กรณีคนร้ายขับรถกู้ภัยขนยาบ้า 2.4 ล้านนำมาทิ้งบริเวณภายใน ซ.หทัยราษฎร์ ย่านมีนบุรี ล่าสุดได้นำของกลางทั้งหมดมาเก็บไว้ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรีเพื่อตรวจสอบและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ต่อมามีการแถลงยืนยันว่าคนร้ายเป็นอาสาของมูลนิธิชื่อดัง สังกัดจุดลาดพร้าว
รายการโหนกระแสวันที่ 6 มิ.ย. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ เอกพัน บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู , อัครเดช ทวิสุวรรณ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดลาดพร้าว , ยอด อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
พี่ได้ข่าวแล้วตกใจมั้ย คนนี้ชื่อโด้ บอกว่าเป็นอาสาฝั่งร่วมกตัญญู จริงๆ เป็นแบบนั้นหรือเปล่า?
เอกพัน : จะพูดว่าจริงหรือไม่จริง จริงๆ เขาก็ทำงานเป็นอาสาอยู่พักนึง แต่การเป็นอาสาของเขา มูลนิธิร่วมกตัญญูยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เขาจะเข้ามาชุลมุนในช่วงโควิด รับคนป่วยคนเจ็บส่งรพ.ต่างๆ ทีนี้พอเขาทำได้สักช่วงนึง เขาอยากเป็นอาสาสมัครร่วมกตัญญู เขามากรอกใบสมัครเอาไว้ แต่เรายังไม่ได้ออกบัตรการเป็นอาสาสมัครที่ถูกต้องให้เขา แต่เขามาเขียนใบสมัครเอาไว้ แต่ยังไม่มีมีการออกบัตรเป็นลายลักษณ์อักษร ยืนยันตัวตนให้เขา ทีนี้วันที่ 18-19 กำลังจะเปิดแจกบัตรครั้งแรก หลังโควิดค่อยๆ เบาบางลง เราจะเริ่มแจกบัตรอาสา แต่เผอิญเขามาเกิดเรื่องเสียก่อน
นายโด้กำลังจะได้บัตรอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เขาอยู่มานานแค่ไหน?
อัครเดช : ปีกว่าๆ นิสัยก็ปกติทั่วไป ไม่ค่อยมีพฤติการณ์แบบนี้ ปกติเขาก็ทำงานของเขา เขามีอาชีพของเขา ถึงเวลาก็มาวิ่ง แล้วเขามาขอน้องอีกคนนึงขอทำ ซึ่งเราไม่ได้รู้จักเขาโดยตรงในตอนแรกเราก็บอกว่าการจะเป็นอาสาสมัครต้องมีเวลาว่างและเสียสละออกมาทำงาน ก็ลองดูแล้วกันว่าทำได้มั้ย ชอบหรือเปล่า เราก็ให้เขาทดลองงานอยู่เรื่อยมา เขาก็ทำของเขาปกติ
เขาทำทั้งสามีภรรยา เป็นอาสาทั้งคู่?
อัครเดช : ใช่ครับ เขาก็ออกไปช่วยคนปกติ
เคยได้ยินระแคะระคายมั้ยเรื่องเขาขนยา?
อัครเดช : ไม่มีเลย ประวัติที่เช็กมาก็ไม่มี เท่าที่เช็กจากคนรู้จักเขา เพื่อนเขา ก็ไม่มี
ตร.บอกว่าน่าจะมีการทำแบบนี้มาสองครั้งแล้ว นี่คือครั้งที่สาม?
อัครเดช : ที่ผมได้เรียนสายกับผู้บัญชาการสระบุรี เขาแจ้งมาว่าทำมาสองครั้งแล้ว ข้อมูลตรงกัน วันเกิดเหตุผลต่อสายหาเขาเลย เขาก็รับสาย
พอรู้เรื่องมีการขนยากัน ตอนแรกคิดว่าเป็นเขามั้ย?
