กรณี ซัน และ อาย หลานชายและหลานสะใภ้ ของ “อากู๋เหมทัศน์” เข้าร้องขอความเป็นธรรม “กับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ระบุว่าตนเองได้ของขวัญแต่งงานจากอากู๋เหม เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ในซอยรามอินทรา 58 เมื่อเดินทางมาดูบ้าน ปรากฏว่ามีคนเข้ามาอยู่อาศัย ต่อเติมบ้าน จึงเข้าไปถามคนที่อยู่ในบ้าน ทำให้เกิดการโต้เถียงอ้างกรรมสิทธิ์ในบ้าน ขณะที่คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน อ้างบ้านถูกปล่อยร้างนาน 30 ปีเข้ามาดูแลให้เฉยๆ ไม่มีเจตนาบุกรุกหรือครอบครองปรปักษ์ พยายามติดต่อขอเช่ากับเจ้าของแต่ติดต่อไม่ได้ จึงเข้ามาดูแลเรื่อยมาเป็นเวลา 10 ปี แต่ต่อมา ทั้งคู่กลับได้รับหมายฟ้องปรปักษ์บ้านหลังดังกล่าว เมื่อเข้าไปดูบ้านพบมีป้ายมาติดหน้าบ้าน ซึ่งทำเป็นร้านขายไก่ทอด อีกทั้งมีป้ายโชว์ว่าได้รับการครอบครองปรปักษ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 12 ก.พ. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 คุณอาย-คุณซัน ผู้เสียหาย , อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน
มันเกิดอะไรขึ้น หลังออกรายการโหนกระแสเมื่อเดือนส.ค. มันน่าจะจบแล้ว?
อาย : ตอนแรกคิดว่าจะจบแล้ว เพราะในรายการเขาเป็นคนพูดเองว่าโอเค ยอมย้ายออก ถ้าไม่ขายหรือไม่เช่าก็ไม่เป็นไร เขาบอกจะไปรับสารภาพกับตำรวจทุกอย่าง แต่วันนั้นเขาก็ไม่ได้ไปค่ะ ทิ้งระยะเวลาไว้สักพัก จนตร.ออกหมายเรียกเขาถึงเข้าไป มีการเจรจากันอีกครั้งนึง แต่ก่อนเจรจา วันที่ 17 ก.ย. ปี 66 อายกับซัน และคุณพ่อเข้าไปล็อกบ้านอย่างแน่นหนาแล้ว เราเข้าไปดูในบ้าน เราประเมินราคาบ้านมา ล็อกกุญแจด้วยโซ่บริเวณหลังบ้าน ในบ้าน ประตูรั้วแน่นหนา ถ้าเขาจะเข้าไปได้เขาต้องพังกุญแจ ทำลายทรัพย์สินของเราเท่านั้น”
คุณกะไปรีโนเวต?
อาย : ใช่ค่ะ
ตรงทางเชื่อม ขวามือเป็นบ้านคู่กรณี เขาไปทุบด้านข้างกำแพง แล้วใส่กรอบประตูสามารถเดินเชื่อมต่อไปที่บริษัทไปบ้านผู้เสียหาย และเข้าไปหลังบ้านที่เป็นครัว ไปทำกับข้าวได้ ใส่วงกบ ถังแก๊สเต็มที่เลย ทำอาหารกิน ไม่มีใครไปอยู่ เขาขออยู่เอง อันนี้ครั้งนั้น?
อาย : เจตนาตอนนั้นเขาบอกว่าเขาแค่เข้ามาดูแล รอเจ้าของบ้านติดต่อมาจะขอซื้อหรือขอเช่า ไม่หวังครอบครอง เขาบอกทุกรายการทุกช่องด้วย รวมถึงรายการโหนกระแสด้วยค่ะ ว่าเขาหวังดี
หลังจากนั้นปัญหาเกิดขึ้น อยู่ดีๆ มีเรื่องอะไร?
อาย : หลังจากล็อกบ้าน วันที่ 29 ก.ย. ทางเขาจะขอเจรจาไกล่เกลี่ย เราก็เข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ยที่สน.โคกคราม เขาได้พาทนาย ซึ่งเป็นทนายคนเก่ามาเจรจา พูดประมาณว่าเขาพิสูจน์มาแล้วว่าราคาบ้านรวมที่ดิน ประมาณ 9 แสน เขาจะขอซื้อในราคาที่เราให้สูงแล้วนะ 1.3 ล้าน
ตอนแรกคุณจะขายเท่าไหร่?
อาย : ถ้าเป็นราคาประเมินที่ดินบริเวณนั้น ที่เราประเมินมาแล้ว ราคาขาย 2.5 ล้าน สามารถนำเอกสารตรงนี้ไปยื่นสินเชื่อธนาคารได้เลย
เขาขอซื้อ 1.3 ล้าน คุณก็ไม่ขาย?
อาย : ไม่ขายค่ะ เราตกลงกันว่าถ้าคุณอยากซื้อมากๆ คุณก็ต้องซื้อในราคาที่เราต้องการ เพราะเราไม่มีเจตนาขายตั้งแต่แรก คุณเข้ามาในกรณีนี้ มันก็ต้องรวมค่าผลประโยชน์ที่เราเสียไป อย่างเช่นคุณเข้ามาในบ้านปี 60 แล้วคุณนิด นิตยาเขาก็ยอมรับเองว่าเขาเข้ามาปี 60
วันนั้นคุยกับคุณนุ เป็นอีกคนนึง?
