รายการโหนกระแสวันที่ 2 มิ.ย. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ 5 ทนายดัง ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด, ทนายเกิดผล แก้วเกิด, ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต, ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร, ทนายรัชพล ศิริสาคร กรณีที่ถูกสังคมตั้งคำถาม เกี่ยวอะไรกับคดี “แตงโม นิดา”
ทนายตั้มมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง?
ทนายตั้ม : ผมเกี่ยวมาตั้งนานแล้ว เพราะผมก็ออกไปตามหาความจริงตั้งแต่วันแรกๆ ที่รู้ว่าน้องเสียชีวิต ที่ออกไปดูเรือ จำได้มั้ย ตอนนั้นคนก็ถามว่าเกี่ยวยังไง ผมก็บอกว่าผมรู้จักน้องแตงโม ก็อยากรู้ว่าความจริงเป็นยังไง ผมก็ไปเปิดประเด็นเรื่องฟินน์เรือ ไม่เชื่อว่าเสียชีวิตเกิดจากใบพัด
ทุกวันนี้ยังคิดแบบนั้นอยู่มั้ย?
ทนายตั้ม : คิดอยู่ครับ คิดว่าไม่น่าใช่อุบัติเหตุอยู่แล้วแหละ คิดว่าน่าจะมีมากกว่านั้น เพียงแต่เราเป็นนักกฎหมาย ถ้าไม่มีพยานหลักฐานอะไร เราคงไปมโนไม่ได้ว่าเขาเป็นฆาตกรรม
พี่รณณรงค์ไปเกี่ยวอะไรเรื่องนี้?
ทนายรณณรงค์ : การตายของใครก็ตาม มันเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน บางอันที่มีเงื่อนงำ เราดูแล้วเจ้าหน้าที่เขาทำครบถ้วนหรือสักแต่ทำให้ดูครบถ้วน เรานั่งดูอยู่หลายอย่างแล้วตอบคำถามเราไม่ได้ เช่นการตรวจสารเสพติด ตรวจแอลกอฮอล์ ไม่ตรวจเพราะอะไร ทุกวันนี้ยังไม่ส่งมาที่ผู้ตรวจการแผ่นดินที่ไปร้องไว้ ที่ปอโดนตั้งข้อหาก็เพราะผมนี่แหละ ตอนแรกก็ไม่ตั้ง วางเอาไว้อย่างนั้นเหมือนมันไม่ผิดกฎหมายหรือเปล่า จนกระทั่งเขามายื้อว่ามียาเสียสาวอยู่จะไม่ตั้งหรือยังไง เราก็รอคำตอบจากภาค 1 ภาค 1 ยังไม่อธิบายเรามานะ รออยู่ ถ้าได้ข้อมูลแล้วจะเอามาบอกพี่หนุ่มเลยว่าต่อไปเราเจอด่านตรวจเราอ้างข้อกฎหมายนี้ได้เลยนะ ไม่ต้องไปตรวจแล้ว
ทนายรัชพล เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?
ทนายรัชพล : ผมว่าประเทศไทยเรา บางทีระบบมีปัญหา ถ้าทุกคนนิ่งเฉยไม่ช่วยกันแก้ไข มันก็เกิดปัญหาไปกันใหญ่ อย่างคดีนี้มีพิรุธตั้งแต่ส่งศพไปธรรมศาสตร์แล้ววกกลับมาทำไม ก็ยังไม่มีเหตุผลที่ตอบได้ ดังนั้นผมก็อยากขับเคลื่อนว่าตกลงมันเป็นยังไง อยากให้ทุกคนได้รับรู้ ให้โปร่งใสขึ้น
พี่เกิดผล พี่เป็นคนที่ส.ส.เต้ไม่ได้เอ่ยถึงพี่ด้วย แล้วมันยังไง ทำไมพี่ลงวิพากษ์วิจารณ์เยอะแยะมากมายในเพจของพี่?
ทนายเกิดผล : ผมก็เหมือนประชาชนทั่วไปที่ติดตามข่าวสาร อะไรที่เราเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง มันมีพิรุธ เราก็แสดงความคิดเห็น แต่บางทีการพูดที่เกินเลย เกินความเป็นจริง เช่นจะเอานาซ่ามาตรวจ ผมก็ว่ามันเวอร์เกินไป ผมก็แสดงความเห็นด้วยว่าบางอย่างคุณอย่าไปหลอกชาวบ้านเขาขนาดนั้น ข้อเท็จจริงมีแค่ไหนก็แค่นั้น มันก็เป็นเรื่องการท้วงติงวิชาการตามกฎหมาย แต่อาจใช้ข้อความแซะแซวกันเท่านั้นเอง แต่ถามว่าเข้าไปล้วง รบกวนเนื้อหาคดีมั้ย ไม่ ทุกคนต่างคนต่างทำหน้าที่ ผมแค่คนติดตามชมเฉยๆ
ทนายเจมส์เกี่ยวอะไรด้วยเรื่องนี้?
ทนายเจมส์ : ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย เพียงแต่ผมหนีไปไหนไม่พ้นเพราะฟีดข่าวก็เจอแต่ข่าวแตงโม ผมมองว่าข่าวนี้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร แล้วผมเก็บประโยชน์ตรงนั้นมาเพื่อบอกคนอื่นว่าถ้าคุณเจอสถานการณ์แบบนี้ควรทำยังไง ซึ่งผมไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ใครโดยเฉพาะ ผมเก็บเอาสิ่งที่มีความรู้ดีกว่า ใครด่ากันก็เรื่องของเขา ไม่พอใจกันก็เรื่องระหว่างคู่กรณี ไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้ แต่ถ้าใครกระทบสิทธิ์ก็สามารถใช้สิทธิ์ตามช่องทางต่างๆ ได้ ตรงนี้ผมอยากให้ศึกษาให้เป็นความรู้ เผื่อคุณโดนบ้างคุณต้องทำยังไง อะไรแบบนี้
แค่เข้ารายการ คนก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ทันทีว่าหิวแสงกันไปไหน ทำไมถึงออกมา มุมนี้อยากบอกยังไง บางคนบอกว่าคุณทำได้ไม่สู้ส.ส.เต้ถึงได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เขา?
