“ไอติม พริษฐ์” เคลียร์ชัด #มีกรณ์ไม่มีกู แจง “หมอพรทิพย์” อย่าใช้อำนาจ ส.ว.มาแทรกแซงเก้าอี้นายกฯ

83

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์แรง #มีกรณ์ไม่มีกู หลังจากที่มีข่าวหลุดว่าพรรคก้าวไกล หวังจะดึงพรรคชาติพัฒนากล้ามาร่วมรัฐบาล จนทำให้เกิดความไม่พอใจในโลกโซเชียล และมีเสียงแตกแยกจากคนในพรรคกันมาก ล่าสุดรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง8 เลยขอเชิญหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของพรรค “ไอติม-พริษฐ์ วัชรสิทธุ” ว่าที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล มาร่วมตอบทุกข้อสงสัยหลายประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดใจความเห็นต่างด้วยศาสนาของการสมรสเท่าเทียม การเดินหน้านโยบาย 100 วันแรกทำได้จริงหรือไม่ แถมถูกโยงว่าตนอาจจะข้นแท่นเป็นประธานสภา ฯลฯ แฟนๆสามารถติดตามคำสัมภาษณ์เต็มๆได้ทางยูทูบช่อง 8 https://youtu.be/wGOAFuMrrtw  เท่านั้น

เดี๊ยนทราบว่า มีการลงนามใน MOU (Memorandum of Understanding) เป็นการเรียบร้อยทุกเงื่อนไข ทุกข้อที่ระบุใน MOU เป็นที่รับรองกันแล้วทุกพรรคใช่ไหมคะ?

MOU ก็จะมีลายเซนตัวแทนของทุกพรรคการเมืองที่มาร่วมรัฐบาล 8 พรรคอยู่ตรงนั้นครับ อย่างที่ผมบอกว่า วาระของรัฐบาลผสมที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นวาระที่ทุกพรรคเห็นตรงกัน แนวปฏิบัติที่ทุกพรรคเห็นตรงกัน อันนี้ก็จะถูกลงนามเรียบร้อย เป็นสัญญาประชาคมกับประชาชน แต่ในส่วนที่ 2 แต่ละพรรคการเมืองอาจจะมีวาระเฉพาะของตนเอง ที่อาจจะมีพรรคร่วมรัฐบาลอื่นเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยสุดแล้วแต่ สุดท้ายแล้วแต่ละพรรคก็มีสิทธิ์ไปขับเคลื่อนต่อ ไม่ว่าจะเป็นภายใต้อำนาจฝ่ายบริหาร ในกระทรวงที่พรรคนั้นมีตัวแทนเป็นรัฐมนตรี หรือว่าแผนการเสนอการแก้ไข กฎหมายเข้าไปในสภา โดยแต่ละพรรคก็มี ส.ส.ที่เป็นพรรคการเมืองนั้นๆอยู่ในสภาครับ พอลงนามเสร็จวันพรุ่งนี้อาจจะเสนอเพิ่ม ตัดบางข้อออกแบบนี้ยังสามารถทำได้ไหมคะ? คืออะไรที่ขัดแย้งกับลงนามไปแล้วคือไม่ได้อยู่แล้วครับ แต่สมมุติว่ามีประเด็นอะไรเพิ่มเติม สมมุติไปค้นพบว่ามีนโยบายเพิ่มเติม ที่ไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งที่อยู่ข้างใน MOU อยู่แล้ว เพิ่มเติม ก็สามารถขับเคลื่อนในฐานะกับพรรคร่วมรัฐบาลได้อยู่แล้วครับ

นโยบายร่วม ทุกพรรคเห็นด้วยหมดไหมคะ เรื่องสมรสเท่าเทียม คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา เขาก็เป็นผู้ใหญ่ท่านนึงในกลุ่มของพี่น้องมุสลิม เดี๊ยนว่าข้อนี้ผิดหลักศาสนา เขาจะเห็นด้วยเหรอคะ?