อาย : ใช่ค่ะ เพิ่งมาเปิดเผยตัวตนทีหลัง
คุณนุบอกว่าเธอทำเอง ไม่ใช่คนอื่น ขวามือที่เป็นบ้านคู่กรณี เขาบอกจริงๆ เป็นบริษัท เขาเป็นพนักงานบริษัทนี้ เขาถือวิสาสะไปทุบบ้านหลังนี้เพราะเขาอยากมีที่กินข้าว เขาเลยไปทุบเพื่อกินข้าว ไม่มีเจตนาอื่นเลย อีกเจตนา เขาหวังว่าวันนึงจะมีเจ้าของบ้านมาหาเขา เขาจะซื้อบ้านหลังนี้ ฉะนั้นคุณนุเป็นคนรับเองว่าเขาทำบ้านหลังนี้คนเดียว รับในรายการ แล้วเขาบอกจะไม่มีการฟ้องครอบครองปรปักษ์ด้วย เขาจะไปรับทราบข้อกล่าวหาวันนั้นเลย เสร็จปุ๊บ คนที่มาฟ้องปรปักษ์กลายเป็นอีกคนไม่ใช่คุณนุ แล้วเป็นใคร?
อาย : เขาแจ้งว่าเป็นแม่บ้าน
แต่จริงๆ แล้วเป็นใคร?
อาย : เป็นญาติค่ะ
เอาญาติมาฟ้อง แต่นามสกุลเดียวกัน ไปๆ มาๆ ถึงได้มารู้ว่าเจ้าของบริษัทเป็นใคร?
อาย : สามีคุณนุค่ะ เขาทำบริษัทรับสัมปทานประปา
ปรเมศวร์ : ตอนไปดูตอนแรก เขามีที่นอนหมอนมุ้งมั้ย
อาย : ไม่มีค่ะ
ปรเมศวร์ : จบแล้ว (หัวเราะ)
มันเกิดขึ้นในสังคมจริงๆ เหรอ ในมุมบ้านเอง ถ้าไม่ใช่ของเรา ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว?
ปรเมศวร์ : ที่ที่เขาแย่งการครอบครอง ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ที่เขาไม่ทำกิน แต่พอมีบ้าน เขาไม่แย่งการครอบครองกัน เพราะบ้านมันแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ต่างจังหวัดที่ดินว่างเปล่า ไม่มีใครมาทำเลย เป็นสิบปี คนก็เข้าไปทำกิน ก็เหมือนการสละการครอบครอง
พอคุณไปติดโซ่ มันเป็นยังไง?
อาย : เราก็คิดว่าไม่ขายให้เขา เขาก็โอเค ไม่ขายไม่เป็นไร เราก็คิดว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่ตร.ยื่นเรื่องเข้าอัยการ ฟ้องคดีอาญาต่อ เราก็ไม่คิดว่าต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ คดีตอนนั้นเหมือนทางเขาเลื่อนส่งเอกสารมาตลอด ตั้งแต่ 4 ก.ย. ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ส่งเข้าอัยการ ยังอยู่กับตร.
ปรเมศวร์ : ที่เจาะประตูเข้า ตอนนี้เป็นไง
อาย : เขาตัดทิ้งหมดแล้วค่ะ แล้วเอากลอนตัวเองมาใส่ค่ะ ของเราหายไปหมดแล้ว
หลังจากนั้นคุณรู้ได้ไงว่าเรื่องเริ่มเปลี่ยนไป มีหมายมาหาคุณเมื่อไหร่?
อาย : เขาน่าจะยื่นเรื่องไปวันที่ 22 พ.ย. เป็นการขอครอบครองปรปักษ์ ฟ้องโดยนางศรีพรรณซึ่งไม่ใช่คุณนุค่ะ
เคยมีคลิปนึงที่คุณเคยไปคุยกับแม่บ้านคนนั้น เป็นคนนั้นเปล่า?
อาย : ใช่ค่ะ
เป็นคุณศรีพรรณกับคุณนิตยาที่ฟ้องคุณ คุณศรีพรรณพูดว่าเขาอยากให้เอาของของเขาออก?
อาย : ใช่ค่ะ หรือถ้าไม่เอาออก ก็จะขอคิดค่าใช้จ่ายเราในส่วนต่อเติม
คำว่าเขา แสดงว่าไม่ได้หมายถึงคุณศรีพรรณ?
อาย : เขาพูดถึงเจ้านายค่ะ
แต่ตอนนี้ศรีพรรณกลับมาฟ้อง มันดูย้อนแย้ง?
อาย : ใช่ค่ะ
ปรเมศวร์ : จริงๆ สิ่งที่เขาทำ ละเมิดเรานะ เขาต้องใช้หนี้ให้เรา ไม่ใช่เราใช้หนี้ให้เขา สองใส่โซ่คล้องกุญแจล้ว ต่อมาถูกตัด ไปแจ้งความข้อหาทำให้เสียทรัพย์หรือยัง
อาย : แจ้งไปแล้วค่ะ แต่ตร.บอกว่าอะไรนะ
ซัน : เหมือนตร.บอกว่ามันอยู่ในกระบวนการคดีเดิม
ปรเมศวร์ : ไม่เกี่ยว คนละคดีแล้ว
อาย : ข้อกล่าวหาเดิมบุกรุก แจ้งทำให้เสียทรัพย์ไม่ได้
ปรเมศวร์ : ตัดกุญแจมันเสียทรัพย์ โรงพักไหนเนี่ย
อาย : สน.โคกครามค่ะ เขาบอกเป็นการบุกรุกคดีเดิม
ปรเมศวร์ : ไม่เกี่ยว ทำให้โซ่กุญแจเขาขาดก็เป็นการทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกก็บุกรุก ต่างกรรมต่างวาระ ตัดโซ่คือทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกเข้าไป สองกรรม ผิดกฎหมาย อาจผิดกฎหมายกรรมเดียวหลายบท แต่ต้องรับแจ้ง
เสียงคุณศรีพรรณกับคุณนิตยา เป็นครั้งแรกในเดือนส.ค. หลังจากนั้นคุณกลับไปดูอีกที หลังล็อกประตูแล้ว?
อาย : กุญแจเราหายหมดเลย กลายเป็นร้านขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา มีเบอร์แจ้ง
ปรเมศวร์ : นี่ก็บุกรุกอีก
แต่เขามีป้ายติดเลยนะ บ้านนี้ ข้าพเจ้าได้กรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย บุคคลใดเข้ามากระทำการใดๆ ในที่ดินแห่งนี้ถือว่าบุกรุก จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ศาลตัดสินแล้วเหรอ?
