ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) คว้า 2 รางวัล HR ระดับเอเชีย

88

ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) คว้า 2 รางวัล HR ระดับเอเชีย ตอกย้ำความสำเร็จกลยุทธ์ Employer Branding ที่ทำให้ SBFT เป็นองค์กรที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชีย

“ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทย” คว้ารางวัล “บริษัทที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2565” (The Best Companies to Work for in Asia 2022) และรางวัล We Care: HR Asia Most Caring Companies Awards 2022 จากนิตยสาร เอชอาร์เอเชีย (HR Asia) ตอกย้ำความสำเร็จของการเป็นองค์กรที่มีการบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นเลิศ การมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีเยี่ยม และการมีส่วนร่วมของพนักงาน เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของกลยุทธ์ “Employer Branding” ด้วยค่านิยมขององค์กร “Suntory Leadership Spirits” กุญแจสำคัญของการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำให้กับพนักงาน การบริหารความหลากหลายอย่างสมดุล (Diversity, Equity, and Inclusion) และการสร้างพันธสัญญาทางใจของพนักงานต่อแบรนด์ (Employee Engagement) เพื่อสานต่อการเป็นองค์กรที่น่าทำงานด้วยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนตลอดไป

นางสาวณัฏฐณิชา วรวรรณเศรษฐ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายสนับสนุนการบริหารงานในองค์กร ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทย และอินโดไชน่า กล่าวว่า “ปีนี้ถือเป็นปีหนึ่งที่ท้าทายสำหรับซันโทรี่ เบเวอร์เรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศ ไทย ในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการบริหารทรัพยากรบุคคล โดยภาพรวมเราสามารถดำเนินงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลบรรลุผลสำเร็จได้ตามเป้าหมาย ด้วยความมุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรของเราที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจและวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทซันโทรี่ (Suntory Group) ที่มุ่งเน้น “Growing for Good” หรือการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในด้านการดำเนินธุรกิจและการบริหารบุคลากรภายในองค์กร รวมถึงเรายังได้ตอบแทนสังคมผ่านโครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและสร้างความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้นให้กับคนในสังคม”

จากการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทยได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจพร้อมกันถึงสองรางวัล จากเวที “HR  Asia” นิตยสารชั้นนำด้านทรัพยากรบุคคลแห่งเอเชีย ประกอบด้วยรางวัล “The Best Companies to Work for in Asia 2022” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับบริษัทในภูมิภาคเอเชียที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานดีเยี่ยม โดยคัดเลือกจากบริษัทชั้นนำกว่า 260 แห่ง โดยรางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่มีการบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นเลิศ การมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีเยี่ยม และการมีส่วนร่วมของพนักงาน นอกจากนี้ ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทย ยังได้รับรางวัล “WeCare : HR Asia Most Caring Companies Awards 2022” จากเวทีเดียวกัน ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับองค์กรที่มีการดูแลใส่ใจพนักงานได้อย่างดีเยี่ยม

“เพราะ ‘พนักงาน’ คือ หัวใจในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ การได้รับรางวัล “The Best Companies to Work for in Asia 2022” จึงเป็นสิ่งสะท้อนภาพดังกล่าวออกมาได้อย่างชัดเจน รางวัลนี้จึงเป็นรางวัลของพนักงานซันโทรี่ฯ ทุกคนที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานอย่างเต็มที่จนทำให้เราเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมและน่าทำงานด้วย นอกจากนี้การได้รับรางวัล WeCare : HR Asia Most Caring Companies เพิ่มมาอีกหนึ่งรางวัล ถือเป็นสิ่งที่ย้ำชัดถึงความมุ่งมั่นของซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทย ที่เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนาการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะการดูแลใส่ใจพนักงานด้วยความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ และมองเห็นคุณค่าในตัวพวกเขา พร้อมส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงานแบบรอบด้าน เช่น การให้สวัสดิการที่เป็นประโยชน์ต่อพนักงานในด้านสุขภาพทั้งสิทธิด้านค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมทั้งตัวพนักงานเองและสมาชิกในครอบครัว และการสนับสนุนค่าสมาชิกฟิตเนสเพื่อ กระตุ้นให้พนักงานหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพตนเองให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการจัดกิจกรรมสันทนาการในโอกาสพิเศษต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีในการทำงาน เพื่อดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากมาทำงานร่วมกับเรามากยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ รางวัลอันทรงเกียรติที่ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทยได้รับมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาต่างๆ นั้นถือเป็นเครื่องการันตีถึงความสำเร็จขององค์กร และสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ “Employer Branding” ได้เป็นอย่างดี ในการมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรในทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้เราเป็นองค์กรที่น่าทำงานด้วย และตอบโจทย์ความหลากหลายของพนักงานได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม

