“ชีวิตคือการเดินทาง” ใครบางคนกล่าวไว้เช่นนั้น และที่มีคุณค่ายิ่งกว่าก็คือ “การเดินทางทำให้เราเติบโต” นั่นเพราะทุกที่ที่เราได้เดินทางฝ่าไปถึง เราได้ผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยสรรพสิ่งหลากมุมมอง ทั้งบนถนนหรือริมทางที่ผ่านไป ล้วนแต่มีเรื่องราวมากมายระหว่างทางและจุดหมายที่ไปถึงให้เราได้เก็บตก จดจำ ประทับใจ และสร้างแรงบันดาลใจได้ทุกครั้ง
ในหนังแนว Road Movie ที่มีอยู่มากมายหลายเรื่องจากทั่วโลก ก็บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางที่ให้ความหมายกับชีวิต หนังหลายเรื่องสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมายอย่างนึกไม่ถึง แม้แต่หนังไทยเองก็มีคนทำหนังแนว Road Movie ออกมาอยู่หลายเรื่องที่อยู่ในระดับใช้ได้ เอาเป็นว่าในช่วงที่บรรยากาศลมหนาวกำลังพัดโชย กลิ่นยวนใจของการเดินทางก็มาถึงพร้อมกัน สำหรับนักเดินทางแล้วทุกคนรอช่วงเวลาแบบนี้นี่แหละ
bkk variety ได้รวบรวมเอาหนังแนว Road Movie หรือหนังที่ใช้การเดินทางเล่าเรื่อง มาไว้ให้คนรักการเดินทางได้ไปเสาะหามาดูกันเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อการค้นหาตัวเอง เพื่อไปค้นพบความหมายของชีวิต และเติบโตไปกับทุกการเดินทาง…..การันตีว่า เมื่อใครได้ดูหนังเหล่านี้แล้วแทบอยากจะลุกไปแพคกระเป๋ากันเลยหละ ไม่เชื่อไปหามาดูได้!!Easy Rider (1969) นักแสดงนำ: ปีเตอร์ ฟอนด้า, เดนนิส ฮอปเปอร์(กำกับ,เขียนบทร่วม) และ แจ๊ค นิโคลสัน หนังได้รางวัลจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ และอิทธิพลจากหนังทำให้รถฮาร์เลย์ หรือ ฮาเลย์เดวิดสัน (Harley Davidson) กับกางเกงยีนส์ลีวายส์ (Levi’s Strauss) กลายเป็นสินค้าส่งออกระดับแถวหน้าของอเมริกา
Badlands (1973) กำกับโดย “เทอร์เรนซ์ มาลิค” ผู้กำกับในตำนานแห่งยุค 70 ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นติสท์ตัวพ่อ แสดงนำโดย มาร์ติน ชีน และ ซิสซี่ สปาร์เช็ค หนังเรื่องนี้ถ่ายทำสวย เน้นภาพทิวทัศน์โดดเด่นแทบทุกฉาก
Paper Moon (1973) พ่อลูกในชีวิตจริงที่มาเล่นเป็นคู่หูต่างวัยในหนังขาวดำแห่งปี 1973 แสดงโดย ไรอัน โอนีล และลูกสาว – ตาตั้ม โอนีล หนังเล่าเรื่องราวตลอดการเดินทางของสองคู่หูที่มิตรภาพค่อยๆ ถักทอขึ้นในโลกสีเทาของพวกเขา
Paris, Texas (1984) หนังแนว Road Movie ขึ้นหิ้งของ Wim Wenders แสดงโดย แฮร์รี่ ดีน แสตนตัน และ นาตาชา คินสกี้ หนังใช้ทิวทัศน์บอกเล่าเรื่องราวของตัวเอกในเรื่อง อย่างทะเลทรายที่สวยงาม ถ่ายทอดอารมณ์เหงาหม่น เคว้งคว้าง ที่อบอวลอยู่ในหนังเรื่องนี้