ปรเมศวร์ : เลอะเทอะ ศาลยังไม่ให้เลย นี่แหละบุกรุกหนักไปอีก กุญแจหายก็ลักทรัพย์ ต้องเล่นทุกดอกหรือเปล่า สำหรับคนหน้าไม่บาง น่าเกลียด ยังไม่ได้สิทธิ์แล้วบอกเป็นเจ้าของ คุณนั่นแหละบุกรุก โฉนดชื่อใคร
อาย : ชื่อกู๋ค่ะ
ปรเมศวร์ : จบ คุณไม่ได้กรรมสิทธิ์ ที่ดินเป็นของใครดูตามเอกสารสิทธิ์ คุณมีอะไร คุณมีแค่มโนภาพของคุณเอง ผมเริ่มมองแล้ว ใครจะรับคำคดีแบบนี้ผิดแนวทาง ศาลยังไม่ตัดสินเลย คุณจะมาอ้างเป็นเจ้าของได้ไง แล้วบอกเลยคดีแบบนี้ ผมพูดตรงๆ ผมว่าตัวสองสามคนนี้ไม่น่ารู้เรื่องหรอก ถูกใช้มาเป็นนอมินีของคนด้านข้าง ถ้าด้านข้างเป็นบริษัท กำลังใช้คนเหล่านี้
แต่ฝั่งนี้เขาเชื่อว่าบริษัทน่าจะเป็นสามี?
อาย : ใช่ค่ะ สามีคุณนุ
แต่สามีไม่มาฟ้องเอง?
ปรเมศวร์ : คุณนุถอยแล้วไง นี่ก็เอาแม่บ้านมา
แต่แม่บ้านเป็นญาติเขาอีก?
อาย : แล้วของที่วางก็เป็นของบริษัท แบบนี้คือยังไง
ปรเมศวร์ : บริษัทบุกรุกด้วยซ้ำไป น่าจะฟ้องร้องบริษัทข้อหาบุกรุกด้วย เอาเดชาไปจัดการ มันชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเป็นนิติบุคคลแบบนี้ ผมถือว่าไม่มีธรรมาธิบาลนะ แล้วใช้คนอื่นมาเป็นนอมินี เป็นตัวแทน ไม่ถูกแล้ว จริงๆ ไปเช็กดูสิ แม่บ้านคนนี้ คุณนุคนนี้ บ้านเลขที่อยู่ตรงไหน มันจะรู้เลย คนครอบครองของคนอื่นถ้าเป็นบ้านเขาจะไม่มีบ้านจริงๆ ถ้าแค่เอาไก่มาขายก็เหมือนตั้งแผงลอยหน้าบ้านเขานั่นแหละ
คุณไปเห็นเองเลยมั้ย ที่เขาแปะป้ายขายไก่?
อาย : เห็นเองเลยค่ะ เราเห็นเขานั่งอยู่ 2-3 ท่าน แต่เราไม่กล้าเข้าไป เพราะกู๋เคยเตือนว่าอย่าไปทะเลาะกับเขานะ เราไปคุยกับเขาดีๆ ขนาดเขาทำกับเราแบบนี้ ทางกู๋ยังบอกว่าอย่าไปทะเลาะกับเขา เราก็เลยโอเค เราขอไปหาตร.ดีกว่า เพราะเราคิดว่าตร.เป็นที่พึ่งพาให้กับเราได้ดีที่สุด
ที่ไหน?
อาย : สน.โคกครามค่ะ เราก็ไปติดต่อสน.ให้ทางตร.เข้าไปดูให้หน่อย ทีนี้เหมือนเจรจาคลาดเคลื่อน ตร.เข้าไปคุยกับคู่กรณีก่อน เขาก็คงเตลิดไปเลยพอเห็นตร.มา แล้วล็อกกุญแจไว้หน้าบ้านเลย ทีนี้ตร.ก็ไปช่วยกดกริ่งเขาข้างๆ บริษัทค่ะ แล้วคุณนิตยาก็เดินออกมาคุย เขาก็ไม่ตอบอะไร พยายามบ่ายเบี่ยง หนูถามเขาว่ามีคนแนะนำคุณหรือเปล่าที่คุณเข้ามาแบบนี้ เพราะเราล็อกบ้านไว้แล้ว ถ้าคุณจะเข้ามาได้ คุณก็ต้องงัดบ้านเข้ามา คุณทำให้เราเสียทรัพย์นะ เขาก็บ่ายเบี่ยง อ้ำอึ้ง ให้คุยกับทนาย
ล่าสุดคุณถ่ายคลิปเอาไว้ ทนายเขาว่ายังไง?
อาย : ทนายเขาก็ไม่ได้ตอบรับว่าแนะนำให้ลูกความเขาไปปลดกุญแจหรือเปล่า เขาบอกแค่ว่าลูกความเขาไม่ได้สละสิทธิ์ เขาแค่ตกใจ นักข่าวไปหาเขา เขาแค่กดดัน เขากลัวมีเรื่องพิพาท เลยย้ายออกมาชั่วคราวแล้วกลับเข้าไป ไม่ได้สละสิทธิ์
ปรเมศวร์ : ถ้าออกมาแล้วก็ครอบครองไม่ต่อเนื่องไง เขากล่าวอ้างไม่ได้หรอก
พยายามติดต่อทนายความแต่ตอนนี้ไม่รับโทรศัพท์แล้ว เมื่อวานคุยกับผมอยู่ ตอนแรกแกจะมาด้วย แต่แกบอกว่าอย่าให้มาเลย เดี๋ยวโดนทัวร์ลง?