ทนายตั้ม : เราทำไม่ได้อย่างส.ส.เต้จริงๆ อย่างที่บอกเราทำอะไรอยู่บนพยานหลักฐาน ถ้าบอกว่าหิวแสง เอาง่ายๆ ผมอยู่ที่สำนักงาน คดีเข้ามาทุกวัน วันละ 10 คดี คดีไหนผมจับขึ้นมาก็เป็นข่าวทั้งนั้นแหละ ไม่จำเป็นต้องไปหิว แล้วเชื่อว่าทนายหลายคนอยากเล่นคดีไหนก็ได้ เพราะแต่ละคนมีคนติดตามเยอะอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเรื่องนี้เราเห็นว่าบางอย่างทำแล้วไม่ถูกต้อง เราอยากดึงสติสังคม ไม่ใช่ว่าเขาไปนาซ่าแล้วไปเชื่อ เขาทำอะไรก็เชื่อไปหมด พูดออกมาโดยไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลย พูดกันว่ามีคนฆ่ากันตายบนเรือ มีคลิปว่ามีใครรับสารภาพ มีคลิปว่ามีใครทำร้ายกัน แล้วทุกวันนี้มีใครเห็นมั้ย ไม่มีใครเห็น ผมถึงดึงสติหน่อย ให้ลดความกาวลงนิดนึง อยู่กับความเป็นจริง ดูพยานหลักฐาน เวลาใครพูดอะไรอย่าไปเชื่อทุกอย่าง เพราะที่เขาพูดไปไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ ต้องการสร้างกระแสหรือช่วยจริงๆ ถ้าต้องการช่วยจริงๆ ก็ต้องเปิดมาเลย หรือเอาไปมอบให้กับคนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่อีก 3 วันเปิด อีก 5 วันเปิด อีก 7 วันเปิด ไอ้แบบนี้เขาเรียกคอนเทนต์นะ เราต้องตื่นรู้หน่อย ผมถึงต้องยอมออกมา รู้ว่าฝั่งที่เชียร์ไม่ชอบแน่ ผมก็ออกมารับทุกคน ผมไม่อยากให้สังคมเตลิดไปไกล ฉุดกันนิดนึง วันนี้เรา 5 คนที่มาออกรายการ ยอมเจ็บ ยอมทัวร์ลง รู้ว่ามาปุ๊บก็ต้องมีคนว่ามือไม่พายทำไมเอาเท้าราน้ำ เราก็ต้องการดึงสติไง ดูสิ คนที่ออกมาให้ข่าวเย้วๆ มีอะไรอย่างที่พูดบ้าง พวกผมถ้าไม่มีหลักฐานก็ไม่พูดเลย แล้วย้ำว่าเราไม่อยู่ฝั่งคนบนเรือ เพราะเราไม่เชื่อว่าเป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดามันต้องมีมากกว่านั้น เพียงแต่ว่าเราไม่ได้มีหลักฐาน แล้วเราไม่ใช่คนที่แม่เลือก เราเป็นคนที่แม่ไม่รัก เราก็เลยไปทำอะไรตรงนี้เต็มที่ไม่ได้
ตอนนี้มีคนรักแม่แล้ว เพราะแม่มองอีกมุมนึงแล้ว?
ทนายตั้ม : จริงๆ แม่ต้องทำเพื่อลูกตั้งแต่แรก เรื่องนี้ผมก็เคยโพสต์และท้วงติงไปว่าถ้าแม่ออกมาแอ็กชั่นเร็วกว่านี้ น่าจะได้ประโยชน์อีกเยอะ
มุมทนายตั้มเห็นว่ามีการถูกพาดพิงถึงกรณีส.ส.เต้ที่พูดมาในไลฟ์ คุณไปทำอะไรเขาถึงได้โมโห?
ทนายตั้ม : ผมถึงว่าไงครับ ก่อนหน้านี้เขามาสำนักงานผม ผมยังพาเขาไปเลี้ยงข้าวเลย แล้วอยู่ๆ เขามีการโทรคุยกับอ.เดชา แล้วมาพาดพิงพวกผม แล้วมีการไลฟ์สดบอกว่าจะแกล้งแจ้งความไกลๆ มาพาดพิงกันทั้งที่เราไม่เคยไปยุ่งกับเขาก่อน ผมไม่เคยไปโพสต์ด่าเขาเลยนะ จนเขามาพูดถึงเรา เราก็ต้องพูดถึงเขาแหละครับ ผมก็บอกเขาว่าเรื่องเกี่ยวกับหลักฐาน การข่มขู่คนที่เห็นต่างมันน่าจะผิดจริยธรรม เป็นที่มาที่เราไปร้องกันครับ
พี่รัชพลโดนพาดพิงว่าจะกำจัดออกไป พี่ไปทำอะไร?
ทนายรัชพล : ผมก็อยู่ปกตินะครับ ผมไม่เคยไปยุ่งอะไรกับเขาเลย ตอนแรกชื่นชมด้วยซ้ำว่าเขามีน้ำใจมาช่วย มีความพยายามในการค้นหาในคดี ถึงแม้บางครั้งเวอร์ๆ ไปก็เป็นสีสันแม้แต่นาซ่าก็ไม่เคยไปวิพากษ์วิจารณ์ แต่ที่ผมวิจารณ์คือเรื่องบังแจ็คเรื่องผ้าที่อยู่อเมริกา ผมก็สงสัยว่าทำไมใครเป็นคนเจอผ้า ทำไมต้องส่งให้บังแจ็ค รู้ที่อยู่บังแจ็คได้ยังไง ผมไม่เกี่ยวกับเขาเลย
ส.ส.เต้ว่าคุณใส่ร้ายวัตถุพยาน?
ทนายรัชพล : นี่คือศัพท์ใหม่นะ วงการกฎหมายผมยังงงเลย เขามีแต่ใส่ร้ายบุคคล ไม่มีใส่ร้ายวัตถุพยาน ผมก็ยังงง (หัวเราะ) ผมพูดแค่นั้นเอง อยู่ๆ ก็มีชื่อผมขึ้นมา ผมก็ยังตกใจ ผมไปเกี่ยวข้องอะไร
คุณไปแซะเขาขบวนการแอดเวนจี้ ไปว่าเขาหรือเปล่า?
ทนายรัชพล : มันก็ขำจริงครับ อย่างนาซ่าผมถามเถอะ บอกจะเอาแผนที่มา ทุกวันนี้ได้หรือยัง หลายๆ เรื่อง ฆ่ากันตายบนเรือก็ไม่เห็นหลักฐาน แล้วพอถามว่าไหนเปิดหลักฐานสิ เปิดไม่ได้ ถ้ามีหลักฐานชัดเจนเปิดมาเลย ไม่มีใครช่วยได้หรอกคนบนเรือ
ที่ลงไป ที่เขาบอกว่าตายบนบก พี่สวนเลยว่าไม่ใช่ เมื่อสองสถาบันบอกว่ามีทรายมีโคลนในปอด แล้วจะตายบนบกได้ยังไง ข้าพเจ้างง ขบวนการแอดเวนจี้?
