การทำ IVF ครั้งแรกเห็นผลเลยหรือไม่

80

คู่สมรสที่มีบุตรยากและต้องการมีบุตร จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคทางการแพทย์ เพื่อให้การมีบุตรสำเร็จในที่สุด โดยในปัจจุบันเทคนิคทางการแพทย์ก็มีทางเลือกหลากหลาย รวมถึง IVF หรือการทำเด็กหลอดแก้ว ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ทำให้มีบุตรได้สำเร็จ แก้ปัญหาการมีบุตรยากที่มาจากปัจจัยบางอย่าง และหลายๆ คนอาจสงสัยอยู่ว่า การทำ IVF จะสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกหรือไม่ ครั้งนี้จึงเป็นการนำเอาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการทำ IVF มาให้ศึกษาร่วมกันอย่างละเอียด เพื่อหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน ดังนี้

การทำ IVF คืออะไร?

ก่อนที่จะตอบคำถามว่าการทำ IVF สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกหรือไม่ อยากให้ทุกคนมาทำความเข้าใจก่อนว่าการทำ IVF คืออะไร โดยการทำ IVF ก็คือการทำเด็กหลอดแก้ว ที่มีชื่อเต็มว่า In-vitro Fertilization เป็นการปฏิสนธิภายนอก เพื่อให้ได้ตัวอ่อน

เหตุผลที่ต้องปฏิสนธิภายนอก เพราะหนึ่งในคู่สมรสคู่นั้นๆ มีปัญหาเรื่องการปฏิสนธิภายใน จึงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้สำเร็จ และการหันมาทำ IVF จะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น ในคนที่อสุจิไม่แข็งแรง หรือผู้ที่มีปัญหาด้านมดลูกส่วนต่างๆ เช่น ท่อนำไข่ตีบตัน เป็นต้น ก็สามารถทำ IVF เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้

การทำ IVF คือการนำไข่และอสุจิที่แข็งแรงมาผสมกันบนจานทดลองในห้องปฏิบัติการ จากนั้นแพทย์จะทำการเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งเกิดเป็นตัวอ่อนขึ้นมาและนำกลับเข้าไปฝังตัวในมดลูกตามลำดับ และตัวอ่อนก็จะเจริญเติบโตในครรภ์ของมารดา เหมือนกับการตั้งครรภ์ธรรมชาติ

ขั้นตอนการทำ IVF

  1. กระตุ้นไข่ ด้วยการฉีดฮอร์โมนในวันที่ 2 หรือ 3 ของรอบเดือน
  2. แพทย์ทำการเก็บไข่ เมื่อไข่เจริญเติบโตจนได้ขนาดตามต้องการ
  3. ฝ่ายชายเก็บอสุจิใส่ภาชนะที่แพทย์เตรียมให้
  4. แพทย์จะคัดแยกอสุจิที่สมบูรณ์ มาผสมกับไข่ในห้องทดลอง
  5. เพาะเลี้ยงตัวอ่อนต่อไป
  6. เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตเหมาะแล้ว แพทย์ทำการย้ายตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูก

IVF เหมาะกับใครบ้าง?

  • ฝ่ายหญิงที่มีปัญหาในมดลูก เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ท่อนำไข่อุดตันหรือถูกทำลาย หรืออาจมีพังผืดในอุ้งเชิงกราน รวมถึงผู้ที่มีภาวะไม่ตกไข่หรือไข่ตกช้า
  • ฝ่ายชาย มีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของอสุจิ อาทิ มีจำนวนน้อย มีรูปร่างผิดปกติ หรืออสุจิเคลื่อนที่ได้ช้า เป็นต้น

การทำ IVF ครั้งแรกเห็นผลเลยหรือไม่?

เนื่องจากการใช้เทคนิคทางการแพทย์เพื่อแก้ปัญหาผู้มีบุตรยาก มักไม่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้หลายคนมีคำถามว่าแล้วการทำ IVF จะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกเลยไหม คำตอบคือ การทำ IVF อาจเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่ก็อาจจะไม่เห็นผลในครั้งแรกด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง

ปัจจัยที่สำคัญในการทำ IVF ให้เห็นผลคืออายุ จากการสำรวจพบว่าอัตราการทำ IVF สำเร็จจะอยู่ที่ประมาณ 41-43% สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 35 แต่เมื่ออายุมากขึ้นอัตราการทำ IVF สำเร็จก็จะต่ำลงด้วย อย่างในผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป อัตราความสำเร็จจะเหลือเพียง 13-18% เท่านั้น