ปรเมศวร์ : ไม่มาก็ลง ถ้าตอบแบบนี้ เจ้าของบ้านเขายังอยู่แล้วรู้อยู่แล้วเจ้าของบ้านยังไม่ได้สละสิทธิ์ แล้วถอยชั่วคราว ไม่มีใครเขาทำกัน
ประเด็นทั้งหมด คือทางเขาเองบอกว่าบ้านหลังนี้ซื้อมา 30 ปี เจ้าของไม่เคยมาเลย ช่วงปี 54 เขาเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้ เข้าไปพัฒนาบ้าน จนปัจจุบันมาช่วงปี 66 เจ้าของจริงถึงได้ปรากฏออกมา ซึ่งเจ้าของจริงไปแจ้งฝั่งโน้นว่าบุกรุก ฝั่งโน้นกว่าจะไปรับทราบข้อกล่าวหาก็นานเหลือเกิน อยู่ดีๆ ดึงไปดึงมา กลายเป็นฝั่งโน้นไปแจ้งทนายให้ช่วย ทนายบอกว่างั้นแจ้งครอบครองปรปักษ์แล้วกัน เขาอ้างว่าอยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ 54 จนถึงวันนี้13 ปีแล้ว ฉะนั้นเขาครอบครองปรปักษ์ได้ เขาอยู่มา 13 ปีโดยไม่มีใครคัดค้าน?
ปรเมศวร์ : ก็ต้องคุณนุไปฟ้องสิ
อยู่ในสายกับ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ตกลงคดีนี้เขาฟ้องครอบครองปรปักษ์ พี่เตรียมสู้ยังไง?
เดชา : ผมว่าอยู่เฉยๆ ก็ชนะแล้วนะ เพราะพยานหลักฐานมันชัดเจนว่าเขาครอบครองปี 60 ไม่น่ามีอะไร กูเกิ้ลมันชัดเจน เมื่อ 2-3 วัน ของผมก็มีคดีสไตล์หน้าด้านแบบนี้ที่ชลบุรี วันที่ 30 ม.ค. ศาลก็ยกฟ้องแนวหน้าด้านแบบนี้เหมือนกัน
เดี๋ยวเขาก็ฟ้องเอาหรอก?
เดชา : กลัวเขาไม่ฟ้อง ฟ้องมาเลยจะได้บอกศาลว่าแบบนี้เรียกว่าหน้าด้านหรือเรียกว่าอะไรดี คนพวกนี้อย่าไปเล่นเบาๆ ต้องเอาหนักๆ ขนาดมันออกไปแล้วยังเข้ามาใหม่ ไม่เรียกว่าหน้าด้านจะเรียกว่าอะไรล่ะครับ
ถ้าเขามีหลักฐานว่าเข้าไปอยู่ปี 54?
เดชา : มันไม่มีครับ คำร้องของเขาเองเอกสารที่เขาแนบมา ภาพถ่ายเนี่ย มันก็ชัดอยู่แล้วว่าไม่มี เขาแนบกูเกิ้ลได้แค่บางปีเอง แล้วศาลเดี๋ยวนี้เขาดูกูเกิ้ลหมด มันชัดเจน เป็นพยานหลักฐานที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ตอนนี้เขามาติดป้ายขายไก่หน้าบ้าน เราเข้าไม่ได้ทำไง?
เดชา : ก็ไปแจ้งความแล้วที่โรงพักโคกครามแต่เขาไม่มีปัญญา โรงพักนี้ เดี๋ยวผมไปฟ้องเอง ไม่มีอะไร ถ้าไม่มีปัญญาช่วยเหลือคนในพื้นที่ ผมก็รู้จักทั้งผกก.และรองผกก. เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง จะไปพึ่งอะไรเขา
จริงๆ ตร.ต้องไปเอาป้ายนี้ออกให้เหรอ?
เดชา : จริงๆ เขาต้องจัดการ ไอ้พวกนั้นเป็นของกลางทั้งนั้น แต่เขาอาจไม่ไหวแล้ว งานหนัก ช่วยเหลือตัวเองดีกว่า ฟ้องเอ
ในนี้เขียนว่าได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย?
เดชา : หน้าด้าน ศาลยังไม่สั่งเลย ทำไมหน้าด้านขนาดนี้ ผมเกิดมา 60 แล้วนะ ยังไม่เคยเห็นใครหน้าด้านขนาดนี้เลย หน้าด้านจริงๆ
อยากบอกอะไรฝั่งโน้น?
เดชา : นึกถึงบาปบุญคุณโทษบ้าง คนเราเกิดมานับถือศาสนาพุทธ ยื่นภาพถ่ายมา ทำบุญตักบาตรทุกวันเลย แต่ไปแย่งทรัพย์สินของผู้อื่น อย่างนี้เขาเรียกพวกบาปหนา
จะทำยังไงต่อไป?
เดชา : คุยกับอากู๋เรียบร้อยแล้ว เอาติดคุกให้หมด ทั้งคนร้อง คนเบิกความเท็จ เราจะเอาเข้าคุกให้หมดเลย ถ้าปล่อยคนเหล่านี้ไป วันข้างหน้าหมู่บ้านนี้ไม่เหลือหรอก เดี๋ยวก็เป็นของเขาหมด แทนที่จะหาเงินมาซื้อเอง กลับไปยึดบ้านเขาคนอาไร๊คนอาไร
ปรเมศวร์ : เข้าใจว่าบริษัทที่อยู่ข้างๆ เป็นตัวการหรือเปล่า พวกนี้คือนอมินีมั้ย ต้องแจ้งความจับหุ้นส่วนบริษัทหมดเลยนะ
เดชา : เอาให้ยกบริษัทเลยมั้ยพี่
ปรเมศวร์ : น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นคนของห้างหุ้นส่วน ผมถือว่าธรรมาธิบาลห้างหุ้นส่วนนี้ไม่มี คนไปบุกรุกถามว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ไหน เป็นคนงานบริษัท มีประกันสังคมมั้ย ผมเชื่อมือเดชา คดีแบบนี้เดชาชอบ
เดชา : เดี๋ยวบอกอากู๋จับมันทั้งบริษัทนะ ไม่ต้องเอาไว้เลย
ปรเมศวร์ : เอาให้ครบ ถึงจะอยู่ได้อย่างสงบสุข
เดชา : ทนายเอามั้ย
ปรเมศวร์ : ตัดสินใจเอง ผมไม่เกี่ยว (หัวเราะ)
เดชา : ปล่อยเขาไปเถอะทนาย มันต้องทำมาหากิน
ปรเมศวร์ : แต่หน้าที่ต้องมีคุณธรรมนะ ไปดันทุกเรื่องก็ผิดมรรยาทได้นะ
กังวลใจมั้ย?