ทนายรัชพล : ก็มันงงมั้ยล่ะครับ เขาบอกขาดอากาศหายใจและมีทรายอยู่ในปอด แล้วจะไม่ให้ขำได้ยังไง จะตายบนบกได้ยังไง
พี่รณณรงค์ คือยังไง?
ทนายรณณรงค์ : อย่างแรกเลยเราห่วงใยมากเลย พยานที่น่าเชื่อถือ ไม่น่าบินจากเมืองไทยไปอเมริกา แล้วบินกลับมา พอบินกลับมาเราก็เอ๊ะ มันเมคหรือเปล่า เราสงสัย ขนาดเรายังสงสัย แล้วคนอื่นๆ ที่อยู่ในกระบวนการตามกฎหมายจะไม่สงสัยได้ไง แล้วปรากฏ เราไปถามแค่นี้ โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ หาว่าเราใส่ร้ายวัตถุพยาน ต้องคุ้มครองวัตถุพยาน คืออะไร หลักง่ายๆ เลย ตอบมาสิ ไม่ได้เมคยังไง หรือมีการส่งมอบสินค้าที่ปลอดภัยยังไง
วันก่อนคุณหญิงหมอพรทิพย์บอกว่าทนายต้องกลับไปทำหน้าที่ตัวเองเหมือนกัน เพราะผ้าส่งมานานมากแล้ว แต่โทรศัพท์เพิ่งเกิดขึ้น?
ทนายตั้ม : แต่ผมมีข้อมูลว่าแม่คุยกับบังแจ็คมา 3 เดือนแล้วนะครับ เขาคุยกันมานานแล้วนะครับ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าก่อนหน้านี้เขาส่งอะไรไป
ทนายตั้มกำลังบอกว่าส่งอะไรไปก่อนหน้านี้หรือเปล่า ไปปรักปรำเดี๋ยวเขาฟ้องอีกนะ?
ทนายตั้ม : ฟ้องมาเหอะ คือตอนที่บังแจ็คเอาโทรศัพท์มาโชว์ เขาไม่ได้บอกว่ามีแค่โทรศัพท์อย่างเดียว เขาบอกมีอย่างอื่นอีก เราไม่อยากรู้เหรอ ทำไมสื่อไม่ไปถามว่าส่งอะไรไป ทำไมต้องส่งไป
หลังจากนั้นมีวิวาทะระหว่างส.ส.เต้กับทนายเดชา จะไปฟ้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าไม่ใช่พี่จะส่งคนไปกระทืบแล้วนะ ทนายตั้มก็ไปโพสต์อีกเรื่องหมาเซเว่น?
ทนายตั้ม : คือผมรำคาญพวกที่ชอบขู่ ขู่เหมือนหมาหน้าเซเว่นหรือเปล่า
หลังจากคุณโพสต์ ทนายเกิดผลไปขยี้ต่ออีก บอกว่าหมาหน้าเซเว่นแค่ไปนอนตากแอร์ไม่เคยข่มขู่ใคร การที่คุณไปกล่าวว่าส.ส.ขู่เหมือนหมาหน้าเซเว่น เป็นการหมิ่นประมาทหมาหน้าเซเว่นให้ได้รับความเสียหาย ระวังถูกหมาหน้าเซเว่นฟ้อง ถามทนายเจมส์ แบบนี้เขาผิดมั้ย?
ทนายเจมส์ : ไม่ผิดครับ เขาถูกพาดพิงก่อน ก็ใช้สิทธิที่ถูกพาดพิง เหมือนส.ส.ในสภา เพื่อแก้ตัวว่าสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งพูดมาเป็นยังไง
ไปแซะใครเขาล่ะพี่เกิด?
ทนายตั้ม : เขาแซะผม ตอนแรกพอผมโพสต์ไปแล้วด้วยความคึกคะนอง พอผมคิดดูแล้วก็รู้สึกผิด ที่ผมไปโพสต์แซะอย่างนั้น จริงๆ หมาหน้าเซเว่นเขาไม่ได้ขู่ใครเลย วันนี้มาออกรายการก็ขอโทษหมาหน้าเซเว่นด้วยนะครับ
ทนายเจมส์ : ไม่งั้นผมจะฟ้องคุณนะ ผมจะเป็นทนายให้หมาเซเว่น (หัวเราะ)
ทนายรณณรงค์ : วันนั้นมีแฮชแท็กนึงผุดมาเลยนะ แฮชแท็กเซฟหมาหน้าเซเว่น มาจากคนนี้นี่เอง
ทนายเจมส์ : มันนอนตากแอร์ของมันดีๆ
ทนายตั้ม : ผมรู้สึกผิดมากเลยที่ไปแซะหมา (หัวเราะ)
ระหว่างที่คุยกัน มีคนบอกว่าครูหนุ่มถามนักเรียนหน่อย ทำไมนักเรียนครูหนุ่มหิวแสง?
ทนายตั้ม : ทำไมไม่มองว่าเราไม่ได้หิวแสง แสงกำลังหิวเราหรือเปล่า ตามมาทำข่าวทุกวัน รายการนี้ก็โทรตามนะ เราไม่ได้ขอมาออก
คุณหญิง ปณิตา คุณมาทำไม มานี่ๆ นิดเดียว สดๆ เลย มาทำอะไรครับ?
หนิง : มากราบท่านผู้นำค่ะ มาหาทนายค่ะ
เมื่อวานคุณแซนออกรายการ เขาบอกเขาแจ้งความคุณ แล้วพูดถึงทนายตั้ม คุณแซนบอกว่าจริงๆ แล้วพวกคุณฟังผิด เขาไม่ได้พูดเรื่องของคุณเลย เขาพูดเรื่องคนอื่นแล้วมีนักข่าวไปถามเขาพอดี แล้วคุณกลับไปหาว่าเขาพูดถึงคุณ คุณไปแจ้งความเขา ระวังโดนแจ้งความเท็จ?
หนิง : ให้ทนายตอบดีกว่า
ทนายตั้ม : นักข่าวถามแล้วเขาตอบทำไมล่ะครับ ถ้าเขาไม่ตอบก็ไม่มีปัญหานะครับ ที่มีปัญหาเพราะมีนักข่าวถามแล้วเขาไปตอบเรื่องนี้
เรื่องนี้แซนเขาพูดปลายเปิดเอาไว้ว่าคุยกันได้ คุยกันมั้ย?
หนิง : หนิงไม่สามารถตอบแทนใครได้พี่หนุ่ม พี่หนุ่มถามมาตอนนี้ตกใจ อุ้ย
ผัวใช้คำว่าตัวเงินตัวทอง ผัวมีเจตนาอะไรหรือเปล่า?