อัครเดช : ผมไม่รู้ ตอนแรกผมหลับพักผ่อนอยู่ มีน้องอีกจุด อยู่จุดข้างเคียงโทรหาเรา แล้วถามว่านี่รถจุดพี่หรือเปล่า ตอนแรกส่งมาเป็นภาพนิ่งส่งมาหาเราว่าเป็นรถในทีมเราหรือเปล่า ลูกน้องพี่หรือเปล่า พอรู้ปุ๊บก็รู้แล้วว่าใช่แน่นอน จากลายรถ ลักษณะรถ หลังจากนั้นก็มีข่าวว่ายิงตร.
หลังเขาไล่ล่ากัน เขาบอกว่ารถนายโด้เปิดฉากยิง เพื่อเปิดทางให้ตัวเองได้หลบหนี?
อัครเดช : ใช่ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงตอนนั้น เราก็ถามในไลน์อาสาสมัครลาดพร้าวเลย ส่งไปถามเขาว่าโด้ไปทำอะไร ใครรู้มั้ย ข้อมูลที่ได้รับมาคือยิงตร.ก่อน ด้วยสาเหตุอะไรเรายังไม่รู้
หลังจากนั้นมีคนส่งมาว่าขอโทษทุกคน คนที่ส่งมาคือโด้ ส่งมาว่าขอโทษทุกคน แล้วก็ส่งเป็นรูปตัวการ์ตูนปิดหน้าร้องไห้ คุณก็ถามว่าจริงเหมือนที่เขาว่ากันเหรอ โด้ตอบกลับมาว่าครับ หลังจากนั้นคุณถามว่ามึงอยู่ไหน ทำไมไม่คิดอะไรเลย ทำไงล่ะทีนี้ เขาตอบว่าผมรับเอง ขอโทษนะพี่ คุณก็ส่งไปว่ามอบตัวเลย เชื่อพี่ เขาบอกว่าครับ เชื่อพี่ผิดพลาดไปแล้วดีกว่ามีการสูญเสีย เป็นห่วง แล้วเขาก็ส่งกลับมาว่าทิพย์รอด?
อัครเดช : ทิพย์คือเมียเขา เขาแจ้งในไลน์กลุ่มแค่นี้ หลังจากนั้นโทรเพราะผู้ใหญ่ในมูลนิธิโทรมาแล้วว่าให้เช็ก ข้อเท็จจริงเป็นยังไง ผมก็โทรหาเขาเลย พอโทรเสร็จถามว่ามึงอยู่ไหน เขาแจ้งกับเราว่าผมหนีอยู่พี่ แล้วก็ร้องไห้ ผมก็ถามว่าในรถมีอะไร เขาบอกว่ามีกัญชา ผมถามว่าเยอะมั้ย เขาบอกเยอะตันนึง เขาแจ้งแบบนี้
เอกพัน : แต่ไม่มีกัญชา ต้องไปสืบว่ากัญชาเอาไปทิ้งไว้ที่ไหน
แต่ที่ตร.เจอไม่ใช่กัญชา เป็นยาบ้า 2.4 ล้านเม็ด หกกระสอบ ถูกเอาไปโยนทิ้งไว้โดยรถของโด้?
อัครเดช : ใช่ หลังจากนั้นผมถามว่ามึงทำมากี่ครั้งแล้ว เขาบอกว่าทำมาสองครั้ง ครั้งนี้ครั้งที่สอง แล้วมันคุ้มเหรอวะที่ทำแบบนี้ พูดตามประสาชาวบ้าน เขาบอกครั้งแรกได้มา 3 แสน แล้วจะทำยังไง มันเสื่อมเสียมาถึงองค์กร ทำอะไรก็ได้ แต่ทำไมต้องเอาองค์กรมาเกี่ยวข้องด้วย เราไม่สามารถบังคับบอกใครได้ว่าทุกคนต้องเป็นคนดี
หลังจากวางหูไปเขาว่ายังไง?