เดชา : ไม่มี ไม่ต้องห่วงเลยคดีนี้สบาย แค่เอาเข้าคุกกี่คนแค่นั้นเอง
วันนั้นคุยกับคุณนุ เป็นผู้หญิง พูดในรายการ แกบอกว่าแกเป็นคนไปทุบเองแกเป็นพนักงานแล้วหาที่กินข้าว แต่คนฟ้องกลายเป็นอีกคน มองเรื่องนี้ยังไง?
เดชา : ก็ยื่นคำร้องเท็จอยู่แล้วในตัว มันก็โกหกศาลหน้าด้านๆ ผมว่าติดคุกกันหมดพวกนี้ ไม่เหลือ
พี่ไม่เคยเห็นเรื่องราวแบบนี้เลยเหรอ?
เดชา : ผมเป็นทนายปีนี้ปีที่ 39 ก็ไม่เห็นอะไรที่มันหน้าด้านหน้าทนอะไรขนาดนี้ และไม่คิดว่าจะมีคนรับจ้างว่าความด้วย โหย เขารับไปได้ยังไง ทนายคนเดิมก็ถอนตัวไปแล้ว ขอโทษขอโพยไปแล้วว่ามันไม่มีศีลธรรม ไปแย่งทรัพย์สินเขา เขาถอนตัวไปหมดแล้ว
พี่เดชบอกไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้?
ปรเมศวร์ : ผมก็ไม่เคยเห็น มีแต่เห็นการแย่งกันครอบครองที่ดิน แต่แย่งแล้วเขาต้องเสร็จก่อนถึงแสดงตนว่าเป็นเจ้าของ ถ้าศาลยังไม่พิพากษายังไม่ได้ แต่ยึดบ้านเพื่อนไม่มี ผมไม่เคยเห็น มีแต่ที่เราเคยทำ สร้างบ้านล้ำที่ อันนั้นเป็นความเข้าใจผิด แต่นี่ตั้งใจเลย
เขามั่นใจในมุมที่เขาทำ เขาอ้างว่าเข้ามาครอบครองปี 54 หนึ่งในพยานมีพระสงฆ์ด้วย ทางทีมมีโอกาสไปสัมภาษณ์กับพระ เพื่อยืนยันว่าเขาอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ปี 54 พระบอกว่าไม่ขอตอบปี เพราะจำไม่ได้ แต่ปี 54 ก็เห็นเขาอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าบ้านมีกรณีพิพาท เขาอยู่ตั้งแต่บ้านไม่มีต้นกล้วย แต่ไม่รู้บ้านของใคร ตอบแค่สิ่งที่เห็น คุณคิดว่าพระท่านว่ายังไง?
อาย : บิณฑบาตก็อาจเห็นแค่ตอนช่วงเช้า เขาอาจเอาของไปวางแล้วมาเตรียมใส่บาตรก็ได้ แต่ถ้าหลักฐานที่เรามี อายคิดว่าศาลท่านน่าจะเห็นในเรื่องของหลักฐาน เรื่องกูเกิ้ลสตรีท เพราะเป็นหลักฐานที่ไม่สามารถแก้ไขดัดแปลงแก้ไขได้ คิดว่าศาลท่านน่าจะเห็นว่าเป็นหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือสูงในเรื่องของเทคโนโลยีด้วย เพราะเราแก้ไขตรงนี้ไม่ได้ จะมีอะไรเป็นหลักฐานอะไรได้ดีกว่ากูเกิ้ลสตรีทคะ ซึ่งกูเกิ้ลสตรีทจะบอกปีพ.ศ. เลยค่ะ
ปี 55 ที่พระบอกว่าปี 54 ไม่มีต้นกล้วย แต่ปี 55 มีต้นกล้วย ต้นกล้วยจะใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?
อาย : ต้นสูงท่วมบ้านมากเลยนะคะ แล้วสภาพบ้านคืออยู่ไม่ได้นะคะ เพราะของรกเต็มไปหมด ไม่มีคนอยู่ค่ะ
จากนั้นเดือนไหนต่อมา?
อาย : กูเกิ้ลสตรีทไม่พบหลักฐานในปี 2556 ถึง 2559 ที่เราเจอ จะเป็นปีพ.ศ. 2560 เลย
มีประตูรั้วใหม่ หน้าต่างเป็นอะลูมิเนียมทำใหม่ มีกันสาด ผ่านไป 5 ปี ปี 55 ยังไม่มีใครมาอยู่เลย พอปี 60 กูเกิ้ลสตรีทบอกว่ามีเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าปี 60 ถึงวันนี้ก็ไม่ถึง 10 ปี ถ้าจะสู้กันจริงๆ?
อาย : ใช่ค่ะ หรือเขาอาจเข้าใจผิดหรือเปล่า ว่าการเข้าไปในบ้าน เอาของมาวางเป็นครั้งเป็นคราว จะเข้าใจว่าเขาครอบครองปรปักษ์ แต่สำหรับอายมองว่าเป็นการใช้ประโยชน์ชั่วครั้งชั่วคราวแค่นั้น หนูไม่ทราบว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า
นอกเหนือจากนั้นล่าสุดมีป้ายไก่ทอด ตอนแรกมีเบอร์อยู่ข้างล่าง ปัจจุบันเบอร์แหว่งไปแล้ว ต่อสายหาเบอร์นี้หน่อย ว่าทำไมเขาถึงไปขายอยู่ตรงนี้ ตามเบอร์ที่เขาเขียน แต่หลวงพ่อไปพูดแบบนี้?