ทนายตั้ม : เดี๋ยวค่อยปรึกษากันอีกทีครับ
หลายคนสงสัยว่าทำไม 5 คนถึงได้เข้ามามีส่วนกับเรื่องนี้ อย่างทนายเจมส์ ไม่ค่อยเห็นในบทบาทเรื่องแตงโม?
ทนายเจมส์ : คือผมเชื่อในพยานหลักฐานว่าประมาท ว่ามันไปได้แค่นั้น แต่ถามว่ามีอะไรในใจมั้ย ผมสงสัย บาดผลอะไรยังไง แล้วสิ่งที่เขาให้การบนเรือทั้ง 5 คนมันเอ๊ะไปหมดเลย แต่เราจะเอาความสงสัยของเราไปพิพากษาใครไม่ได้ครับ
เมื่อวานทนายตั้มไปร้องอะไรมา?
ทนายตั้ม : ก็ไปร้องที่ท่านประธานชวน เรื่องจริยธรรมนักการเมืองว่าการข่มขู่อะไรแบบนี้ ไม่น่าจะสง่างามในการเป็นนักการเมืองที่ดีได้ เลยมีการไปร้องท่านประธานให้มีการตรวจสอบ
คุยนอกรอบได้มั้ย?
ทนายตั้ม : มันเป็นเรื่องพฤติกรรมของคนนะ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าทะเลาะกันกับผม เป็นเรื่องพฤติกรรมคนเป็นส.ส.ที่ดีดีกว่า เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับประชาชนนั่นแหละ คงมาคุยส่วนตัวกับผมไม่ได้
ตอนนี้ดูคอมเมนต์ทวิตเตอร์,เฟซบุ๊ก มีสองมุมมอง มุมนึงมองว่าห้าคนนี้หิวแสง ขัดแข้งขัดขาคนทำงาน ไปยุ่งส.ส.เต้ทำไม อย่างน้อยเขายังทำอะไรให้แตงโม?
ทนายตั้ม : ผมเข้าใจนะว่าเราแสดงความคิดเห็นอะไรออกไปก็จะมีทั้งคนเห็นด้วยและคนไม่เห็นด้วย แต่ให้ทุกคนมั่นใจถึงแม้ไม่เห็นด้วยกับเรา ผมไม่ไปขู่กระทืบใครแน่นอน ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้ ผมชอบด้วยมาคอมเมนต์แสดงว่าสนใจเรื่องที่เราทำ
สิ่งที่ทำกันอยู่ไม่กลัวเขาฟ้องกลับเหรอ อย่างพี่เกิดดูแต่ละอันแสบๆ ไม่กลัวถูกฟ้องเหรอ?
ทนายเกิดผล : ไม่กลัวครับ ถ้ากลัวก็คงไม่ลง ผมวิพากษ์วิจารณ์ไป ไม่ได้ไปใส่ความเขา ถ้อยคำอาจดูรุนแรง แต่สิ่งที่ผมพูดไม่ใช่การใส่ความ ถ้าผมไปใส่ความเขาผมต้องผิดอยู่แล้ว แต่ถ้อยคำเหล่านั้นสะท้อนให้เห็นว่าเราดูอยู่นะสิ่งที่คุณพูด สิ่งที่คุณทำ กฎหมายส่วนใหญ่ก็เห็นว่ามันไม่ใช่ แต่เขาไม่พูด ประชาชนก็เห็นแต่ไม่พูด ถ้าต่างคนต่างไม่พูดเราก็หลงไปตามนั้นหมด ต้องมีคนพูดบ้าง ผมไม่ได้ไปก้าวล่วงเรื่องการทำงาน แต่บางสิ่งที่คุณกำลังทำน่าจะไม่ถูกต้อง เช่นคุณเป็นส.ส.กินเงินเดือนภาษีประชาชน แต่คุณไปกป้องบังแจ็คที่ข่มขู่ ทั้งคุณหนุ่ม คุณบุ๋ม แล้วบอกว่าบังแจ็คเป็นคนสำคัญ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรอยู่ในนั้นแต่เวลานั้นคุณขู่จะฟ้องคนไทย ทั้งที่คุณเป็นส.ส.กินเงินภาษีคนไทย
แต่เขาบอกบังแจ็คยังช่วยแตงโมนะ?
ทนายเกิดผล : ช่วยให้สุดๆ ก่อน ให้พยานหลักฐานมันชัดเจนก่อน แต่คุณไม่มีสิทธิ์ข่มขู่ใคร ผมก็โต้แย้งไปว่าสิ่งที่คุณทำไม่ถูกต้อง ผมไม่ได้ไปโต้แย้งเนื้อหาคดี สิ่งที่พูดไม่กลัวหรอกถูกฟ้อง เพราะผมก็เป็นทนาย ผมรู้ว่าคำไหนผิด คำไหนไม่ผิด ส.ส.สวะ ส.ส.ขยะ ไม่ผิดอยู่แล้ว ผมไม่ได้ว่าเขานะ ผมยกตัวอย่าง
แล้วคุณแต๊งค์เขียนทนายขยะ ทำไมโดนแจ้งความ?
ทนายเกิดผล : ก็เป็นเรื่องข้อกล่าวหาไปครับ เป็นสิทธิต่อสู้ไป อย่างท่านเสรีพิศุทธิ์ คุณสิระเคยฟ้องท่านเสรีพิศุทธิ์บอกว่าส.ส.สวะ ศาลยังยกเลย มันคือข้อเท็จจริงไม่ใช่การใส่ความ แต่เป็นข้อโต้แย้งว่าสิ่งที่คุณทำมันไม่ถูกต้องนะ คุณพูดมาไม่ถูก คุณเป็นส.ส. กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่คุณไม่ปกป้องคนไทยไปปกป้องคนต่างชาติ เราก็คุยกันนะครับ เราเป็นคนไทยไม่มีสิทธิ์คุยกันเหรอ
ระหว่างดำเนินรายการ มีคนกลุ่มนึงบอกว่าเปลี่ยนช่องดีกว่า ไม่อยากดูพวกคุณเลย?