Planes,Trains and automobiles (1987) เรื่องของการเดินทางกลับบ้านในวันขอบคุณพระเจ้าของนักการตลาดหนุ่มใหญ่ที่ดูดีมีฐานะ แสดงโดย สตีฟ มาร์ติน ที่ต้องมาพบกับ เซลส์แมนบ้านๆ ต่างชนชั้น แสดงโดย จอห์น แคนดี้ ทั้งคู่ต้องร่วมทางกันและเจอสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตที่แตกต่าง และมันจริงที่ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปหมด
Thelma & Louise (1991) โร้ด มูฟวี่ในตำนาน ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ได้นักแสดงยอดฝีมืออย่าง ซูซาน ซาแรนดอน และ จีน่า เดวิส มาเล่นเป็นเพื่อนสาวสุดซี้ที่บุคลิกต่างกันสุดขั้ว กำกับโดย ริดลี่ สก๊อตต์ มีตัวประกอบเป็นน้ำจิ้มอย่าง แบรด พิตต์ เล่นด้วยสมัยที่เขายังไม่โด่งดัง เรื่องนี้มีภาพสวยๆ ตลอดเส้นทาง และหักมุมตอนท้ายแบบที่ไม่ใช่สูตรสำเร็จของหนังฮอลลีวู้ด
My Own Private Idaho (1991) หนังที่ทำให้คนดูอยากขับรถไปไอดาโฮแบบที่สองพระเอกมุ่งหน้าไปในเรื่อง เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นสองคน (รีเวอร์ ฟินิกซ์,คีนู รีฟ)ที่ตามหาจุดหมายในชีวิต คนหนึ่งบ้านแตก อีกคนบ้านรวย ระหว่างทางเกิดมิตรภาพ ความรัก การเติบโตและค้นพบว่าตัวเองต้องการอะไร ขณะที่หนังก็มีความหม่นเศร้าลึกๆ แฝงอยู่
The adventure of Priscilla,Queen of the desert (1994) หนังดราม่าคอมิดี้ที่ใช้การเดินทางเล่าเรื่องได้อย่างโคตรคัลท์ เรื่องราวการเดินทางของนักเต้นสาวประเภทสอง 3 คน ที่ใช้รถบัสชื่อ “พริสซิล่า” วิ่งจากซิดนีย์ผ่านทะเลทรายและเส้นทางโหดๆ แต่วิวชนะเลิศ เพื่อไปเปิดการแสดงที่อลิซสปริงส์….เรื่องราวเข้มข้นสุดฮาปนดราม่าก็เกิดขึ้นระหว่างทางนั่นเอง
Before sunrise (1995) โร้ด มูฟวี่ สุดโรแมนติกที่มีรถไฟเป็นสื่อ เริ่มจากหนุ่มอเมริกัน (อีธาน ฮอว์ค) ที่มุ่งหน้าไปเวียนนาเพื่อจับเที่ยวบินราคาถูกกลับประเทศ และ นักศึกษาชาวฝรั่งเศส (จูลี่ เดลพี) ที่กำลังเดินทางกลับไปเรียนต่อที่ปารีส ทั้งสองมาพบกันโดยบังเอิญบนรถไฟที่กำลังมุ่งหน้าไปกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย….ความโรแมนติกในความสัมพันธ์ที่ไร้การผูกมัดก็เกิดขึ้น ณ ที่นั่น
The straight story (1999) ผลงานกำกับของ เดวิด ลินช์ ผู้ชอบกำกับหนังที่มีบรรยากาศลึกลับ หม่นๆ หลอนๆ ตัวละครแปลกประหลาด แต่เรื่องนี้เขาสร้างจากเรื่องจริงของ อัลวิน สเตรท ชายชราวัย 73 ที่กำลังมุ่งเดินทางไกล 300 ไมล์เพื่อไปหาพี่ชายที่กำลังป่วยใกล้ตาย ด้วยรถบุโรทั่งที่เขาซ่อมแซมขึ้นเอง หนังเล่าถึงการเดินทางของชายชราคนนี้ล้วนๆ ต่างจากสไตล์หนังของลินช์ที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง
Almost Famous (2000) สร้างจากเรื่องจริงในวัยเด็กของ Cameron Crowe คอลัมนิสต์เพลงร็อกของนิตยสาร The Rolling Stone นิตยสารดนตรีระดับโลก ที่เขาออกติดตามเขียนเรื่องของวงร็อกวงหนึ่ง แบบที่ว่าไปไหนไปกัน ส่วนดาราสาว Kate Hudson เล่นเป็นแฟนสาวของสมาชิกในวงร็อก เป็นหนังที่ฉายภาพบรรยากาศยุค 70 มีเพลงร็อกให้ฟังเพียบตลอดทั้งเรื่อง
Y Tu mama tambien (2001) หนังเม็กซิโกที่นอกจากหนังจะเล่าถึงการเติบโตของสองหนุ่มเพื่อนสนิทที่ออกเดินทางไปกับหญิงสาวอีกคน หนังยังเล่าถึงความสัมพันธ์ของชายกับหญิง ที่ชายมักคิดว่าพวกเขาเป็นผู้คุมเกม แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่อย่างที่คิด ผู้หญิงอาจเป็นผู้กำหนดหรือพลิกเกมได้อย่างคาดไม่ถึง
The motorcycle diaries (2004) หนังอัตชีวประวัติช่วงวัยหนุ่มของ เช กูวารา นักปฎิวัติผู้ยิ่งใหญ่กับเพื่อนสนิทของเขา อัลเบอร์โต กรานาโด เริ่มต้นจากความคิดของเช ที่เป็นนักศึกษาแพทย์ใกล้จบเทอมสุดท้าย อยากออกไปเผชิญโลกกว้างจึงตกลงใจกับเพื่อนใช้มอเตอร์ไซค์เก่ารุ่น 1939 Norton 500 เดินทางไปทั่วทวีปอเมริกาใต้ ได้พบเจอผู้คนมากมาย จากที่อยากเผชิญโลกตามประสาหนุ่ม กลายมาเป็นจุดพลิกผันเปลี่ยนชายหนุ่มคนหนึ่งให้กลายมาเป็นนักปฏิวัติชื่อก้องโลกในเวลาต่อมา
Transamerica (2005) เรื่องของสตรีข้ามเพศคนหนึ่ง (เฟลิซิตี้ ฮัฟแมน)ที่ต้องมารับรู้ว่าขณะที่เธอยังใช้ชีวิตเยี่ยงชายแท้อยู่นั้นได้กลายเป็นพ่อที่มีลูกชายคนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เติบโตเป็นวัยรุ่นที่ร่อนเร่อยู่ในนิวยอร์ค และเมื่อการผ่าตัดแปลงเพศขั้นสุดท้ายมาถึง เธอจะต้องจัดการเรื่องในอดีตให้ลงตัวเสียก่อน นั่นเป็นเหตุให้เกิดการเดินทางอันยาวนานโดยมิได้คาดหมายไว้ล่วงหน้ากับลูกชายสุดเฮี้ยว
Little Miss Sunshine (2006) โร้ด มูฟวี่ แนวขบขันปนขมขื่น เรื่องราวของครอบครัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยความไม่ปกติ ล้มเหลว และขี้แพ้ ที่มีความฝันยิ่งใหญ่ของหลานสาวคนเดียวในบ้านที่อยากเข้าประกวดนางงามเด็ก คนทั้งบ้านเลยพากันออกเดินทางด้วยรถตู้สีเหลืองมัสตาร์ดคันเก่าสุดชำรุดทรุดโทรม เพื่อไปตามหาฝันร่วมกับเธอ
In to the wild (2007) สร้างจากเรื่องจริงของเด็กหนุ่มวัย 23 ชื่อ “คริสโตเฟอร์ แมคเคนเลส” ที่เรียนจบรับปริญญาเสร็จก็ตัดสินใจละทิ้งครอบครัว งานที่มีอนาคต ไปตามฝันโดยออกเดินทางท่องเที่ยวไปตามป่าเขาโดยมุ่งสู่จุดหมาย “อลาสก้า” เขาไม่สนใจสังคมไม่พกเงินทอง สนุกสุดโต่งไปกับการผจญภัย แหกกฎและเสี่ยงตายสารพัด เพียงเพื่อจะค้นหาความหมายในชีวิต….แต่โลกใบนี้ก็ไม่ได้สวยงามไปซะทุกสิ่งแบบที่เราคิดไว้หรอกนะ
