ไทม์ไลน์การเสียชีวิตของ เชสเตอร์ แห่ง Linkin Park ย้อนชีวิตเศร้ามูลเหตุฆ่าตัว

872
แฟนเพลงยังคงอยู่ในอาการช๊อกและโศกเศร้าที่โลกแห่งดนตรีร็อกต้องสูญเสียครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง กับการจากไปของ “เชสเตอร์ เบนนิงตัน” bkk variety ขอสรุปไทม์ไลน์การเสียชีวิตของฟร้อนท์ แมน แห่ง Linkin Park พร้อมประวัติชีวิตของเชสเตอร์ ร๊อกสตาร์ในดวงใจของแฟนเพลงทั่วโลก
  • เช้าวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฏาคม เวลาสหรัฐ จนท.รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านพักที่ ลอส แองเจลิส เมื่อบุกเข้าไปก็พบศพ เชสเตอร์ วัย 41 ปี แขวนคออยู่ในห้องนอนตัวเอง
  • แม่บ้านที่ทำงานในบ้านของ เชสเตอร์ พบศพเป็นคนแรก ก่อนโทรหา จนท. และยืนยันการเสียชีวิต เวลา 9 โมงเช้า ตอนที่ เชสเตอร์ กระทำการแขวนคอ ภรรยาและลูกของเขาออกไปข้างนอกพอดี
  • การสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตยังดำเนินต่อไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าฆ่าตัวตาย แต่ข้อสังเกตคือไม่พบจดหมายหรือโน๊ตอะไรทิ้งไว้ก่อนตายเลย
  • รายงานบอกว่ามีสมาชิกของวงคนหนึ่งกำลังแวะไปหา เชสเตอร์ ที่บ้าน (ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร) แต่กลับพบตำรวจเต็มไปหมด
  • TMZ นำเสนอข่าวนี้เป็นเจ้าแรก ก่อนที่สื่ออื่นจะทยอยตีข่าวตามมา ทีแรกหลายคนไม่เชื่อเพราะ TMZ คือหนึ่งในสื่อจอมเต้าข่าว แต่พอ ไมค์ ชิโนดะ ยืนยันการเสียชีวิตของคู่หูผ่านทวิตเตอร์ ความเศร้าจึงคืบคลานสู่หัวใจแฟนเพลงทั่วโลก
  • ศิลปินนักดนตรีระดับโลก ร่วมแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของ เชสเตอร์ โดยเฉพาะวงร่วมยุคเดียวกันอย่าง Slipknot, System of a Down วงพังค์รุ่นใหญ่อย่าง Green Day หรือรุ่นใหม่อย่าง Imagine Dragons, The Chainsmokers ฯลฯ
  • แม้ยังไม่ทราบสาเหตุการตายอย่างแน่ชัด แต่แฟนเพลงทั่วโลกตั้งข้อสังเกตคือ เชสเตอร์ อาจตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ที่ผ่านมาแม้จะเลิกแอลกฮอลล์หรือเสพยาน้อยลง แต่ก็ไม่สามารถสลัดตัวเองออกจากโรคนี้ได้
  • อีกหนึ่งข้อสังเกตคือหลายเพลงในอัลบั้มใหม่ One More Light มีเนื้อหาค่อนข้างเศร้า เนื้อเพลงมีทั้งเรื่องการจากลา การแบกรับความเครียด ความกดดัน สิ้นหวัง และนั่นคือสิ่งที่ถูกกลั่นกรองออกมาจากภายในของ เชสเตอร์ ทั้งสิ้น
  • เชสเตอร์ เสียชีวิตวันที่ 20 กรกฏาคม ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ วันที่เขาตาย ตรงกับวันเกิดของ คริส คอร์เนลล์ อดีตนักร้อง Soundgarden และ Audioslave เพื่อนสนิทที่สุดของเขา ที่เพิ่งเสียชีวิตไป
  • ก่อนหน้านี้ เชสเตอร์ และ แบรด เดลสัน มือกีต้าร์ ไปร่วมงานศพของ คริส คอร์เนลล์ และร้องเพลงให้แก่เพื่อนผู้ล่วงลับ หลายคนสันนิษฐานว่าความซึมเศร้าได้บุกเข้าจู่โจม เชสเตอร์ อย่างหนักหน่วงในตอนนั้น
  • 2 ชั่วโมงก่อนที่ เชสเตอร์ จะเสียชีวิต วงเพิ่งโพสต์ MV เพลงใหม่ TALKING TO MYSELF แน่นอนสมาชิกทุกคนไม่มีใครล่วงรู้มาก่อนว่า เชสเตอร์ เป็นอะไรจนกระทั่งมาเจอข่าวช็อคไปพร้อมๆกัน
  • Linkin Park กำลังออกทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้มใหม่ One More Light ในอเมริกา และมีโปรแกรมมาเล่นที่ญี่ปุ่นด้วย แต่ในเมื่อ เชสเตอร์ จากไปแล้ว คาดว่าอาจต้องยกเลิกโปรแกรมทัวร์เหล่านั้น ส่วนอนาคตวงจะเป็นอย่างไรยังไม่มีใครทราบ รอวงแถลง
cr. BBC News, Daily Mail