ผมเริ่มจากหลักการก่อนนะครับ สมรสเท่าเทียมคืออะไร สมรสเท่าเทียมคือการบอกว่า ประชาชนเพศใด มีความรัก มีความประสงค์กับเพศใด ต้องสามารถแต่งงานกันได้ รายละเอียดก็คือเปลี่ยนนิยามการสมรสในกฎหมายแพ่ง จากการบอกว่าการสมรสเป็นสิ่งระหว่างชาย-หญิง เป็นการสมรสเป็นสิ่งระหว่างบุคคล 2 คนไม่ว่าเพศใดก็ตาม ก็จะทำให้ทุกคนทุกเพศมีความเสมอภาคเท่ากัน สามารถสมรสกันได้ตามกฎหมาย ซึ่งมันไม่ใช่แค่การที่รัฐมารับรองความรักอย่างเดียว แต่มันหมายถึงการเข้าถึงสิทธิต่างๆที่คู่สมรสได้รับด้วยเช่นกัน เป็นการสร้างความเสมอภาคของคนทุกเพศผ่านกฎหมาย ผมยืนยันว่าสิทธิ์สมรสไม่ได้ขัดกับหลักเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่กฎของศาสนาบางศาสนาเขาไม่อนุญาต? คือสิทธิ์สมรสเป็นสิทธิ์ นั่นหมายถึงว่า ถ้าใครประสงค์อยากสมรสกัน แยกให้ออกระหว่างสิทธิ์ด้านกฎหมายกับศาสนา? ใช่ครับมันเป็นสิทธิ์ ประชาชนถ้าประสงค์จะสมรสกันก็สามารถกระทำได้ไม่ว่าเพศใด แต่สมมุติประชาชนคนใดคนหนึ่ง อาจจะมองว่าการที่สมรสระหว่างคนที่มีเพศกำเนิดเดียวกันขัดกับหลักศาสนาหรือความเชื่อของตนเองก็เลือกที่จะไม่ใช้สิทธิ์นั้นได้ ยืนยันได้ว่าสิทธิ์สมรสกับสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาไม่ได้ขัดแย้งกันครับ แล้วเราไม่ได้มีการบังคับคนที่อาจมีความเชื่อในศาสนาที่ไม่ได้รองรับการสมรสของ 2 คนที่ไม่ได้มีเพศกำเนิดเดียวกันต้องเข้าสู่กระบวนการหรือว่าพิธีนั้นครับ

ก่อนหน้านี้มี #มีกรณ์ไม่มีกู คิดอย่างไรคะถึงไปเอาพรรคนั้นเข้ามาร่วม เพื่อให้ได้จำนวน ส.ส.ตามจำนวนคือ อยากได้มาโดยไม่ดูนโยบายขัดกับเราหรือเปล่าเหรอคะ คนเขาด่ากันทั่วบ้านทั่วเมือง?

เข้าใจครับ ผมคิดว่าปรากฏการณ์นี้ ข้อท้วงติงนี้ ก็ได้รับการยุติแล้วนะครับ จากแถลงการณ์ล่าสุดของพรรคก็ยืนยันว่ายุติการเจรจาในการดึงพรรคชาติพัฒนากล้า เข้ามาร่วมรัฐบาลนะครับ ข้อเท็จจริงก็เป็นตามที่ปรากฏเลยครับ พอมันมีข้อมูลออกมาว่าฝ่ายคณะผู้บริหาร หรือคณะเจรจามีการพูดคุยทาบทามพรรคชาติพัฒนากล้าเข้ามาร่วมรัฐบาลใครเป็นคนเจรจาคะ ส่วนตัวหรือมติพรรค? คือต้องบอกว่าการทำงานที่ผ่านมาตามการแถลงการณ์คือก็แน่นอนก็มีการมอบหมายให้คณะเจรจา ซึ่งถูกรับรองในคณะกรรมการบริหารพรรคไปเจรจาครับ พอมีการทาบทามเกิดขึ้น ได้มีข่าวปรากฏออกมา ก็แน่นอนได้รับข้อท้วงติงจากประชาชนภายนอก จากผู้สนับสนุนพรรค จากคณะทำงานจังหวัด จากเจ้าหน้าที่พรรค จากว่าที่สภาผู้แทนราษฎรจากพรรคอย่างกว้างขวาง พอมีการท้วงติงอย่างนั้นปุ๊บ ทางกรรมการบริหาร และคณะเจรจาก็น้อมรับ และมีการยุติครับ ได้ข่าวว่าส.ส.ในพรรคก้าวไกลทำท่าไม่พอใจจะลาออกกันหมด? ก็มีความไม่พอใจสูงครับ ฯลฯ

