแค่ผมเท่านั้นที่รู้ จนผมต้องปรึกษาทนาย ผมถึงไม่โยงไปว่าแกทำอะไรกัน เพราะมีอะไรปุ๊บพ่อแม่ครอบครัวแกรับผิดชอบ พ่อแกรับผิดชอบอยู่แล้วเวลาเกิดเรื่อง

สุดท้ายมี่กับมาร์คถูกนายหวังฆาตกรรม เอาศพสองศพใส่ไว้ในรถบีเอ็ม เอาไปจอดที่สถานีรถไฟความเร็วสูงของไต้หวัน เสร็จแล้วนายหวังหนีกลับไทย เขาไปจอดทิ้งจุดนี้เพราะอะไร มีการพูดกันว่าอาจอำพรางว่าคนก่อเหตุหนีขึ้นรถไฟ และหนีอยู่ในประเทศ แต่จริงๆ แล้วเขานั่งเครื่องมาสุวรรณภูมิ แล้วนั่งเครื่องต่อมาเชียงใหม่ เดินทางไปที่บ้านแม่เอารถออกมา แล้วเดินทางไปที่บ้านพ่อเขา ตอนหวังมาไทย เห็นบอกว่ามีภาพกล้องวงจรปิดจับได้ หวังนิ่งมาก?

ตี๋ : โหย นิ่งจริงๆ ยิ่งกว่ามืออาชีพ ในคลิปก็มี ผมก็คุยกันในครอบครัว ตอนแรกคิดว่านายหวังอาจเป็นผู้ถูกกระทำด้วย เพราะไปกันสามคน แต่มาเจอคลิปพวกนี้ โห คนนี้ใจโหดเหี้ยมมาก คิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนั้น ทั้งที่ผมเตือนไปไม่ถึงอาทิตย์เลย

คิดว่าเป็นเพราะสร้อย 15 บาท และเงินสด 8 แสนบาทแค่นั้นเหรอ จะมีประเด็นอื่นอีกมั้ย?

ตี๋ ประเด็นของผมน่าจะมาทางนี้เป็นหลัก แล้วมีเงินที่เหลือที่ผมไม่รู้ด้วย ที่คนอื่นอาจรู้ แต่ผมไม่รู้ อาจจะรวมเข้ามา แต่ถ้าเอาตัวนี้มาโยงปุ๊บ หนี้จะเป็นศูนย์นะ

มีการลือกันว่าหักหลังกัน นำแรงงานไทยเข้าไป บิดกันเรื่องเงิน?

ตี๋ : เรื่องนี้ไม่มี ผมกล้ารับรอง เพราะผมเป็นคนประสานงานกับน้องเวลามีอะไรเรื่องนี้ที่เมืองไทย ยกเว้นไปทางโน้นแล้วตกงาน โดนเถ้าแก่ไล่ออก หรือหนีแท็กก็จะมาขอความช่วยเหลือน้องสาวผม

แต่ที่นำแรงงานไทยเข้าไปแล้วเก็บหัวคิว แล้วขัดแย้งกันเรื่องนี้?

ตี๋ อันนั้นอาจเป็นวิชาชีพของคนอื่น แต่น้องสาวผมไม่ได้ทำตรงนั้น อาจรู้แต่ไม่ได้ทำ

นายหวังทำมั้ย?

ตี๋ ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ตอบไม่ได้

หรือน้องสาวไปรู้ความลับอะไรมาหรือเปล่า?

ตี๋ ไม่เกี่ยวนะ เพราะมันไม่ใช่ความลับอะไรมากมายเลย มันไม่ใช่เรื่องสำคัญถึงขั้นต้องปิดผม

อยู่ในสายกับ “คุณสุชาติ ศุภอภิรดีไพลิน” พ่อของนายหวังผู้ก่อเหตุ พ่อเจอนายหวังครั้งล่าสุดที่กลับมาไทยเมื่อไหร่?

สุชาติ คืนวันที่ 9 มิ.ย. ตอนนั้นไม่ทราบว่าลูกไปก่อเหตุมา

ลูกชายมาสารภาพกับพ่อมั้ย?

สุชาติ ไม่มี เขามาถึงก็คิดถึงลูก ไปอยู่กับลูก

เหมือนกลับมาปกติทั่วไป?

สุชาติ ครับผม

วันนี้พ่อติดต่อนายหวังไม่ได้เลย?

สุชาติ : ไม่ได้ครับ

เห็นว่าพ่อเครียดมาก?