อัครเดช : เขาก็วางหูไปเลย เขาบอกว่าไม่มีตังค์ จะขอยืมตังค์หน่อย แต่ผมจะไปให้เขาได้ยังไง ถ้าให้คือไปร่วมกับเขาเลย เส้นทางการเงินก็จะมาถึงผม เราห่วง เรารัก แต่ต้องรักให้ถูกต้อง ผิดก็คือผิด ที่ผ่านมาคุณไม่พลาด นั่นคือเวรกรรมใครเวรกรรมมัน แต่ผมในฐานะหัวหน้าชุดก็ต้องพูด ผมจะไปซ้ำเติมเด็กก็ไม่ได้ แต่ถึงเวลาพลาดมันก็ต้องรับผิดชอบไป
คุณไม่ได้ให้เงิน?
อัครเดช : ไม่ได้ให้ ก็วางสายกัน หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้เลย
ได้ถามถึงแฟนเขามั้ย?
อัครเดช : ไม่ได้ถาม แทบไม่อยากจะคุย เราโทรไปเพื่อเอาข้อมูลจริงๆ เรากลัวว่าถ้ามีเบอร์โทรเราไปเข้าเครื่องเขา เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเรามีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องด้วย จริงๆ ไม่ค่อยอยากโทร แต่หน้าที่เราต้องโทรเพื่อหาข้อมูล
เขาใช้รถตัวเอง?
เอกพัน : ครับ เราโชคดีอย่างคือเขาไม่ได้ติดสติ๊กเกอร์หรือตราของมูลนิธิ เขาทำของเขาเป็นรถรีเฟอร์ที่ทำขึ้นมาเพื่อรับส่งผู้ป่วย ซึ่งก็เอาช่องว่างตรงนี้ไปหาผลประโยชน์
เขาหนีไปในพื้นที่สน.มีนบุรี แถวๆ คลองสามวา ไปในซอยราษฎร์อุทิศ 44 มีกระบะคันนึงตามมารับเขา และมีผู้หญิงหนึ่งคนมาด้วย?
เอกพัน : ผมว่าเขาน่าจะติดต่อกันตลอดเวลา รถที่ไปรับเป็นรถกู้ภัย คล้ายๆ รถร่วม
ต้องมีคนร่วมกับเขาและเป็นกู้ภัยเหมือนกัน?
เอกพัน : ถูกครับ ผมว่าที่เขาบอกว่าทำสองครั้งก็ไม่น่าจะสองครั้ง น่าจะมากกว่าสองครั้ง เพราะจำนวนยามันมากเหลือเกิน ถ้าทำสองครั้ง ไม่มีใครหรือเจ้าของยาจะมอบให้เป็นล้านๆ เอามาให้คนๆ นี้ ต้องไว้ใจและทำมานาน ยาเป็นล้านไม่ใช่จะมอบให้ใครก็ได้ ผมว่าไม่น่าใช่
รถนายโด้ไปที่จุดนึงตอนบ่ายสามโมงกว่าๆ เข้าป่ารกร้าง เหมือนเอากระสอบยาบ้าไปโยนไว้ จากจุดเอายาไปทิ้งไว้ จนถึงจุดที่เอารถไปจอดทิ้งไว้?
เอกพัน : ทำคนเดียวเหรอ
ประเด็นที่หลายคนสงสัยทำคนเดียวเหรอ แต่ไม่น่าใช่ เพราะเท่าที่ดูมีการเอารถปิดหน้าปิดหลัง เพื่อดูตร. แต่รถนายโด้มีแฟนนั่งอยู่ด้วย?
เอกพัน : ยามันหนักมาก เขาเอาลงยังไง
ต้องยกสองคน แล้วตอนเอาไปทิ้ง 6 แพ็กเลยนะ?
เอกพัน : วินาทีตกใจทำได้ทุกอย่าง
ตกลงไม่ใช่กัญชา ความจริงเปิดเผยคือยาบ้า 2.4 ล้านเม็ด ช็อกเป็นทวีคูณมั้ย?