On the road (2012) จากนิยายเรื่องดังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงของนักเขียนอเมริกันชื่อดัง เมื่อนักเขียนหนุ่มชาวนิวยอร์ก ซัล พาราไดซ์ (แซม ไรลีย์) ได้รู้จักกับ ดีน มอริอาร์ตี้ (แกร์เร็ท เฮดลันด์) อดีตนักต้มตุ๋นจอมเจ้าชู้ และได้แต่งงานกับสาวรักอิสระ (คริสเตน สจ๊วต) ทั้งสองคู่ซี้และหญิงสาวตัดสินใจแหกกฎเกณฑ์ของสังคมด้วยการออกไปใช้ชีวิตเสรีบนท้องถนน เพื่อค้นหาความหมายของโลกใบนี้ และแสวงหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
Seeking a friend for the end of the world (2012) เรื่องราวการเดินทางของคนสองคนที่บังเอิญได้มารู้จักกันในวันที่รู้ว่าโลกกำลังจะแตก (เพราะอุกกาบาตกำลังจะชนโลก) และกำลังตกที่นั่งเดียวกันคือ ทั้งคู่ต่างมีชีวิตที่พังครืน รู้สึกว่าชีวิตมีบางสิ่งที่ขาดหายและต้องไปตามให้เจอก่อนตาย การเดินทางไปด้วยกันจึงเริ่มขึ้น นี่คือหนังที่ให้ความหมายกับชีวิตได้หลากอารมณ์ ทั้งหวานซึ้ง น่าขัน เศร้าหม่น และแสบสันต์!
Wish us luck (2013) โร้ด มูฟวี่ ของไทยที่พูดถึงความสัมพันธ์ของสองสาวฝาแฝด วรรณแวว-แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ที่เป็นทั้ง “เพื่อน” และ”พี่น้อง” กับการเดินทางโดยรถไฟผ่านสถานีต่างๆ ใน 7 ประเทศ จากอังกฤษมาถึงกรุงเทพฯ ตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสารคดีที่เป็นเสมือนสมุดบันทึกให้พวกเธอ เล่าผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกมาเหมือนกับว่า คนดูได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับพวกเธอด้วย
Nebraska (2013) ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก หลังจากที่พ่อเจ้าอารมณ์ (บรูซ เดิร์น) ผู้พยายามหาความหมายให้กับชีวิตในวัยไม้ใกล้ฝั่งของตัวเอง ได้รับจดหมายแจ้งว่าเขาถูกล็อตเตอรีรางวัลใหญ่ จึงบังคับให้ลูกชาย (วิล ฟอร์เต้) ออกเดินทางไปด้วยกันเพื่อตามหาเงินรางวัลนั้น ซึ่งลูกชายก็ได้เรียนรู้ชีวิตผ่านการมองย้อนไปยังอดีตของพ่อตัวเองว่าแท้จริงแล้วตาแก่หัวดื้อ ขี้เมา เลื่อนเปื้อนคนนี้เนื้อแท้แล้วเป็นคนที่มีดีมากกว่าที่เห็นมากนัก เรื่องนี้ถ่ายทำด้วยฟิล์มขาวดำ ใน 4 รัฐทั่วอเมริกา
Wild (2014) สร้างจากเรื่องจริงของ เชอริล สเตรย์ด ผู้เขียนเรื่องราวชีวิตตัวเองเป็นบันทึกออกขายจนกลายเป็นหนังสือขายดี หนังบอกเล่าเรื่องราวของเธอหลังชีวิตแต่งงานล่มสลายและแม่เสียชีวิต ความสิ้นหวังทำให้เธอทำลายตัวเองและใช้ยาเสพติด แต่หลังจากนั้นเธอก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนและออกเดินเท้า 1,100 ไมล์ จากทะเลทรายโมจาวี ฝ่าผาสูงในแคลิฟอร์เนีย ไปถึงวอชิงตัน เพื่อค้นหาตัวเองและแรงบันดาลใจใหม่ให้ชีวิต บทบาทเข้มข้นนี้รับบทโดย “ริส วิทเธอร์สปูน” ที่คาดกันว่าอาจทำให้เธอคว้าออสการ์ตัวที่สองมาครอง