ปรเมศวร์ : ไม่เป็นไรหรอก หลวงพ่ออาจสับสนก็ได้ เดี๋ยวเดชาก็ต้องเช็กอีก หลวงพ่อบวชกี่พรรษา เคยบวชที่ไหน ต้องเช็กหมดแหละพยาน แต่กูเกิ้ลมันเถียงไม่ได้นะ เขาสำรวจบ่อยๆ ชัดเจน
ตอนนี้อยู่ในสายกับคุณไก่ทอด เอาเบอร์คุณมาจากป้ายที่มีการห้อยไว้ แล้วบอกว่าขายไก่ทอดที่บ้านหลังนั้นคุณขายไก่ทอดที่นั่นหรือเปล่า?
ไก่ทอด : ไม่ใช่ค่ะ อันนี้เบอร์หนูเอง ใช้มาเกือบปีแล้วค่ะ หนูอยู่ภาคใต้ค่ะ
หนูไม่ได้ขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาเหรอ?
ไก่ทอด : ไม่ใช่ค่ะ ไม่เคยขายไก่เลยค่ะ ไม่เคยไปกรุงเทพฯ เลย ไม่รู้จักคนเกี่ยวข้องกับบ้านหลังนี้
รู้จักคุณนุมั้ย?
ไก่ทอด : ไม่รู้จักค่ะ
คุณศรีพรรณ นิตยา รู้จักมั้ย
ไก่ทอด : ไม่ค่ะ
แล้วเบอร์หนูมาขึ้นตรงนี้ได้ไง มีใครโทรมาซื้อไก่ทอดกับหนูมั้ย?
ไก่ทอด : มีโทรมาสามวันติด วันนี้วันที่สี่ที่คนโทรมา หนูก็บอกไปว่าหนูไม่รู้จักค่ะ หนูเป็นนักศึกษาอยู่
แล้วก่อนหน้านี้มีคนโทรมามั้ย?
ไก่ทอด : ไม่มีค่ะ มีโทรมาวันที่ 9-10 ที่ผ่านมาค่ะ
เป็นไปได้มั้ย อยู่ดีๆ มีคนเอาเบอร์หนูใส่ไว้ เขาเพิ่งรู้และเพิ่งโทรมา?
ไก่ทอด : หนูก็เพิ่งรู้ตัวค่ะ ตอนแรกคิดว่าเป็นไลน์แมนหรืออะไรที่โทรผิดมา หนูก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ แต่พอมาเมื่อวาน วันที่สามแล้ว ทำไมยังโทรมาอีก หนูก็เลยถามเขาว่ามีอะไรหรือเปล่า เขาบอกจะซื้อไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา หนูก็บอกว่าหนูไม่ได้ขายค่ะ หนูก็ตกใจค่ะ (หัวเราะ)
นักข่าวโทรไปเยอะมั้ย?
ไก่ทอด : มีช่อง 3 ค่ะ
เราพยายามติดต่อน้องไป ว่าทำไมใส่เบอร์นี้ไว้ เราอยากกินไก่ เลยโทรไปถาม ปรากฏว่าไม่ใช่ แจ้งความหรือยัง?
ไก่ทอด : ไม่ได้แจ้งค่ะ คิดว่าไม่ได้เรื่องใหญ่อะไร แค่คนโทรผิดเฉยๆ
ถ้าจะให้น้องไปแจ้งความ น้องจะแจ้งมั้ย?
ไก่ทอด : แจ้งค่ะ
น้องไปแจ้งความนะ ว่ามีคนเอาเบอร์น้องมา เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของน้อง เอาไปติดที่บ้านหลังนึงด้วย ตร.จะได้เรียกเขาไปที่ใต้นะ ตร.ต้องเรียกไปประทับนิ้วมือที่ใต้นะ?
ไก่ทอด : ค่ะ
อยากบอกอะไรคนเอาเบอร์น้องไปติดแบบนี้มั้ย?
ไก่ทอด : เอาเบอร์หนูลงเถอะค่ะ หนูไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร มีคนทักเข้ามาด่าหนูในไลน์เยอะมากเลยค่ะ ทั้งโทร ทั้งทักมาในไลน์ด้วยค่ะ
น้องอยู่จังหวัดอะไร?
ไก่ทอด : สงขลาค่ะ
ถ้ามีคนโทรไปขู่หรือบอกว่าอย่าแจ้งความ ให้อัดเสียงไว้เลยนะ?
ไก่ทอด : ได้ค่ะ
ปรเมศวร์ : ถ้าไม่ใช่เบอร์ของเรา เอาเบอร์ไปขึ้นไม่ได้ ผิดพรบ.ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล คนที่ขึ้นนะ ขายไก่ทอดนะ ร้องครอบครองปรปักษ์นะ โทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 ล้าน แล้วน่าสังเกตคนไปฟ้องเป็นแค่แม่บ้าน แล้วใครเป็นคนลงทุนให้ ต้องมีอะไรบางอย่าง
เขาตัดเบอร์ทิ้งไปแล้ว?
ปรเมศวร์ : ไม่เกี่ยว ความผิดสำเร็จแล้ว ถ้าผมเป็นคนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง หนึ่งต้องถอนฟ้อง ถ้าไม่ถอนฟ้อง ก็ขอเช่า ถ้าเขาไม่ขาย ทำให้ถูกกิจจะลักษณะ ผมเห็นด้วยนะที่น้องบอกว่าหลวงพ่อเห็น เขาอาจเอาของมาวางหน้าบ้าน คนไทยก็ชอบเป็นแบบนี้ ของเอาไปวางก็คือบุกรุกนะ หลวงพ่อพูดถูกไม่ใช่ของเราเอาไปก็ไม่ถูก
ความน่าจะเป็น เราเข้าใจได้มั้ย ป้ายขายไก่ทอด น่าจะถูกทำขึ้นมาใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ?