ทนายรณณรงค์ : คุณจะบ้าหรือเปล่า จะเอาความคาดหวังของคุณไปลงโทษคนบนเรือที่เขาทำผิดหรือไม่ผิด หลักฐานยังไม่ชัดไม่ได้ จะเอาความคาดหวังของคุณไปตัดสินให้คนๆ นึงถูกตัดสินประหารชีวิตไม่ได้ ศาลโซเชียลจะตัดสินชีวิตคนไม่ได้ เพราะงั้นคุณต้องดูจากหลักฐานที่ปรากฏชัด ที่ออกมาพูดกันเราเตือนสติ ที่แสดงความเห็นอาจมีการเสียดสีบ้างเล็กน้อย แต่เนื้อๆ คือวิชาการหลักกฎหมายหรือเปล่า ตรงนี้สำคัญที่สุด เราจะไปบอกว่าคนนี้ผิด เอาประหาร ห้ามประกันตัว มันไม่ใช่ มันมีหลักกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แค่หลักฐานเรายังมีข้อสงสัยเลย แล้วมันจะไปถึงจุดลงโทษได้เหรอ นี่คือแสดงความห่วงใย เราไม่เคยไปโจมตีอะไรเลยนะ ยิ่งตอนหลังจุดพีคสุดของพวกผม ผมว่าหลายคนคิดเหมือนกัน บังแจ็คอยู่ต่างประเทศ แล้วส่งของกลับมา มันเชื่อถือได้มั้ย แล้วท่านส.ส.ผู้ทรงเกียรติของเราไปการันตีว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญ เราก็คิดว่ามันไม่แฟร์ดิ เพราะไปทำอะไรกับคนไทยไว้ เขาหนีคดีอยู่ ยังไม่สู้คดี แต่พอมีอะไรปุ๊บแล้วมีคนปกป้อง โห นี่เป็นฟางที่ผมขาดมาหลายวันแล้ว จะบอกว่าที่ผ่านมาทำอะไรทำไปเลย เราไม่เคยว่า จะไปขอดาวเทียมนาซ่าถ้าได้มามันก็ดี จะไปดำน้ำหาตรงไหนไปเลย ไปทำให้เต็มที่ เพราะเราเชื่อว่าเขาอยากให้น้องแตงโมได้รับความยุติธรรม แต่หลักฐานบางอันเราเตือนต้องฟังบ้าง เพราะคนบางคนที่มาที่ไปยังไม่ชัดเจนเลย ไปให้เครดิตมันขนาดนั้นได้ไง คนที่ไหนเอาภาพส่วนตัวผู้หญิงคนนึง ส่งให้ผู้หญิงคนนึงให้พูดบางอย่างออกมา คนปกติเขาทำกันเหรอ
ทนายเกิดผล : อย่าว่าแต่ภาพส่วนตัวเลย แค่ตั้งเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา แล้วโพสต์รูปคุณกระติก คุณแตงโมก็ได้ ถ้าคนหวังดีจะทำให้สังคมสับสนมั้ยชั่วโมงนั้น
ตอนนี้แฟนคลับบังแจ็คบอกว่าเขาช่วยแตงโมไง?
ทนายตั้ม : ผมว่าสังคมไทย คนที่ติดตามข่าวน้องแตงโม ถ้าเกิดใครแสดงความคิดเห็นไปในทางฆาตกรรม เขาจะเชื่อเลย และ สนับสนุนทางนี้ทันทีโดยขาดการคิด วิเคราะห์ ยกตัวอย่างง่ายๆ ที่บังแจ็คบอกว่าเขากู้ข้อมูลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว มีแค่คำพูดคำนี้ แต่คนเชื่อเป็นตุเป็นตะ โดยไม่คิดว่าบังแจ็คมีเครื่องไม้เครื่องมืออะไร แล้วกู้มาได้สาระสำคัญคืออะไรคุณรู้เหรอว่าตร.มีอะไรแล้ว แล้วเขากู้เพิ่มขึ้นมา พอเขากู้ คนก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นฆาตกรรม เชื่อแล้วว่าเป็นเรื่องจริง คือบางอย่างตร.เขาพูดออกมาไม่ได้ ถึงผมมีปัญหากับตร.บ่อยๆ แต่เราต้องพูดในหลักความเป็นจริง
วันนี้หลายคนบอกว่าแทนที่จะมาแซะกันไปมา ฟ้องกันไปมา ร่วมมือกันไม่ได้เหรอ?
ทนายตั้ม : ร่วมมือได้ แต่ขอแค่อย่าไปกล่าวร้ายหรือใส่ร้าย หรือพูดอะไรพล่อยๆ ไป ทำอะไรเราต้องมีกฎเกณฑ์ ไม่ใช่เขานำเราไปทางไหนเราก็ไป ไม่ใช่นะครับ เราอยากได้ความจริงเรื่องนี้ แตงโมต้องได้รับความยุติธรรม แต่ไม่ใช่วิธีการสร้างกระแสหรือเปิดเรื่องมาแล้วไม่จบสักที เปิดเรื่องหนึ่ง สอง สาม ปิดไม่ได้สักเรื่อง แบบนี้เราควรต้องไปเดินคู่ด้วยเหรอ
เกี่ยวข้องกับคุณอัจฉริยะมั้ย?
ทนายตั้ม : ผมออกมาทำเรื่องนี้ก่อนนายอัจฉริยะนานมากเลยนะครับ ผมออกมาตั้งแต่วันแรก อัจฉริยะตอนออกมาใหม่ๆ ถ้าใครยังจำเขาไลฟ์สดได้ ความคิดเห็นเขาไม่ได้มาทางนี้ มีอยู่ไลฟ์นึงเขาพูดว่าเขารู้ข้อมูลดีๆ เยอะ นายปอถ้าเกิดอยากรอดคดี ให้มาคุยกับผม ไปหาไลฟ์สดอันนี้ดู เขายังแบะท่าจะคุยกับผู้ต้องหาอยู่เลย แต่ผมก็ยืนอยู่อย่างนี้ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ ผมไม่เคยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมานะ เพียงแต่ว่าผมไม่ได้มีคอนเทนต์
ทนายรณณรงค์ : ที่ผมไม่เคยไปแตะพี่อัจฉริยะเลย เพราะหลักฐานที่แกเอาเข้ามามันนำเข้าสู่ศาลได้บางอย่างและไต่สวนมาน่าจะผ่านด้วย แต่ถ้าไม่ไปรวมกับหลักฐานบังแจ็คมันจะดีมาก แต่เผอิญเขาเอาไปรวมกันหมด ผมก็เลยต้องออกมาค้าน รอดูว่าเขาจะยื่นมั้ย เพราะมีผู้เชี่ยวชาญที่ไปกับเขาได้อยู่
ทนายตั้ม : ผมยังยืนยันเรื่องนี้ ทางบังแจ็ค ส.ส.เต้ อัจฉริยะ มั่นใจว่ามีหลักฐาน มีคลิป มีคนสารภาพแล้วบนเรือ ทุกคนจำคำพูดเขาได้ใช่มั้ย มีคลิปบอกว่ามีการทำร้ายกันบนเรือ มีเอามีดปาดขา เรื่องนี้ถ้ามีจริง ไต่สวนมูลฟ้องยังไงก็ต้องมีมูล ฟ้องตรงต่อศาลไปเลย เป็นผู้รับมอบอำนาจของแม่โดยตรงด้วย จะได้รับผิดชอบร่วมกัน
ทนายเจมส์มองเรื่องการออกมาพูดหรือแนะนำยังไง?