นอกจากอายุ อาจมีสาเหตุอื่นได้อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของไข่ คุณภาพของน้ำเชื้อ ปัญหาเรื่องของมดลูก ฯลฯ ที่ทำให้การทำ IVF ไม่สำเร็จ โดยทั่วไปการทำ IVF ควรสำเร็จภายใน 3 ครั้ง หากมากกว่านั้น แพทย์จะไม่แนะนำให้ทำ IVF ต่อไปอีก เพราะหลังจากครั้งที่ 3 ไป อาจหมายถึงการทำ IVF ไม่เหมาะกับคู่สมรสคู่นั้นอีกต่อไป หรือต่อให้ทำต่อไปก็ไม่สำเร็จอยู่ดี

แพทย์จะแนะนำให้เปลี่ยนวิธีไปทำ ICSI แทน ซึ่งเป็นการทำเด็กหลอดแก้วด้วยเทคนิคพิเศษ ช่วยแก้ปัญหาการมีบุตรยากอันเกิดจากบางสาเหตุได้สูงกว่า และสาเหตุนั้นมักเป็นสาเหตุที่การทำ IVF ไม่สามารถแก้ไขได้

ทำไมทำ IVF ไม่สำเร็จ?

โดยปกติแล้วเมื่อทำ IVF แพทย์จะประเมินสภาพการฝังตัวของตัวอ่อนในโพรงมดลูกจากภาพ รวมถึงประเมินการเจริญเติบโตของตัวอ่อน กระทั่งพบว่าไม่สำเร็จ เพราะตัวอ่อนไม่ยอมฝังตัวในโพรงมดลูก หรืออาจมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ ทำให้การทำ IVF ไม่สำเร็จ อาจเป็นเพราะอายุที่มาก ทำให้คุณภาพของอสุจิหรือไข่ลดลง ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อน เมื่อแพทย์พบว่าการฝังตัวของตัวอ่อนมีปัญหา ก็จะทำการหาสาเหตุและคุยกับคู่สมรสต่อไป เพื่อวางแผนว่าจะทำ IVF ต่อหรือจะเปลี่ยนวิธี แต่ส่วนมากหากยังไม่พบสาเหตุ ก็จะทำต่อจนครบ 3 ครั้ง และแนะนำให้เปลี่ยนวิธีในภายหลัง

ถ้าทำ IVF ครั้งแรกไม่เห็นผลควรทำอย่างไรต่อ?

หากทำ IVF ไม่สำเร็จในครั้งแรก สามารถทำ IVF ต่อไปอีกได้เป็นครั้งที่ 2 และถ้าหากทำครั้งที่ 2 แล้วยังไม่สำเร็จ ก็สามารถทำต่อไปเป็นครั้งที่ 3 ได้ แต่ก็ไม่ควรทำเกิน 3 ครั้ง เพราะไม่มีประโยชน์ ควรเปลี่ยนเป็นวิธีอื่นจะมีโอกาสเห็นผลมากกว่า

ทำ IVF มีค่าใช้จ่ายเท่าไร?

ในการทำ IVF แต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยจะอยู่ที่ประมาณ 100,000-150,000 บาท/ครั้ง เป็นเหตุให้การทำ IVF แต่ละครั้งต้องพิจารณาให้เหมาะสม ยิ่งถ้าหากเกิน 3 ครั้ง ซึ่งทางการแพทย์จะประเมินว่าวิธีนี้ไม่เห็นผลแล้ว ก็ไม่ควรทำต่อ เพราะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังเสียเวลา และผู้เข้ารับการทำ IVF ก็ต้องเจ็บตัวโดยใช่เหตุด้วย

สรุปคือการทำ IVF ครั้งแรกมีโอกาสเห็นผลและไม่เห็นผล หากไม่เห็นผลในครั้งแรกสามารถลองทำ IVF ครั้งต่อไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแพทย์จะไม่แนะนำให้ทำ IVF เกิน 3 ครั้ง เพราะถ้าหากทำ 3 ครั้งแล้วไม่สำเร็จ เป็นไปได้ว่าการทำ IVF จะไม่สามารถแก้ปัญหาการมีบุตรยากในคู่สมรสคู่นั้นได้ อันเนื่องมาจากปัจจัยบางอย่าง ต้องอาศัยวิธีการอื่นๆ แทน แต่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วย