นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวกรณีองค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ระบุพบโครงการ กทม.ที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริต เช่น การจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาล 11 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง มักจัดซื้อเป็นรายการย่อยที่มูลค่ารวมต่อครั้งไม่สูง แต่ไม่ซื้อคราวละหลายรายการเพื่อให้ได้ราคาถูกว่า สำนักการแพทย์ มีการประกาศเจตนารมณ์การป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นอย่างเป็นรูปธรรม และโปร่งใส ตรวจสอบได้ ประชาชนทุกคนจะได้รับการให้บริการด้วยความเสมอภาคและเท่าเทียม พร้อมทั้งในฐานะองค์กรคุณธรรม ตามอัตลักษณ์ขององค์กร “รับผิดชอบ โปร่งใส ใส่ใจบริการ และจิตอาสา” จึงให้โรงพยาบาลและส่วนราชการในสังกัด สำนักการแพทย์ ทุกแห่ง ดำเนินการ ดังนี้ (1) ผู้สั่งใช้ยาและเวชภัณฑ์ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจและผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการคัดเลือก จัดซื้อ จัดหาและใช้ยาและเวชภัณฑ์ โดยยึดประโยชน์ของผู้ป่วยและส่วนรวมเป็นสำคัญ ไม่พึงรับประโยชน์จากการส่งเสริมการขายยาและเวชภัณฑ์ อันนำมาซึ่งประโยชน์ส่วนตน สอดคล้องกับกฎ ระเบียบ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และพึงแสดงความโปร่งใสต่อสาธารณะในกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทยาและเวชภัณฑ์ และ (2) ให้โรงพยาบาลและส่วนราชการในสังกัด กทม.ทุกแห่ง จัดทำแนวทางการดำเนินงานพัฒนาการใช้ยาและเวชภัณฑ์อย่างสมเหตุผลตามนโยบายแห่งชาติด้านยา ตลอดจนกำหนดแนวปฏิบัติตามเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการจัดซื้อ จัดหา และส่งเสริมการขายยาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรให้เหมาะสมกับบุคลากรแต่ละประเภทของโรงพยาบาลและกำกับดูแลให้บุคลากรปฏิบัติตามกรอบจริยธรรมให้ประสบผลสัมฤทธิ์ต่อไป