“ปีนี้เรายังคงเดินหน้าดำเนินงานด้านบริหารทรัพยากรบุคคล ภายใต้กลยุทธ์ “Employer Branding” ประกอบด้วย 1. ค่านิยมองค์กร Suntory Leadership Spirits เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย YATTE MINAHARE จิตวิญญาณของความทะเยอทะยาน มุ่งมั่นเรียนรู้ความสำเร็จและความล้มเหลว Gemba Focused ลงมือปฏิบัติงาน เพื่อข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค ลูกค้า และเพื่อนร่วมงาน Better Together ทำงานร่วมกับผู้อื่น ส่งเสริมมุมมองที่แตกต่าง สร้างวัฒนธรรมการยอมรับซึ่งกันและกัน Future Oriented เปิดมุมมองและพัฒนาแผนงาน เพื่อการเติบโตในอนาคต และ Commitment to Growth มุ่งเติบโตด้วยแนวทางการพัฒนาบุคคลแบบองค์รวมในระยะยาว 2. การบริหารความหลากหลายอย่างสมดุล (Diversity, Equity, and Inclusion) ยอมรับความแตกต่างของบุคลากรในองค์กรในด้านต่างๆ เช่น เชื้อชาติ วัฒนธรรม พื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม ความบกพร่องทางร่างกาย เพศสภาพ และประสบการณ์ โดยพนักงานทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน มีการเลือกใช้ความแตกต่างที่เหมาะสมกับงาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด และ
3. การสร้างพันธสัญญาทางใจของพนักงานต่อแบรนด์ (
Employee Engagement) ส่งเสริมความหลากหลายในที่ทำงานผ่านการผสานวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง การสื่อสารอย่างโปร่งใส และเสริมสร้าง Work-life Balance ที่มีประสิทธิภาพ โดยพนักงานต้องเป็นศูนย์กลาง (Employees Centric) ในทุกเรื่อง”

องค์กรที่น่าทำงานด้วยในแบบฉบับของซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทยเป็นอย่างไร นางสาวณัฏฐณิชา กล่าวต่อว่า “ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทยเป็นหนึ่งในองค์กรที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดแห่งหนึ่ง เราขอถอดรหัสการเป็นองค์กรที่น่าทำงานด้วย ดังต่อไปนี้ 1. การยอมรับและหลอมรวมความหลากหลายให้เป็นหนึ่งเดียว (Diversity, Equity, and Inclusion) ยอมรับในตัวตนของพนักงาน และให้โอกาสได้นำแนวคิดที่แปลกใหม่และแตกต่างมาใช้ในองค์กร ผลักดันให้พนักงานกล้าคิด กล้าทำ กล้านำเสนอ ซึ่งบริษัทและลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากความคิดที่หลากหลาย 2. การสร้างวัฒนธรรมในการทำงานที่เป็นมิตรและห่วงใยพนักงาน (Care) พนักงานมีความแตกต่างกัน องค์กรจึงต้องทำให้พนักงานรู้สึกว่า องค์กรและผู้บริหารให้ความสำคัญกับทุกคนเท่าเทียมกัน มีความยืดหยุ่นในการทำงาน และห่วงใยในสุขภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงาน 3. ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมส่วนรวม (Corporate Social Responsibility) เพื่อสร้างเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร นำไปสู่การสร้างความภาคภูมิใจให้กับพนักงานที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในองค์กรและอยากอยู่กับองค์กรไปนานๆ และ 4. การพัฒนาบุคลากร (Talent Development) การรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร ต้องให้การสนับสนุนการเติบโตในหน้าที่การงาน ให้อำนาจการทำงานและการตัดสินใจ มีการฝึกอบรมต่างๆ ทั้งทักษะ “Soft Skill” และ “Hard Skill” รวมถึงการโค้ชชิ่งอย่างใกล้ชิดจากหัวหน้างานและผู้บริหาร มีการเลื่อนขั้นตามความสามารถ และมีการหมุนเปลี่ยนการทำงาน เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่า องค์กรให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นแค่เพียงองค์ประกอบส่วนหนึ่ง แต่ถือว่าเป็นองค์ประกอบหลักๆ ที่ช่วยสร้างความผูกพันในองค์กร (Employee Engagement) และเป็นการรักษาให้พนักงานอยู่กับองค์กรได้นานมากขึ้น”

“นอกจาก ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทย จะมุ่งบริหารงานให้เป็นบริษัทที่น่าทำงานสำหรับพนักงานทุกคน เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายทางธุรกิจอย่างยั่งยืน เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่อาจจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทฯ ในอนาคต ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมการสร้างแบรนด์เพื่อเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ (Branding activities with Young Talents) ร่วมกับวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือการร่วมมหกรรมหางานออนไลน์ (Virtual Career Fairs) ร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ฯลฯ และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างบริษัท โรเบิร์ต วอลเทอร์ส จัดทำพอดแคสต์ (Podcast) ในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น การบริหารความหลากหลายอย่างสมดุล (DEI) และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้นำ (Leadership Insight SEA Leadership) ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือ แนวทางการดำเนินงานด้านเอชอาร์ที่ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศ ไทยจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาการเป็นองค์กรที่น่าทำงานด้วยให้คงอยู่ตลอดไป” นางสาวณัฏฐณิชา กล่าวทิ้งท้าย