เชสเตอร์ เบนนิงตัน เกิดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2519 ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซนา เขามีชีวิตวัยเด็กที่ลำบาก และเคยถูกเพื่อนชายรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย และล่วงละเมิดทางเพศ ในขณะที่เขามีอายุได้เพียง 7 ขวบเท่านั้น!

เชสเตอร์เคยพูดถึงเหตุการณ์นี้เอาไว้กับนิตยสาร Metal Hammer ว่า…

“มันทำลายความเชื่อมั่นในตัวเองของผม เหมือนคนส่วนใหญ่นั่นแหละ ผมกลัวเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกมา ผมไม่อยากให้คนคิดว่าผมเป็นเกย์หรือโกหก มันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมาก”

พออายุ 11 ขวบ พ่อกับแม่ของเขาก็หย่ากัน เชสเตอร์ถูกบังคับให้ไปอยู่กับพ่อที่เป็นตำรวจ และตอนอายุ 13 เขาก็เริ่มติดยา

“ผมจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเวลาเมายา รู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองสามารถควบคุมสิ่งรอบตัวได้มากขึ้นตอนที่มีอาการหลอนจากยาหรือกำลังเมาเหล้าอยู่”

เชสเตอร์เสพย์ทั้งฝิ่น กัญชา โคเคน แอมเฟตามีน และเขายังดื่มหนักอีกด้วย จนตัวเขาเองก็ยังประหลาดใจที่รอดชีวิตจากสิ่งเหล่านั้นมาได้ ผลพวงจากการเสพย์และดื่มอย่างหนัก ทำให้น้ำหนักของเชสเตอร์ลดลงเหลือเพียง 50 กิโลกรัม จนแม่ของเขาบอกว่า ดูเหมือนคนที่เพิ่งออกมาจากค่ายกักกันนาซี

เหตุการณ์ที่มีแก๊งค์บุกเข้าไปที่บ้านของเพื่อนขณะที่เขากับเพื่อนกำลังเมายากันอยู่ เพื่อนของเขาถูกปืนจี้ ทำให้เชสเตอร์ตัดสินใจเลิกยาในปี 2535 หลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปอยู่ที่แอลเอ และไปออดิชั่นเข้าวงดนตรีซึ่งกลายมาเป็น Linkin park ในปี 2542 และโด่งดังไปทั่วโลกในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก ๆ ที่ Linkin Park ประสบความสำเร็จ เชสเตอร์ได้หวนกลับไปเสพยาอีกครั้งก่อนจะเข้ารับการบำบัด จนเลิกยาได้ในช่วงปลายยุค 2000 เชสเตอร์เคยพูดถึงเรื่องนี้กับนิตยสาร Spin ว่า “มันไม่เท่เลยที่ติดเหล้า มันไม่เท่เลยที่ไปกินเหล้าแล้วกลายเป็นไอ้งี่เง่า”

เชสเตอร์พยายามเลิกยาเสพติด และต่อสู้กับอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้ามาตลอดชีวิต เขาได้นำเอาประสบการณ์เหล่านี้ถ่ายทอดออกมาในบทเพลงของเขา จนถึงผลงานอัลบั้มสุดท้าย One More Light