สุชาติ โห ผมความดันสูงมาก เมื่อกี้ช่อง 3 ก็มา

มีข่าวว่าฝั่งนายหวังมาถึงไปเอารถที่บ้านน้องสาว แล้วขับรถไปที่บ้านพ่อ ตอนนี้นายหวังน่าจะติดต่อกับคนในครอบครัวอยู่หรือเปล่า?

สุชาติ ติดต่อไม่ได้เลย

พ่อคิดว่าหวังก่อเหตุเนื่องจากสาเหตุอะไร?

สุชาติ อันนี้ไม่รู้เลย

คิดว่านายหวังทำคนเดียวมั้ย?

สุชาติ : อันนี้ในใจผม ในความคิดส่วนตัวผม ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ จริงๆ ทุกคนน่าจะพอเข้าใจได้ คนสองคนที่เสียชีวิต นี่คือความคิดของผม

คิดว่าสังหารคนสองคนแล้วอุ้มใส่รถเองคนเดียว ไม่น่าจะทำคนเดียวได้?

สุชาติ ใช่

ปกตินายหวังมีเรื่องขัดสนเรื่องเงินทองมั้ย?

สุชาติ อยู่เมืองไทยไม่มี เขาไปใต้หวันปีเศษๆ ก็ไม่มีนะ 

ส่งเงินกลับมาที่บ้านมั้ย?

สุชาติ ไม่มีครับ

ทราบเรื่องหนี้สินที่นายหวังก่อขึ้นมา เช่นเรื่องสร้อยคอทองคำ 15 บาท เงินอีก 8 แสนบาท?

สุชาติ ไม่เคยรู้เลย

พ่อรู้จักทางพี่ชายมี่ใช่มั้ย?

สุชาติ : พ่อเป็นเพื่อนสนิทกับคุณแม่พี่ตี๋ครับ กับพี่ตี๋ไม่ค่อยสนิท อายุต่างกันเยอะครับ

มีข่าวลือออกมาว่าพ่อเองเป็นผู้มีอิทธิพล พยายามพาลูกหลบหนี รู้สึกยังไงบ้าง?

สุชาติ มันก็ต้องสืบกันรอบๆ หมู่บ้านที่เราอยู่ เขาคิดยังไงเราไม่รู้ ผมเองไม่เคยมี โดยนิสัยใจคอ 40-50 ปีแล้ว หมู่บ้านเขาก็รู้กันดี

เป็นคนเที่ยงตรง ไม่ปกป้องถ้าลูกทำผิด?

สุชาติ ถูกครับ สิ่งที่เขาทำ เขาก็ต้องรับผิดในตัวของเขาเอง

พ่อพยายามหาทางติดต่อทางหวังมั้ย?

สุชาติ : ติดต่อไม่ได้เลย

ถ้าหวังดูอยู่ อยากบอกอะไรเขา?

สุชาติ : อยากบอกว่าลูกออกมามอบตัวเถอะ อยากให้เขามอบตัวถ้าเป็นความจริง

พ่อมองว่าลูกไม่น่าก่อเหตุคนเดียว?

สุชาติ ครับ

ได้พูดคุยกับครอบครัวผู้ตายหรือยัง?

สุชาติ : เมื่อเช้านี้ได้คุยกับคุณแม่ผู้ตาย ก็กราบขอโทษเขานะ จริงๆ ตัวคุณแม่กับผมก็เหมือนพี่น้องกัน อยู่บ้านเดียวกัน ก็สนิทกันพอสมควร

พ่อเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน มุมพี่ตี๋มองยังไง?

ตี๋ : ถ้าพูดตรงๆ ผมได้ข่าวว่ายังอยู่หมู่บ้านอยู่ แล้วทุกคนได้ข่าวแล้วทำไมยังนิ่ง มีคนทักไลน์ แชตมาอยู่ว่าทำไมถึงนิ่ง ผู้ใหญ่ในท้องที่ทำไมถึงนิ่งอยู่ ผู้หลักผู้ใหญ่ ทุกตำแหน่งด้วย รู้อยู่แล้วว่านายหวังกลับมาในพื้นที่แต่ไม่มีใครทำอะไรเลย ตอนนั้นยูทูปออกไปแล้ว

แสดงว่าทุกคนต้องรู้ว่านายหวังไปก่อเหตุมา?