ปรเมศวร์ : สร้างใหม่เท่านั้นแหละ ปีที่แล้วยังไม่มีเลย ถึงบอกว่าจริงๆ ฝากพนักงานสอบสวน การตัดกุญแจทำให้เสียทรัพย์ เอากุญแจไปด้วยก็ลักทรัพย์ ถ้าเข้าไปด้วยบุกรุก มันไม่ใช่กรรมเดียวกัน ความผิดต่างกรรมกัน ทั้งบุกรุก เสียทรัพย์ ยอมความได้ แต่ลักทรัพย์ยอมความไม่ได้ รองโจ๊กถึงบ่นบ่อยๆ แจ้งความแล้วไม่รับเรื่องถึงต้องมาร้องกรรชัยนี่แหละ
ผกก.อาจไม่รู้ก็ได้ แต่จริงๆ ต้องรับ แล้วมันชัดมาก การที่ไปบอกว่าเป็นกรรมสิทธิ์แล้ว ตร.ก็ต้องถามว่ามีคำสั่งศาลมั้ย ณ วันนี้น้องจะทำยังไงต่อไป?
อาย : ทางเราได้คุยกันในครอบครัวแล้วกับทางอากู๋ เราจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเลย จะไม่ยอมความด้วยในเรื่องนี้ บุคคลใดถ้าในส่วนการเบิกความเท็จ ถ้าได้ข้อมูลตรงนี้มาเราจะดำเนินคดีฟ้องแพ่ง ทุกบุคคลที่เป็นพยาน
ปรเมศวร์ : เดชาทำครบ ไม่ต้องห่วง
ทนายให้สัมภาษณ์ฝั่งพีพีทีวี กลายเป็นคุณเป็นผู้ไปกระทำเขา?
ปรเมศวร์ : ถ้าไกล่เกลี่ยแล้วถอยออก คุณก็หลอกศาลสิ แสดงว่าไม่มีความซื่อตรงต่อกันเลยใช่มั้ย กลัวทัวร์ลงแล้วถอยก่อน แล้วมายึดใหม่ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ถ้าใครแนะนำแบบนี้ใช้ไม่ได้ เขาพูดเองจะคืนหมดแล้วไปหมดแล้ว และเป็นคดีอยู่ ถ้ามันอยากจะถอยกลับเข้ามา ต้องไปคุยกับเราที่โรงพัก ไม่ใช่แค่หลบทัวร์ลง แล้วมาเอาต่อ ยิ่งไม่มีคุณธรรมใหญ่เลย รู้อยู่แล้วไม่ใช่เจ้าของ ถอยก่อนเพราะกลัวทัวร์ลง ถามว่ายังมีคุณธรรมอยู่เหรอ ยิ่งไม่มีคุณธรรมใหญ่เลย
คำว่าครอบครองปรปักษ์ หลายคนอาจไม่เข้าใจ จริงๆ มันคืออะไร?
ปรเมศวร์ : เอาเฉพาะเรื่องที่ดิน มีอยู่แปลงนึงผมไม่เข้าไปทำมาหากินเลย จนมีคนเข้าไปปลูกพืช ปลูกผักแล้วมาเก็บเกี่ยว แบบนั้นครอบครอง แต่ที่บ้านเราไม่เคยเห็น บ้านถ้าเข้าไปอยู่ก็เข้าไปอยู่ยาว ไม่ใช่เข้าๆ ออกๆ เข้าไปอยู่ยาว มีที่นอนหมอนมุ้ง ต้องอยู่ถาวรโดยสงบและเปิดเผย อยู่ตลอด ไม่หลบใคร ที่นอนหมอนมุ้งต้องมี ถ้าเป็นที่ดินครอบครองโดยการทำกิน แต่บ้านที่อยู่อาศัย ต้องเข้าไปอยู่อาศัย ไม่ใช่แว๊บเข้าแว๊บออก สมมติผมมีโทรศัพท์ โทรศัพท์ผมหาย มีคนเก็บได้ ตร.แจ้งให้ผมไปรับ ผมต้องไปรับภายในหนึ่งปี แต่ถ้าผมไม่ไปรับ ถือว่าผมสละสิทธิ์การครอบครอง ถ้ามีที่ดิน แล้วทิ้งโฉนด 10 ปี ถือว่าสละการครอบครอง แต่ขณะเดียวกัน คนเข้าไปอยู่ก็ต้องอยู่ 10 ปี ที่ดินเข้าไปทำนา ปลูกผัก 10 ปีเก็บเกี่ยวเขาไม่มา แบบนี้ก็ทิ้งแล้ว บ้านก็เหมือนกัน ถ้าจะเข้าไปอยู่ต้องมีหมอนมุ้ง อยู่อาศัย ไม่ใช่เข้าไปจัดปาร์ตี้ อย่างนี้เขาเรียกถือวิสาสะ หรือเรียกว่าบุกรุก ครอบครองปรปักษ์คือต้องการเป็นของตัวเอง ไม่ใช่แว๊บเข้าแว๊บออก ถ้าแบบนี้หน้าบ้านผม 3 ไร่กว่าผมก็ได้หมดแล้ว
พยายามติดต่อคุณนุ ศรีพรรณ นิตยา เพื่อให้ชี้แจง ติดต่อไม่ได้ ศรีพรรณปิดเครื่องไปแล้ว ทนายความก็บอกว่าอย่าเลย ตอนนี้ทัวร์ลงหนัก แต่อาจารย์มองว่าไม่น่ามีปัญหา?