อัครเดช : ไปไม่ถูกเลย นอนไม่หลับ เราไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ คาดไม่ถึง
กลัวเขาบอกว่าคุณเป็นคนสั่งมั้ย?
อัครเดช : (หัวเราะ) ผมไม่กลัวหรอกพี่ ตรวจเลย มันไม่ใช่แค่ไลน์ ตร.รู้ว่าใครทำอะไร
เอกพัน : แล้วไม่น่าเชื่อนะ ถามว่าฐานะทางบ้านเขาขาดแคลนมั้ย ขาดส่งเงินทองมั้ย ก็ไม่นะ แฟนเขาเปิดกิจการ ตัดเย็บเสื้อผ้า
อัครเดช : ที่บ้านเขาครับ แม่เขา ครอบครัวฝ่ายหญิง มันเลยเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันว่าจะเป็น
น้ายอด ต่อไปจะทำยังไง ตอนนี้วิธีการคนร้ายขนยาบ้า มันเริ่มเข้ามาในกู้ภัย ใช้ช่องว่างตรงนี้ รถกู้ภัย รถพยาบาลที่ใช้กันบนถนน หนึ่งตร.ไม่ตรวจ สองมีการเปิดไซเรน สามารถผ่านไปได้อย่างเร็ว มองยังไง แล้วจะคัดกรองกันยังไง?
อัญวุฒิ : ได้ยินข่าวครั้งแรก หนีมาจากจังหวัดภาคเหนือ โอ้โห เปิดไซเรนมา เขาก็เปิดมาไกล เปิดมาตลอดทาง เจ้าหน้าที่สกัดจับแล้ว เขายังหนีมาได้หลายจังหวัด มีสิ่งเดียวคือหัวใจคนมาทำงานอาสา ทุกวันนี้อาสาที่เขาทำดีมีอีกมาก วงการกู้ภัยหรืออาสาเราจัดโซนเป็น 3 โซน คืออาสาในกลุ่มแรกๆ ที่เป็นอาสาน้ำดี เขาจะทำตามกฎระเบียบมูลนิธิ กล้าติดสติ๊กเกอร์ตัวหนังสือตามระเบียบที่มูลนิธิออกหนังสือ เขาอยู่หน่วยงานไหนก็ติดชื่อหน่วยงานนั้น แล้วติดรหัสตัวเองข้างประตูรถ นี่คือกฎมูลนิธิ ออกไปปฏิบัติงานใส่เครื่องแบบให้เรียบร้อย
ต่อจะไปแก้ไขยังไง?
อัญวุฒิ : มีสิ่งเดียว อยู่ที่สามัญสำนึก ถ้าถูกลงโทษก็ต้องเอาให้หนัก
ไม่สามารถไปวางระเบียบหรือดักทางเขาได้?
เอกพัน : เราไมได้อยู่กับเขาได้ตลอดครับ
อัญวุฒิ : ภาพที่เราเห็นน้องคนนี้จนชินตาคือเขาออกมาช่วยคน เขามีรถพยาบาลด้วย เราเห็นเขาออกมาช่วยคน มูลนิธิเราก็เปิดโอเพ่นให้คนมาร่วมกันทำความดี อาสาตอนนี้มีเกือบหมื่นคน เรารับมาเราก็คัดกรอง ทุกอย่างผ่านจุดคัดกรองมาแล้ว แต่เขาคงไม่มาบอกเราหรอกว่าเขาขนขา เขาก็ตอบเราตามกฎกติกาที่เรามี เขาก็ทำตามขั้นตอนระเบียบทุกอย่าง
กรณีนี้จะมีรถอีกคันที่ขับมาจอดแล้วรับ ดูแล้วเหมือนรถร่วมด้วย จะทำยังไงกับตรงนี้?