ตี๋ วันที่ 10 ตอนเช้าเจอรถแล้วเริ่มมีการปล่อยคลิปแล้ว น่าจะวันที่ 10 ถึง 11 ยังมีคนเห็นเขาอยู่ ผมอยากถามว่าแปลว่าอะไร

มุมที่พ่อพูดเมื่อกี้ พี่ไม่เชื่อ?

ตี๋ ผมไม่รู้นะ แต่ผมไม่สบายใจกับคำเหล่านี้ ที่บอกว่าไม่รู้ ติดต่อไม่ได้ ผมบอกตรงๆ เลยว่าสำหรับผม คนเป็นพ่อแม่ใครไม่รักลูกบ้าง โลกนี้ไม่มีหรอก แต่จะพูดยังไงก็แค่นั้นเอง ผมก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอยู่กันแบบญาติ ไม่ได้อยู่กันแบบเพื่อน สนิทกันขนาดไหนก็บอกอยู่ แต่ว่ากรณีที่เกิดขึ้นแล้วก็ต้องออกมาคุย ในเมื่อบอกว่าตัวเองไม่ผิดก็ออกมาดิ แล้วไม่ออกมา ทำเพื่ออะไรล่ะ กลัวทำไมถ้าไม่ผิด จะทำคนเดียวหรือไม่ทำคนเดียวก็แล้วแต่ ก็ออกมาดิ ไม่ได้บอกว่ามาถึงจะเอาไปต้มยำทำแกง มามอบตัวตามกฎหมาย ผมก็มาหาตร.แล้ว มันเล่นนอกเกมส์ไม่ได้แล้ว ก็ออกมาดิ

มุมอาจารย์มองยังไง?

กฤษณพงค์ : ประเด็นแรกน่าจะเป็นแรงจูงใจหรือสาเหตุที่ตั้งคำถาม ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องของทำธุรกิจที่อาจมีความไม่ลงรอย หรือขัดแย้งกันในเชิงลึกซึ่งเราไม่ทราบ อาจเป็นกรณีที่ตี๋บอกว่าน้องสาวมาปรึกษาเรื่องเงิน 8 แสน และทอง 15 บาท ที่บอกว่าเงินหายไป ก็แบ่งเป็นสองประเด็นอีก หนึ่งหายจริง สองไม่ได้หายแต่บอกว่าหาย นั่นหมายความว่าถ้าเรื่องเหล่านี้มีการสร้างผูกโยงกันมา ก็หมายถึงว่าผู้ก่อเหตุประสงค์ต่อทรัพย์สิน ในขณะเดียวกันอาจมีเรื่องธุรกิจที่พูดคุยไม่ลงตัว ไม่ลงรอยกัน ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งนึง

แรงจูงใจเรื่องสร้อยคอทองคำหนัก 15 บาท และเงิน 8 แสนบาท เพียงพอมั้ย เพราะนายหวังที่บ้านก็อาจมีฐานะ คนเรารู้จักกันตั้งแต่เด็ก แรงจูงใจจะมีอะไรนอกเหนือจากนั้นมั้ย?

กฤษณพงค์  คนเราจะฆ่ากันได้ง่ายๆ เลย หนึ่งความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง หลักๆ ที่ฆาตกรรม ความรักดูแล้วไม่น่าใช่ ความโลภมีความเป็นไปได้ ความโกรธมีความเป็นไปได้ถ้ามีความขัดแย้งคุยกันไม่ลงตัว เช่นที่เคยเกิดขึ้น ตกลงว่าจะทำธุรกิจร่วมกันแล้วสุดท้ายไม่เป็นไปตามข้อตกลง เรามักจะพบลักษณะเช่นนี้ในคดีเช่น ยาเสพติด หักหลังกันเอง ก็มีเหตุให้ฆาตกรรมได้ ความหลงความเชื่อในคำสอนของศาสนาที่ไม่ถูกต้องก็มีความเป็นไปได้ ฉะนั้นผมมองว่าคดีนี้มีสองประเด็นคือความโลภ กับเรื่องความโกรธในขณะที่ลงมือ ประเด็นต่อมาหลังก่อเหตุเขามีการอำพรางศพขึ้นรถ โดยหลักแล้วการฆาตกรรมเกิดขึ้น คนร้ายจะหลบหนีจากที่เกิดเหตุ เขาเชื่อว่าถ้าถ่วงเวลาไว้ให้ตร.ตามหาตัวเขายากนิดนึง เขาก็อำพรางโดยการนำศพใส่ในรถแล้วนำไปจอดที่ลานจอดรถของสถานีรถไฟ แน่นอนทำให้เขามีเวลาคิดและหลบหนีออกมานอกประเทศได้

เห็นมีข่าวว่าเขาไปจอดรถตรงจุดนั้นเพื่อให้คนสับสนว่าเขานั่งรถไฟหนีไปหรือเปล่า ทั้งที่ตัวเองขึ้นเครื่องกลับไทย?