ทนายเจมส์ : ผมมองว่าแต่ละคนที่แสดงความคิดเห็น มีเอฟซี ติดตาม สิ่งที่เขาพูดชี้นำสังคมได้ พอพี่เกิด พี่รณณรงค์ ทนายตั้มหรือพี่รัชพลเห็นว่ามันน่าสงสัย หรือมีมุมมองที่อาจคลาดเคลื่อนจากมุมมองของเขา เขาก็ตั้งข้อสังเกตได้ เพื่อให้คนกลุ่มนั้นที่เชื่อหรือมองอยู่ได้มองอีกมุม ส่วนเขาจะตัดสินใจยังไงก็เรื่องของเขา ซึ่งถ้าเป็นเอฟซีอีกฝั่ง ต่อให้ฝั่งนี้พูดอะไรออกไปเขาก็ไม่เชื่อ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าการโพสต์อะไรออกไปเป็นการเรียกรถทัวร์ ยกเว้นผม เพราะเรื่องไหนผมไม่รู้ข้อเท็จจริงผมไม่โพสต์หรือไม่เกิดประโยชน์กับเอฟซีผม ผมก็ไม่โพสต์
พี่เกิดผล ข้อความพี่วิพากษ์วิจารณ์ส.ส. ซะเยอะ พี่มองยังไง เขาไม่ควรเข้ามาเกี่ยวเหรอ?
ทนายเกิดผล : ถ้าใครก็แล้วแต่เข้ามาช่วยเหลือคดีนี้ผมเอาใจช่วยหมดเลย แต่ผมเน้นไปที่ส.ส. ไม่ได้แตะอัจฉริยะ เพราะเขาไม่ได้กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่ส.ส.กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน แล้วเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคน ชักนำคนไปทิศทางที่คนเข้าใจผิดได้ ผมก็ออกมาโต้แย้ง ท้วงติง ในฐานะนักกฎหมายและประชาชนที่เสียภาษี ขณะเดียวกันผมไม่เคยไปก้าวล่วงในเฟซส.ส. แต่คำพูดของผมอาจฟังดูแล้วรุนแรง แต่ไม่เคยไปใส่ความแน่นอน ไม่เคยสร้างพยานหลักฐานเท็จ ถ้าอะไรที่ส.ส.เต้ทำอยู่ บางเรื่องผมไม่ได้ว่าเลย บางเรื่องผมเห็นว่ามันไม่ถูก ก็ออกมาท้วงติง เพราะคุณเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย คำพูดการกระทำของคุณมีอิทธิพลต่อสังคม ภาพบางอย่างชชี้นำไปในทางไม่ถูกต้อง ผมก็ออกมาคัดค้านในส่วนที่เป็นนักกฎหมาย ทั้ง 5 คนอยากช่วยแตงโม แต่เราไม่มีพยานหลักฐาน จะไปปรักปรำมากกว่านี้ก็ไม่ได้ แต่ถ้าส.ส. หรือคุณอัจฉริยะเห็นตรงข้าม เราก็รอดูหลักฐานอยู่ เพราะเราไม่มีปัญญาไปหาพยานหลักฐานเหมือนเขา เขาทุ่มเทเราก็ชื่นชม แต่อะไรไม่ใช่ก็ไม่ใช่ อะไรจริงก็คือจริง ถ้าเป็นคดีฆาตกรรม เกิดผลเห็นด้วยมั้ย ถ้ามีพยานหลักฐานเพียงพอเห็นด้วยอยู่แล้ว แต่ในเมื่อไม่เห็นพยานหลักฐานแล้วจะให้ผมไปสนับสนุนความคิดเห็นของเขา ผมไม่ใช่ ผมยอมรับได้กับการโดนด่า ไม่เป็นไร ผมไปใส่ร้ายคนอื่นไม่ได้หรอก ผมอาจไม่ชอบ 5 คนบนเรือ คิดว่าเขาต้องถูกลงโทษ แต่คงไม่ไปปรักปรำเขาหรอก
อึดอัดใจมั้ย พยายามเตือนสังคม แต่สังคมสู้กลับ?
ทนายรัชพล : เราอยู่ตรงนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา ถามว่าดีมั้ย ก็ไม่ใช่เรื่องดี แต่ต้องยอมรับถ้าจะทำงานตรงนี้ สิ่งหนึ่งที่เราอยากบอกสังคมคือความจริง และสิ่งที่เป็นไปได้ ทุกคนคิดเหมือนกันหมดว่าถ้าใครอยากช่วยก็เป็นกำลังใจให้ทุกคน แต่ถ้าอะไรไม่ถูกต้อง หรือโอเวอร์ไป ก็ไม่เห็นด้วย ถ้าใครด่าเราก็ยอมรับ จุดนึงก็เข้าใจเอฟซีที่มาด่า เขาอาจไม่เข้าใจสถานการณ์ ไม่เข้าใจกฎหมาย แต่คดีนี้แม้คุณเต้ อัจฉริยะมองเป็นฆาตกรรมหรือฆ่ากัน แต่ฝ่ายเขา คนรู้กฎหมาย คุณชนบทก็ไม่ได้เห็นด้วยเลย เห็นสอดคล้องมาในทางพวกผม
คนบอกว่ากรรชัยถ้าแน่จริงไปเชิญผู้ชายสามคนบนเรือมาออกเลย เชิญแล้ว แต่เขาไม่มา ไปบังคับเขาไม่ได้ โคตรอยากให้มา เพราะเรตติ้งก็ได้ เรื่องแน่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าแน่ผมตายไปนานแล้ว ผมสันดานเสียอยู่อย่าง เวลาคนด่าผมเยอะๆ ผมจะเป็นประเภทคิดบวก รู้ว่าทุกคนคาดหวัง อยากให้ทำแบบนี้ให้ แต่ผมทำให้ไม่ได้ ซึ่งพวกเขาที่ด่าก็ไม่ผิด รักมาก ก็จะเกลียดมากว่าทำไมทำให้เขาไม่ได้ ไม่เคยคิดฟ้องไม่เคยอะไร เข้าใจคนดูรายการผมดี ว่ามีมุมมองที่ต่างกัน เคยอธิบายเรื่องนี้ให้โอ๊ต ปราโมทย์ฟัง เขาไม่ผิดเพราะเขาไม่รู้ว่าผมมองมุมไหน ผมเห็นทุกวัน กรรชัยเข้าข้าง ไม่เอาคนนี้มาออก ผมมีวิธีคิดไม่โกรธ แต่บางมุมต้องทำความเข้าใจกันก่อน ถามว่าทำไมเอา 5 คนนี้มาออก อยากให้คุณเสพอีกมุมบ้าง อย่าเลือกเสพแค่มุมเดียว เวลาขึ้นศาลก็ยังมีสองมุม ต้องมีโจทก์และมีจำเลย ทุกอย่างต้องมีสองมุมมอง คุณจะมองแค่มุมเดียวแล้วบอกไอ้นี่ถูก ไอ้นี่ผิด ไม่ได้ ดูแล้ววิเคราะห์ว่าอันนี้ใช่หรือไม่ใช่ อย่าใช้เหตุผลตัวเอง สุดท้ายพอเจ็บก็เจ็บหนัก เผื่อใจไว้บ้าง รักนะถึงได้บอก ผมไม่ได้ว่าใคร ผมเป็นคนน้ำไม่เต็มแก้ว คุณใส่มาเลย ผมรับได้ ผมเข้าใจ?
