เพาเวอร์บาย จัดเอ็กซ์คลูซีฟทริปขอพรวัดเล่งเน่ยยี่กับ “หมอช้าง” พร้อมแนะวิธีไหว้พระเสริมมงคลอย่างไรให้ถูกต้อง

39

ถ้าพูดถึงวัดจีนที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทยนั้น คงต้องยกให้กับวัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส ในย่านเยาวราช หรือไชน่าทาวน์ ที่ในแต่ละปีจะมีผู้คนหลั่งไหลมาไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลตลอดปี และเพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยรับปีกระต่ายทอง เพาเวอร์บาย โดย นายวรวุฒิ พงศ์ชินภัค กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้จัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟทริปชวนลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ผู้โชคดีของเพาเวอร์บาย ร่วมทริปไหว้พระเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตที่วัดเล่งเน่ยยี่ กับ “หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา” ที่มาให้ความรู้พร้อมแนะวิธีไหว้พระอย่างไรให้ถูกต้อง เสริมความเฮงตลอดทั้งปี

ประเดิมทริปมงคลด้วยเกร็ดความรู้จาก หมอช้าง เกี่ยวกับประวัติของวัดเล่งเน่ยยี่ วัดมังกรกมลาวาส หรือที่เราชอบเรียกว่า ‘วัดเล่งเน่ยยี่’ ถ้าเรียกเป็นภาษาจีนกลางก็จะออกเสียงว่า ‘หลงเหลียนซื่อ’ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2414 ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดแบบจีน ประกอบด้วยอาคารหลักคืออุโบสถตั้งอยู่ตรงกลาง ด้านหน้ามีวิหารจตุโลกบาล ด้านหลังเป็นวิหารบูรพาจารย์ ส่วนด้านซ้ายขวาก็มีวิหารอื่นๆ อีกหลายหลัง

มาถึงเวลาที่ทุกคนรอยคอย หมอช้าง ได้แนะนำวิธีและขั้นตอนการไหว้พระขอพรอย่างไรให้ถูกต้อง สำหรับการไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่นั้น เริ่มต้นจากการไหว้ฟ้าดินบริเวณด้านหน้าก่อน และยืนหันหน้าออกไปหน้าวัด ความสำคัญของขั้นตอนนี้คือ การกราบไหว้ฟ้าดิน พ่อแม่ ครูอาจารย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องให้เกียรติ และให้ความเคารพ หมอช้าง ได้แนะเคล็ดลับว่า ก่อนที่เราจะไปไหว้พระทำบุญทุกครั้งควรรวบรวมสมาธิและสติของตนเองก่อน เอ่ยชื่อนามสกุลแล้วจึงค่อยอธิษฐานกับฟ้าดิน ถือเป็นการเริ่มต้นไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่

และเมื่อก้าวสู่ประตูทางเข้าห้องโถงของโบสถ์ จะได้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบวัดจีนอย่างเห็นได้ชัดจากวิหารของท้าวจตุโลกบาล ตามความเชื่อของชาวจีนที่ว่าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ได้แก่ ท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร เจ้าแห่งผีและยักษ์ ประจำทิศเหนือ ท้าวธตรฐ มีคนธรรพ์เป็นบริวาร เป็นเจ้าประจำทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก มีกุมภัณฑ์เป็นบริวาร ประจำทิศใต้ และ ท้าววิรูปักข์ มีนาคเป็นบริวาร ประจำทิศตะวันตก ซึ่งช่วยปกป้องดูแลทั้งสี่ทิศของวัด

ในลำดับต่อไปจะเข้าไปบริเวณอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระประธาน 3 องค์ ประกอบด้วย ‘พระศรีศากยมุนี’ อยู่ตรงกลาง ฝั่งขวาเป็น ‘พระอมิตาภพุทธเจ้า’ ส่วนฝั่งซ้ายเป็น ‘พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์’ โดยมี 18 อรหันต์ตั้งขนาบทั้งสองข้าง เมื่อเราไหว้กราบขอพรจากพระประธานทั้ง 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องไปกราบสักการะองค์ไฉ่ชิงเอี๊ยะ หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ชาวจีนให้ความศรัทธา และขอพรเรื่องโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา นิยมไหว้กันในคืนที่จะเข้าเทศกาลปีใหม่จีนหรือชิวอิก

อีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปีชงคือ วิหารแห่งองค์ไท้ส่วยเอี๊ย หรือเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ส่วนวิธีการไหว้นั้น เริ่มจากการเขียนรายละเอียดส่วนตัวในชุดไหว้ หลังจากนั้นนำชุดไหว้ไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย บอกชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด อธิษฐานขอบารมีคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย หลังจากนั้นก็ทำพิธีนำชุดไหว้ปัดตัวตั้งแต่บริเวณหน้าผากลงมา จำนวน 13 ครั้ง และนำชุดไหว้ใส่ในกล่องที่ทางวัดเตรียมไว้ ระหว่างทำพิธีต้องตั้งใจมีสมาธิ สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาแก้ปีชงก็สามารถไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลกับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยได้เช่นกัน อย่างไรก็ดียังมีเทพเจ้าอื่นๆ เช่น ปึงเถ่ากงม่า องค์ฮั่วท้อเซียงซือ

ส่วนถัดมาที่หมอช้าง พาไปชมคือ วิหารพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ และวิหารของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือคนไทยรู้จักในนามของเจ้าแม่กวนอิม “พระโพธิสัตว์กวนอิม” เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความเมตตา ขอพรอะไรก็สมปรารถนา อีกหนึ่งจุดสำคัญบริเวณด้านหลังอุโบสถ เป็นวิหารบูรพาจารย์ สถานที่ประดิษฐานรูปของพระอาจารย์สกเห็ง หรือพระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร ปฐมบูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ และเจ้าอาวาสลำดับที่ 6 และ 9 นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้ากวนอู ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน การค้าขาย เสริมมิตรภาพที่ดี

โดยทริปนี้ “หมอช้าง” ได้นำลูกค้าคนสำคัญของเพาเวอร์บายไหว้พระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ในวัดเล่งเน่ยยี่อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเองสร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นทริปที่ทุกคนอิ่มเอมด้วยความสุข อิ่มบุญ พกความเฮงกลับบ้านกันทั่วหน้า แถมยังได้เกร็ดความรู้ดีๆ ในการไหว้พระเสริมมงคลอีกด้วย