กฤษณพงค์ :  ก็มีความเป็นไปได้ แต่ว่าโดยหลักแล้ว ถ้าเราหายไปสักคน ญาติพี่น้องก็เริ่มตามหา พอเริ่มตามปุ๊บ ตร.ก็จะสอบถาม สอบปากคำ ล่าสุดครั้งสุดท้ายพบที่ไหน ตร.จะเริ่มคลำๆ เรื่อยๆ แล้วพบว่าครั้งสุดท้ายพบทั้งสองท่านเดินกันอยู่ตอนกลางคืนแล้วก็หายไปเลย ตรงนี้แหละที่ไปตามไล่จนเจอ น่าเชื่อว่าหายไปแล้วไปอยู่ในรถ สุดท้ายไปตรวจก็พบศพจริงๆ ตรงนี้ร่องรอยหลักฐานจะปรากฏอยู่ แม้กระทั่งพวงมาลัย ประตูที่จับ ทุกอย่างจะปรากฏลายนิ้วมือ คราบเลือด ก็เชื่อว่าคดีนี้มีคำถามตามมาอีกว่า ทำไมเขาถึงเลือกหลบหนีมาประเทศไทย คนก่อเหตุแน่นอนเขารู้ว่าตร.ต้องการตัว ก็ต้องหนี แต่การเลือกหนีที่นั่นกับหนีในประเทศไทย อย่างอยู่ประเทศไทยก็มีพ่อแม่เพื่อนฝูงญาติพี่น้องติดต่อประสานงานให้ความช่วยเหลือได้

มองว่าเป็นการวางแผนมาก่อนมั้ย ฆ่าแล้วกลับไทยเลย?

กฤษณพงค์ :  ประการแรกตั๋วที่ซื้อตรวจสอบได้ ซื้อผ่านเอเย่นต์ ซื้อเองผ่านออนไลน์ หรือซื้อจากไหน สองวางแผนมั้ย อาจดูว่าช่วงเวลาที่เขาก่อเหตุถ้ามีการวางแผน เขาน่าจะวางศพไปซ่อนเร้นอำพรางในลักษณะที่ดีกว่านี้ไม่ใช่ลานจอดรถ การไปจอดแบบนั้นแน่นอนทิ้งไว้ มีรถคันนี้จอดอยู่คันเดียว คนก็สงสัยแล้ว ว่าทำไมจอดข้ามวันข้ามคืน สุดท้ายตร.มาตรวจสอบ ก็เจอศพ ฉะนั้นถ้ามีการวางแผน ก็คิดว่าน่าจะทำได้แนบเนียนกว่านี้ แต่ผมเชื่อว่าเขาน่าจะมีการวางแผนกลับไทย ในการซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว แต่การวางแผนไปฆ่าอันนี้อาจต้องมาดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่ถ้าเขาไปพูดคุยกับผู้เสียชีวิตแล้วมีความขัดแย้ง จนนำไปสู่การก่อเหตุให้เสียชีวิต เขาก็น่าจะหลบหนีมาไทย น่าจะเป็นแบบนั้น

กรณีผู้ร้ายข้ามชาติฆ่าคนไทยตายที่ไต้หวันแบบนี้ แล้วบินกลับมาไทย ถ้าตร.ไทยจับได้ ต้องส่งตัวกลับไปที่โน่นมั้ย?

กฤษณพงค์ :  โดยหลักการ ถ้าเขากระทำความผิดก็ต้องส่งตัวไปดำเนินการที่ประเทศนั้น โดยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกันหรือไม่ หรือมีการร่วมมือกันลักษณะสัญญาต่างตอบแทน หรือกรณีเช่นนี้ ก็เช่นกัน เป็นการร่วมมือกันมากกว่า

เห็นตร.บอกว่ามีสิทธิ์ดำเนินคดีในเมืองไทยด้วย เพราะมีอำนาจเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายไทย ตามมาตรา 8 ป.อาญา?