ทนายตั้ม : อยากถามคุณหนุ่มบ้างได้มั้ย ครูหนุ่มคิดว่าเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมกันแน่ คิดว่าเป็นแนวไหน
วันนี้บอกเลย ผมคิดว่าเป็นอุบัติเหตุตั้งแต่แรก ผมคุยกับทุกคนหลายมุมมอง คิดว่าเป็นอุบัติเหตุที่มีเงื่อนงำ แต่หลังจากได้คุยกับหลายๆ คน ผมก็เริ่มเขวว่าเงื่อนงำคืออะไร อุบัติเหตุคืออะไร ขับเรือเร็วประมาท บังเอิญล้มเซกระแทกโดนเขาล้มลงไป มันพูดได้หลายอย่าง แต่จงใจฆาตกรรม ผมยังมองไม่ถึง ผมมองว่าไม่เจตนาหรือเปล่า มันหลากหลาย ตอบไม่ได้จริงๆ ณ ตอนนี้ เพราะเริ่มมีมุมนี้ๆ ผมเริ่มเก็บหลายมุม แต่ดอกแรกผมฟังแค่มุมเดียว ถึงพยายามบอกทุกคนว่าฟังหลายๆ มุมนะ มีหลายมุมมองนะ สุดท้ายเราไม่ใช่คนตัดสิน ศาลจะตัดสินเอง สุดท้ายอัยการส่งเรื่องนี้ขึ้นศาลยังไง ศาลท่านมีวิธีวิเคราะห์อีกหลากหลาย ทุกวันนี้ผมตัดสินไม่ได้หรอกว่าอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม วันก่อนหมอพรทิพย์พูดดี แล้วผมเก็ต ว่าต้องหาป้ายแรกให้เจอก่อน ถึงจะไปสถานีต่อไปได้?
ทนายรัชพล : เราก็เหมือนหมอพรทิพย์ หมอพรทิพย์ก็ไม่ได้ระบุเหมือนกันว่าเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม
ทนายตั้ม : คุณหนุ่มพยายามบอกว่าต้องมองให้รอบด้าน
อย่างที่บอก ผมไม่ตอแหล ผมพูดในรายการบ่อย เรื่องนี้เหมือนอุบัติเหตุที่มีเงื่อนงำ เงื่อนงำนี่แหละอาจกลายได้ เงื่อนงำคือก้อนเนื้อก้อนนึงอาจกลายเป็นมะเร็งก็ได้ หรือก้อนเนื้ออาจกลายเป็นเนื้องอกเฉยๆ ก็ได้ ถ้ากลายเป็นมะเร็งก็พลิกไปได้ถึงเรื่องการฆาตกรรม จงใจ เจตนา แต่ถ้าไม่ใหญ่ขึ้นไปก็เป็นแค่ก้อนเนื้อธรรมดา ผมมองแค่ตรงนี้ คุณมองยังไงเรื่องนี้ ฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ?
ทนายตั้ม : ผมให้สัมภาษณ์มาตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ ผมไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุธรรมดา ผมว่าต้องมีอะไรมากกว่าอุบัติเหตุ เกินกว่าอุบัติเหตุ แต่ไม่มีหลักฐานว่าเป็นฆาตกรรมไง
ทนายเจมส์ : เท่าที่เห็นพยานหลักฐานจากในข่าว สำนวนที่ตร.ท่านเอาออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ผมมองว่ามันคือการประมาทจากหลักฐาน แต่ถามว่าผมสงสัยมั้ย ผมโคตรสงสัย อย่างบาดแผล เพราะตร.อธิบายเราไม่ได้ เราก็มีสิทธิ์สงสัย แถมเอาภาพอื่นๆ จากต่างประเทศมาแปะอีก ทำให้สงสัยหนักเข้าไปอีก ตอนนี้ที่มอง ประมาทมั้ย ประมาทมีสองอย่าง ใครเป็นคนทำ คนนั้นต้องรับผิดชอบต่อน้อง หรือสองน้องเป็นคนทำเอง ตรงนี้ไม่ต้องมีคนรับผิดชอบ ต่อมามีใครวางแผนฆ่าน้องมั้ย มันต้องมีเหตุจูงใจที่จะฆ่าผู้หญิงคนนี้ ผมมองว่าไปไม่ถึง อีกมุมนึง ไม่ได้หวังฆ่าเขา เพียงทำร้าย แล้วผมการทำร้ายก็เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แต่ต้องมีเหตุจูงใจว่าทำร้ายกันทำไม อีกอันที่มองแกล้งกันหรือเปล่า ผลักกันแล้วร่วงลงไปหรือเปล่า
ทนายตั้ม : ผมก็คิดแบบนี้นะ เรื่องแกล้ง
ทนายเจมส์ : มันมีหลากหลายมุมที่ผมคิด ผมก็เก็บความคิดของผมเอาไว้ในใจ ไม่เคยได้ไปบอกใคร ยกเว้นมีคนถามก็เล่าให้ฟัง ให้หลากหลายมุม คุณก็ไปตัดสินใจเอา ผมไม่ใช่ทนายในสำนวน ผมเป็นแค่คนๆ นึงที่เสพข่าว เสพจากความคิดของหลายๆ คน มาประมวลผลเอง ไม่ได้พยายามชี้นำใคร ผมไม่มีหน้าที่ตรงนั้น
นักเรียนรัชพล บอกครูสิ คิดว่าอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม?
ทนายรัชพล : หลายสิ่งหลายอย่างยังมีความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วไม่มีพยานหลักฐานมายืนยัน ศาลก็ยกผลประโยชน์ให้จำเลย มันจะมองไปถึงเรื่องฆาตกรรมก็ต้องดูจากหลักฐาน เรายังสงสัยและไม่มีคำตอบ จริงๆ คดีนี้ไม่น่ารีบสรุป น่าจะสืบสวนสอบสวนต่อไป ความจริงอาจปรากฏทีหลังก็ได้
พี่เกิด?