ทราบมาว่าคุณหมอพรทิพย์ไปให้สัมภาษณ์ว่าพรรคของคุณมีนายทุนความคิดเป็นคนต่างชาติ และการกระทำของพรรคก้าวไกลดูเหมือนกำลังกดดัน ส.ว. และอันนี้เป็นความรู้สึกนะคะ เขาไม่ส่งเสริมคนพิธาเป็นนายกฯหรือเปล่า?

ต้องไล่ทีละประเด็น ประเด็นแรกของคุณหมอพรทิพย์ก่อน จริงคุณหมอพรทิพย์เป็นหนึ่งใน 63 ส.ว. ที่ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา เคยลงมติเห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ เพราะฉะนั้นคุณหมอพรทิพย์ก็เคยแสดงความเห็น และความจริงเป็นคนนึงที่สนับสนุนมาตลอดนะครับให้มีการยกเลิกอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ หมายความว่าคุณหมอพรทิพย์ก็เห็นตรงกันว่า คนที่จะมีสิทธิ์ในการเลือกนายกฯ ควรจะเป็น ส.ส. 500 คน มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นั้นผมก็หวังว่าในเมื่อคุณหมอพรทิพย์เคยลงมติแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้ ครั้งนี้คุณหมอพรทิพย์ก็จะไม่ใช้อำนาจที่ยังมีอยู่ ในการเข้ามาแทรกแซงในการจัดตั้งรัฐบาล และก็เคารพจุดยืนที่เคยให้ไว้ในอดีต ส.ว.ไม่ควรจะเข้ามามีอำนาจในการเข้ามาแทรกแซงการเข้ามาเลือกนายกฯ ประเด็นเรื่องนายทุน ยืนยันไม่มีแน่นอนครับ และอย่างที่บอกผมเองก็ยังอยู่ในทีมที่มีส่วนร่วมในการจัดทำ(ยกหนังสือ 300 นโยบายเปลี่ยนประเทศ) แต่เขาก็เมาท์กัน? เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเมาท์ แต่ผมให้ข้อเท็จจริงแล้วกันครับว่า 300 นโยบายนี้ ผ่านกระบวนการที่พรรคอาจจะเป็นเจ้าภาพนะครับ ก้าวไกลเป็นเจ้าภาพ เราก็มีกระบวนการที่รวบรวมความเห็นของประชาชน และกลั่นกรองออกมากว่า 300 นโยบายที่คิดจะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้จริง ถ้าดูในรายละเอียดโครงสร้างจะเห็นว่าพรรคก้าวไกล เราไม่ได้ทำนโยบายช่วงเลือกตั้ง ย้อนไป 2 ปี เรามีการตั้งองค์กรที่มีชื่อว่า Think Forward Center นำโดย อ.เดชรัต สุขกำเนิด ที่พยายามวิเคราะห์ปัญหา เป็นหน่วยงานกึ่งวิจัย คิดวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ รวบรวมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ จากประชาชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกลั่นกรองมาเป็น 300 นโยบาย ท้ายสุดแล้ว เราทำงานการเมืองตรงไป ตรงมามากนะครับ ไม่ว่าประชาชน หรือใครที่มีส่วนร่วมในการออก แบบนโยบายนี้ สิ่งที่เราทำคือการสื่อสาร 300 นโยบายนี้กับประชาชนก่อนเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมาจากไหนก็ตาม และเรายืนยันไม่มีคนต่างชาติมามีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน แต่ไม่ว่าจะมาจากคนไทยคนไหนก็ตาม หรือกระบวนการใดก็ตาม ทั้ง 300 นโยบายนี้เราสื่อสารประชาชนก่อนเลือกตั้ง และประชาชนที่ให้การสนับสนุนเรา ก็ลงคะแนนเสียงในการเห็นถึงแผน 300 นโยบายตรงนี้ครับ

แฟนๆสามารถติดตามรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27  และรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น!