กฤษณพงค์ :  ครับ ประเด็นแรกมาดูก่อนว่ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันหรือไม่ระหว่างไทยกับไต้หวัน สองคือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ถ้าประเด็นแรกไม่มี กฎหมายให้อำนาจตร.ไทยดำเนินคดีได้หรือไม่ ต้องมาดูรายละเอียดกันอีกครั้ง

 ตอนนี้คนสงสัยว่าข้อกฎหมายจะไปจบตรงไหน ถ้าฆ่าคนตายที่ไต้หวัน คดีเกิดที่โน่น ถ้าไทยจับได้ส่งกลับไต้หวันเขาประหารเลยนะ?

กฤษณพงค์ :  การส่งไปดำเนินคดีกับประเทศต้นทางเพราะร่องรอยพยานหลักฐานทุกอย่างจะปรากฏชัดเจนที่นั่น ในทางกลับกันถ้ามาดำเนินคดีที่ไทยก็ต้องขอสำนวน รายละเอียด หลักฐานจากประเทศนั้น หรือตร.ไทยต้องบินไปประเทศนั้นเพื่อดูสำนวน หลักฐานรายละเอียดต่างๆ เพื่อมาพิสูจน์กันในศาล

พี่มองยังไง?

ตี๋ ตอนนี้หาตัวให้เจอก่อนดีกว่า คนเราอยู่ดีๆ จะหายไปได้ยังไง กล้องวงจรปิดกี่ร้อยตัวที่ภาคเหนือ มันหายไปได้ยังไง คนทั้งคน 80-90 กิโล จะมุดดินหายไปได้ยังไง

กฤษณพงค์ :  เบาะแสจากภาคประชาชนมีความสำคัญ เราดูกรณีคดีสมคิด พุ่มพวง เบาะแสก็มาจากภาคประชาชนทำให้จับกุมคนร้ายได้ กรณีนี้ก็เช่นกัน ท่านผู้ชมที่เห็นคนลักษณะแบบนี้ สามารถแจ้งตร.ได้

 เขาแซ่หวัง เลยเรียกว่าหวังเพราะอยู่ไต้หวัน แต่เขาชื่อสันติ แต่คนที่โน่นเรียกหวัง เจอตัวปุ๊บแจ้งตร.ได้เลย อยากพูดอะไร?

ตี๋ อยากขอบคุณตร.ไต้หวันมาก ที่ช่วยประสานกับไทย แล้วก็สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าไม่ได้ท่าน งานนี้คงไม่รวดเร็วขนาดนี้ และกรมสุลไทยไต้หวันต้องขอกราบขอบพระคุณมาก และกรมแรงงานไต้หวันด้วยครับที่ประสานงานอยู่ ภาวนาให้ตร.ไทยจับได้เร็วๆ จริงๆ ผมไม่รู้ผิดหรือถูก แต่ในเมื่อทุกคนคิดแบบนี้ ก็ออกมาเถอะ ออกมาพูดความจริง

คนในเพจอยากให้จับได้แล้วส่งไปไต้หวัน เพราะกฎหมายที่โน่นมันแรง เขากลัวดำเนินคดีที่นี่แล้วไม่กี่ปีก็ออกมาอีก?

ตี๋ : ก็ออกมาคุยกันถ้าบอกว่าแกไม่ผิดก็ออกมาคุย แล้วที่บอกทำคนเดียวผมก็คิดว่ายาก แล้วผู้ร่วมกระบวนการคือใคร

อาจารย์คิดว่าทำคนเดียวมั้ย?

กฤษณพงค์ การที่คนนึงสามารถทำร้ายคนสองคนได้ แล้วไม่ปรากฏร่องรอยการต่อสู้ ก็น่าสังเกตอยู่ว่าทำได้อย่างไร หรือมีร่องรอยการต่อสู้ อีกคนอยู่ตรงไหน มีโอกาสหลบหนีมั้ย มีการต่อสู้ยื้อแย่งกันมั้ย

คนเดียวจะลากคนสองคนขึ้นรถได้หรือเปล่า?

ตี๋ น้องสาวผมก็อ้วน ท้องอีก ต่ำๆ ตีว่าร้อยโล อุ้มยังไงคนร้อยโล เท่ากับมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน ผมยังอุ้มไม่ไหวเลย นายหวักง็ 80-90 โล จะแบกยังไง

กฤษณพงค์ :  การตรวจสถานที่จะบ่งบอกได้ ถ้าคนเดียวจะพบรอยลากตลอดระยะ