เอกพัน : ถ้าเราตรวจสอบได้ว่าคนขับรถมารับนายโด้เป็นอาสาสมัคร่วมกตัญญู แต่ที่ตร.เจอบัตรประจำตัวของอาสา ชื่อไอซ์ ไปอยู่ที่รถตู้โด้
ตอนนี้เจอไอซ์มั้ย?
เอกพัน : ไอซ์ไปรับ แต่เราไม่รู้ว่าไอซ์ขับมาหรือเปล่า
รถกระบะเป็นของไอซ์ รถตู้ฉุกเฉินเป็นของโด้?
อัญวุฒิ : เราเห็นภาพหน้างานเขาเอารถมาช่วยนำคนเจ็บส่งรพ. เราเห็นมาเกือบปี เวลาเขามาช่วยงาน ก็เห็นแค่การมาช่วยงานในพื้นที่เกิดเหตุ
วันนี้ชัดเจนแล้วว่าคนขับรถตู้คือนายโด้ มีภรรยานั่งอยู่ด้วย ส่วนข้อเท็จจริงภรรยาร่วมกันหรือเปล่าไม่รู้ แต่โด้รับกับคุณว่าเขาเอง ส่วนไอซ์มีบัตรไอซ์อยู่ในรถตู้ของโด้ รถกระบะเหมือนกู้ชีพอีกคันเป็นของไอซ์ แต่ไม่รู้ไอซ์ขับมั้ย แต่วันนี้ไอซ์หายไป เจอแต่ยาบ้า?
เอกพัน : ผมคิดว่าบัตรที่เจอในรถตู้โด้ โด้น่าจะเอาเป็นไม้กันหมา เพราะโด้ยังไม่มีบัตร แต่ไอซ์มี เป็นบัตรเก่าที่ขาดอายุ ยังไม่ได้ต่อ
พอชื่อมาถึงร่วมกตัญญูจะทำยังไงต่อไป?
เอกพัน : ก็ต้องขอบคุณรายการโหนกระแส ที่ให้เราออกมาชี้แจงเรื่องพฤติกรรมอาสาแต่ละจุดที่ทำงาน แต่นานน้านจะมีแบบนี้ เราก็ไม่รู้จะป้องกันยังไงกับพวกนี้ที่แอบแฝงเข้ามาใช้บุญกุศล ใช้อะไรต่างๆ บังหน้า ทีนี้ใครเข้ามาสมัครเราจะขอแฟ้มอาชญากรรม อาชญากร ของกรมตำรวจมาดู ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะเราเปิดโอกาสให้คนทำความดีร่วมเข้ามา ทีนี้ก็อยู่ที่จิตสำนึกตอนทำมาอาจดี เข้ามาช่วยเหลือสังคม ยกคนเจ็บส่งรพ. แต่อยู่ๆ ไปขัดสนเงินทอง คนเสนอโน่นนี่ ความโลภเข้ามาครอบงำจิตใจ มันเลยอาจทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เราไม่รู้จะป้องกันได้ยังไง
อัญวุฒิ : เราทำได้แค่ออกกฎระเบียบมูลนิธิให้เขาปฏิบัติ ก่อนวันรับบัตรประจำตัวอาสา เราต้องเข้าพิธีแช่งตัวเอง เราให้อาสาแต่ละคนเข้าไปในศาลเจ้าของมูลนิธิแล้วก็ประกาศกล่าวดังๆ ว่าข้าพเจ้านายนี้ ขอปฏิญาณตน เหมือนแช่งตัวเอง ถ้าเราทำไม่ดีขอให้เราวินาศ ฉิบหาย ในส่วนการสาบาน ถ้าใครทำดีก็ได้รับผลดี ใครทำไม่ดีก็ได้รับผลเหมือนกัน
ตร.บอกว่ายาบ้า 2.4 ล้านเม็ด ดูจากข้อมูลน่าจะใช้ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ไม่ได้ส่งไปทางใต้?