ปรเมศวร์ : ไม่มีปัญหา กูเกิ้ลชัด ฝากผู้ชม ไม่มีอะไรที่พิสูจน์ความจริงไม่ได้ มองย้อนกลับไป คดีที่ฆ่ากันไม่กี่วันนี้ ความจริงออกมาหมด เพียงแต่ขอออกเฉพาะคดี ส่วนตัวไม่เอา ทุกเรื่องออกมาหมด พระไม่ว่าหรอก ท่านอายุมาก อาจจะหลงก็ได้ ตอนเขามาบิณฑบาตเขาใส่อะไรบ้าง จำได้มั้ย ไม่มีหรอก แต่อาจจะเบลอๆ
แต่ระยะเวลา 1 ปี ต้นกล้วยไม่น่าโตได้ขนาดนั้น?
ปรเมศวร์ : ใช่ แล้วเป็นไปได้ คนตักบาตรชอบไปยืนหน้าบ้านคนอื่น นี่คือความเป็นไปได้ ที่สำคัญเคยเจรจา พอเจรจาแล้วถอย แสดงว่าคุณสละสิทธิ์ยึดถือครอบครอง 10 ปี 15 ปี คุณถอยแล้ว ตอนนั้นต้องชมว่ามีคุณธรรม แต่ตอนนี้เริ่มมีอธรรมเข้ามาอีก พูดง่ายๆ อย่าสู้คดีเลย ถอยๆ แพ้ๆ ไปเถอะ สุดท้ายห้างหุ้นส่วนจะเจ๊งไปด้วยนะ อย่าล้อเล่น เพราะมันออกชัดว่าอันนี้เป็นนอมินี คุณจะอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้มั้ย เผื่อใครเกี่ยวข้องประมูลงาน ประปาเขาตั้งเงื่อนไขได้นะ บริษัทคุณไม่มีคุณธรรม เหมือนบริษัทแห่งนึง เจ้าของโดนคดีเรื่องล่าสัตว์ วันนี้ยังมีปัญหาเลย เดี๋ยวนี้โลกธุรกิจมีธรรมาภิบาลสูงขึ้น
เขาบอกว่าถ้าชนะจะให้แก๊งเงินกู้นอกระบบไปเช่า?
อาย : หรือว่าหนูไปอยู่ดีมั้ยคะ เผื่อได้เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
ปรเมศวร์ : เราไม่เข้าเขาก็ไม่ย้าย เราเข้าเขาก็มองหน้ากันไม่ไหว ก็ต้องย้าย
น้องสองคนนี้หวังว่าบ้านหลังนี้จะเป็นเรือนหอ คิดว่าจะได้บ้านหลังนี้กลับคืนมา พอไปดูอีกทีไม่ใช่แล้ว โซ่คล้องไว้โดนตัดต่างๆ นานา ส่วนตร.บอกว่าแจ้งซ้ำ?
ปรเมศวร์ : นี่บุกรุกใหม่
อาย : ถ้าเขายังอยู่ในบ้านเราจะทำยังไงให้เขาออกไปดีคะ
ตร.ไง?
อาย : ตร.แจ้งว่าต้องรอฟ้องขับไล่อย่างเดียว
ปรเมศวร์ : ไม่ใช่รอฟ้องขับไล่ ไปยึดป้ายไก่ทอด ยึดอุปกรณ์ทั้งหมด นั่นคือของกลางทั้งหมด ต้องยึดเลย ยึดก่อน ยึดแล้วเขาก็อยู่ไม่ได้
อาย : ไปแล้วกลัวเขาจะรับแจ้งหรือเปล่า
ซัน : เราเข้าบ้านหลังนั้นได้หรือเปล่า
ปรเมศวร์ : ได้สิ เพราะบ้านเรา
อีกอันน่าสนใจ ป้ายติดข้างหน้าที่บอกว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา ศาลยังไม่ได้ตัดสินเลย?
ปรเมศวร์ : ป้ายอันนี้คือหลักฐานการบุกรุก ตร.ต้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต้องมองให้ละเอียด แม้ไม่ได้เข้าไป แสดงป้ายก็บุกรุก กฎหมายเราไม่ใช่แค่อ่าน อ่านกฎหมายให้เป็น ดูกฎหมายให้ออก สมัยนี้นักกฎหมายดูกฎหมายออก แต่อ่านกฎหมายไม่เป็น มันเลยมั่วไปหมด
มีอะไรอยากพูด?
อาย : ถ้าคู่กรณีดูอยู่ ถ้ามองว่าเรื่องแบบนี้ไม่ผิด เป็นเรื่องปกติ แล้วคุณโดนกระทำ เราเป็นผู้กระทำคุณ ก็ขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราเกิดขึ้นกับทางครอบครัวคุณบ้างค่ะ
ปรเมศวร์ : ผมว่าเราอยู่ด้วยกันอย่างมีคุณธรรม กฎหมายเป็นกฎกติกาสังคมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และสงบ อยู่ด้วยกันอย่าทะเลาะกัน พระก็พูดแล้ว ไม่ใช่ของของเรา อย่าถือวิสาสะเป็นของเรา
อาย : เราไม่ขอเจรจาไกล่เกลี่ย และไม่ขายบ้าน แล้วก็จะไม่ยอมความด้วย ถ้าคดีตัดสินมา เราจะขอเบิกความเท็จ และขอดำเนินคดีกับคู่กรณีและพยานทั้งหมดค่ะ ที่หนูมาออกรายการ มีบุคคลท่านอื่นโดนแบบนี้เหมือนกัน จะรอคดีเราตัดสิน ถ้าคู่กรณีชนะเขากังวลใจมาก แต่ถ้าเราชนะ เขาจะเอาคดีเราไปฎีกาอ้างอิงได้ค่ะ
ปรเมศวร์ : ฝากข้อกฎหมายข้อเดียว เจ้าของบ้าน เจ้าของที่ ไม่ได้อยู่ สงกรานต์แวะไปที่บ้าน ไปยืนในที่ พักผ่อน ถ่ายรูปเอาไว้ ปีละครั้ง ใครเข้าไปอยู่ก็ไล่ออก ใครทำมาหากิน ปลูกผัก ปลูกปลาเอาไว้ ก็ถ่ายรูปบอกปีพ.ศ. ไม่ปล่อยปละละเลย