ทนายเกิดผล : เรื่องเจตนาฆ่า 288 289 ส่วนตัวคิดว่าไม่ถึง ทั้งพยานหลักฐานก็ไม่ถึง มูลเหตุจูงใจไม่รู้เลยจะมีสาเหตุมาจากอะไร ต้องเชื่อว่ายังไม่มีเจตนาฆ่า แต่ก็ไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุตกท้ายเรือ ผมเข้าใจเหมือนพี่หนุ่มว่าเป็นอุบัติเหตุมีเงื่อนงำ แต่เงื่อนงำนี่คิดไปหลายมุม อาจเล่นกัน ผลักกัน แกล้งกัน โมโห ทำอะไรพลั้งมือรุนแรงไปหรือเปล่า แต่ก็ได้แค่คิด คงไปยืนยันหรือปรักปรำไม่ได้ผมก็ไม่ชอบใส่ร้ายคน ก็ได้แค่คาใจ รอพยานหลักฐานเหมือนกัน เมื่อพยานหลักฐานมีแค่ไหน มันก็ไปได้แค่นั้น
พี่รณณรงค์?
ทนายรณณรงค์ : ผมว่าตำแหน่งหล่นเขาไม่ใช่ท้ายเรือแค่นั้นเอง ถ้าปกปิดก็แสดงว่าอาจมีเหตุอื่นมากกว่าการหล่นเรือ ที่ดูจากลักษณะแผลด้านไหน หล่นจากท้ายต้องท่ายากมาก คนปกติไม่เป็นแบบนั้น ไม่เชื่อว่าหล่นท้ายเรือ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนเขายืนยันว่าตำแหน่งหล่น หล่นด้านหน้าได้ แล้วแถลงข่าวภาค 1 จำลองภาพเหตุการณ์น้องหล่นท้ายเรือ แต่ไม่ยอมจำลองเหตุการณ์นึงที่สำคัญกว่า ตอนจำลองว่าหล่นหัวเรือแผลแบบเดียวกันมั้ย ไม่ยอมให้สื่อมวลชนและประชาชนดู พอไม่เปิดเราก็คิดว่าคุณก็ไม่ชัวร์ว่าหล่นด้านไหน แต่ถ้าหล่นท้าย ผมปิดคดีได้ไง ว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ถ้าหล่นหัว มีคนทำให้ตายหรือเปล่า ถ้าปิดหัวแล้วโดนด่าแน่ เลยต้องมาปิดท้ายหรือเปล่า พยานผู้เชี่ยวชาญที่เขามี สามารถส่งขึ้นศาลได้เลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องรออัยการด้วยซ้ำ
ทนายเจมส์ : หล่นท้ายเรือ โอกาสโดนใบพัดน่าจะมีน้อย แล้ววนกลับมาทับ เป็นไปได้มั้ย สมมติ
ทนายรณณรงค์ : ทฤษฎีนั้นก็เป็นไปได้ แต่เขาส่งสำนวนให้อัยการ เขาจำลองว่าหล่นแล้วโดนบาดเลย ขับเรือไปมาโอกาสไปโดนได้มั้ย โอกาสน้อยมาก เพราะเรือแล่นด้วยความเร็วสูง น้ำแหวกออกต่อให้แตงโมอยู่ตรงนั้นก็ต้องกระเด็นออกด้านข้าง หรือมีแผลฟกช้ำตามร่างกายแต่นี่แตงโมไม่มีแผลไง ผมคิดทฤษฎีตรงนี้เหมือนกัน แต่แตงโมไม่มีแผลรอยชน มีแต่แผลรอยปาด ถ้าหล่นหัวเป็นไปได้หลายอย่าง แต่ถ้าหล่นหัวแสดงว่ามีการปกปิดกันทั้งห้าคนบนเรือ
ทนายรัชพล : มีดกรีดขา แผลมันใหญ่มาก ต้องเจอคราบเลือด ผมสงสัยอย่างนึงว่าตอนนี้ที่ตรวจเรือมีแต่พฐ. แต่นิติวิทยาศาสตร์ไม่เคยเข้าไปตรวจเรือ หมกเม็ดหรือเปล่าเราก็ไม่รู้
ทนายเกิดผล : ที่เอฟซีส.ส. หรือเอฟซีอัจฉริยะ มาโจมตีทนายความว่าขัดขวาง เราไม่ได้ว่าแต่ส.ส.อย่างเดียว ตร.นิติเวชไม่ถูกเราก็ไปว่าเขาเหมือนกันนะ อย่างตร.เอารูปจากเว็บไซต์เดอะซันมา หรือคลิปที่คุณอัจฉริยะเอามาหมุนๆ ผมก็ยังตำหนิเลย ว่ามันไม่เหมาะสม ไม่สมควร ไม่ถูกต้องหลายอย่าง ตร.เองก็มีปัญหา มีพิรุธ เราก็วิพากษ์วิจารณ์กัน ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์แต่ส.ส. เราคุยบนพื้นฐานความเป็นจริงว่ายังมีอะไรที่น่าสงสัย ไม่ได้มุ่งโจมตีแล้วเชียร์แต่ตร.
ทนายรณณรงค์ : ผมเคยตั้งข้อสังเกตว่าทำไมคดีขนาดนี้ ไม่ใช้หมอนิติเวชหลายคนผ่าศพ พอมาเจอคลิปหลุดที่บอกว่าเอาใบพัดเรือไปจำลองเหตุการณ์ก็อ๋อ มันอย่างนี้นี่เอง มันทำให้มีพิรุธ ไม่มีหมอด้วยกันมาตรวจหลายคนเหมือนคดีดังระดับประเทศ ที่สถานทูตเขาขอ หมอมา 3 หมอ มาดูศพว่าเป็นยังไงบ้าง หมอต่างประเทศ 1 หมอไทย 2 ถ้าวันนั้นเอาหมอสามคนมา เหตุการณ์เอาใบพัดมาเทียบก็จะไม่เกิดขึ้น อันนี้เราต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ตายเป็นหลักนะ ไม่ใช่หาวิธีปิดคดี เราก็จะเขวไปแบบนี้แหละ เรือถ้าพี่ตั้มไม่ไปชี้ก็ไม่เอาไปเก็บ
หลายคนถามว่าทำไมเด็กชายเดชาไม่มา เด็กชายเดชาไปฟ้องครูใหญ่อยู่ว่าถูกเพื่อนรังแก?
ทนายเจมส์ : เขาจะเอาเพื่อนออกจากโรงเรียนเลย (หัวเราะ)