เอกพัน : แล้วที่บอกว่ามีการยิงตร. จริงๆ แล้วไม่มีนะ
อัครเดช : เป็นเสียงปืนตร.เองที่ยิงสกัด โด้ไม่ได้ยิง
เอกพัน : น้องโด้เขาเป็นนักแข่งลงสนามด้วยนะ ถ้าไม่ใช่มืออาชีพนี่ทำไม่ได้
อัญวุฒิ : อาสากลุ่มที่สองคือเป็นรถพยาบาลประเภทแบบนี้ เหมือนเข้าไปอยู่กับบริษัท รับขนย้าย รีเฟอร์ เวลาว่าง กลางคืน เย็น เขามาช่วยงานอาสาในหน่วย พอได้รายได้มาก็ซื้อพวกเวชภัณฑ์ยามาใส่ในรถ
เป็นไปได้มั้ย อาจต้องบังคับรถทุกคันให้ติดกล้อง ต้องเช็กทุกวัน
อัญวุฒิ : ส่วนมูลนิธิเราดูแลเราเองได้ แต่พอเป็นรถอาสาเข้ามาร่วมกับเราแบบนี้ …
ไอซ์อยู่กับเรามั้ย?
อัครเดช : อยู่ครับ ผมติดต่อเขาไม่ได้ หลังจากที่ผมเห็นรถเขาปรากฏในคลิป เราก็ติดต่อเขาเลย แล้วติดต่อไม่ได้ ยังไม่ได้พูดคุยกับเขาเลย
ไอซ์อยู่ในกลุ่มไลน์มั้ย?
อัครเดช : อยู่ แต่ไม่ได้ตอบครับ
เอกพัน : อยากให้กำลังใจน้องๆ อาสาทุกคนที่ทำความดีมาโดยตลอด แต่พอมาเจอแบบนี้ เข้าใจว่าจิตใจอาจต้องถดถอย หมดกำลังใจทำความดีจากการกระทำของคนกลุ่มหนึ่ง หรือคนๆ เดียว หรือสองคนก็แล้วแต่ ก็ขอให้ทำความดีต่อไป ยืนหยัดมุ่งมั่นทำความดีต่อไป เพราะเชื่อว่าทำความดีมากเท่าไหร่ ความดีก็จะเป็นเกราะคุ้มครองเรา
อยากฝากอะไรโด้กับไอซ์?
อัครเดช : ตอนนี้มอบตัวดีกว่า ดีกว่าสายเกินไปกว่านี้ เสียใจนะที่พวกมึงทำกันแบบนี้ ไม่คิดว่าจะมาทำแบบนี้ เพราะคนอยู่ต้องรับผลกรรมต่อ คนไม่อยู่แล้วไม่ต้องคิดอะไรแล้ว สิ่งที่มันลง มาลงกับเรา ก็อยากฝากขอโทษพี่ๆ น้องๆ กู้ภัยทั้งหลายด้วยว่า ขอให้แยกแยะระหว่างบุคคล
ไอซ์มีปืนมั้ย?
อัครเดช : ไม่มีครับ
โด้ล่ะ?
อัครเดช : ผมไม่รู้ดีกว่า
คุณไม่เกี่ยว?
อัครเดช : ครับ (หัวเราะ) ถ้าไอซ์บอกว่าไอซ์ไม่รู้เรื่องแค่ช่วยเพื่อนก็ออกมาชี้แจง ยังไงซะผลกระทบ บทลงโทษ หรือความผิดมันมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่ผู้ร่วมกระบวนการ อย่างโด้นี่ชัดเจน แต่อย่างไอซ์อาจเป็นเพื่อนฝูงรักกัน แต่ถ้ารักกันในทางที่ผิดเมื่อไหร่ก็ต้องเจอบทลงโทษแบบนั้น หนักจะได้เป็นเบา
ไปเลียนแบบหนังมาหรือเปล่า?
อัญวุฒิ : มีคนแซวอยู่เมื่อวานนี้