กทม.ร่วมกับเครือข่ายสาธารณสุขเตรียมพร้อมหากเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอก 2

17

พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ รองรับกรณีที่อาจเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 โดยให้สำนักอนามัย ประสานการทำงานกับกรมควบคุมโรค เพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร เตรียมพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลในสังกัด รวมถึงจัดเตรียมแผนบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 เพื่อให้สามารถควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังมอบหมายให้สำนักการแพทย์ หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาล 4 เหล่าทัพ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ศึกษาแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ส่วนการบริหารจัดการกรณีเกิดสถานการณ์การระบาด จะใช้โรงพยาบาลราชวิถีเป็นศูนย์บริหารจัดการสำหรับพิจารณารับและส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลเครือข่าย รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการจัดหายา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาด

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้กำหนดมาตรการเข้มงวดในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค โดยกำชับให้ส่วนราชการในสังกัด จัดกิจกรรม Big Cleaning ทำความสะอาดอาคารสำนักงาน ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ทุกวันอังคาร โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกัน เช่น ราวจับบันไดเลื่อน ปุ่มกดลิฟท์ รถเข็นคนไข้ ห้องน้ำ เก้าอี้ เพื่อเฝ้าระวังเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการ และได้กำหนดช่องทางเข้า-ออกโรงพยาบาลให้เหลือเฉพาะช่องทางที่จำเป็น อีกทั้งได้จัดประชุมโรงพยาบาลหลักทั้ง 9 แห่ง ในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมความพร้อมการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในกรณีมีการระบาดระลอก 2 โดยจะใช้ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับพื้นฐาน (BLS) และระดับสูง (ALS) ในการนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่เหมาะสม

อย่างไรก็ดีหากประชาชนสงสัยเกี่ยวกับอาการของโรค สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ 1646 ซึ่งมีเจ้าที่ให้บริการให้ข้อมูลและให้บริการทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง