รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 4 มิ.ย. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 เกาะติดเหตุการณ์ กรณี “ทนายธรรมราช” พาครอบครัวเชื่อมจิตไปสน.ทองหล่อก่อนวันนัด ส่วนวันนี้ครอบครัวและทนายไปพม. และกองปราบ ยื่นเรื่องแจ้งความว่าถูกใส่ร้าย
โดยสัมภาษณ์เปิดใจ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิกองทัพธรรม, อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ, ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา หรือ มหาหมี รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม, ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง, ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ครอบครัวน้องและทนายธรรมราช เดินทางไปพม. และกองปราบ ไปกอบปราบยื่นเรื่องที่พี่กล่าวพาดพิงเรื่องเด็กออทิสติก เขาบอกว่าทำอย่างนั้นไม่ได้?
อนันต์ชัย : จริงๆ เรื่องจบแล้ว อยู่ในกระบวนการที่เราแจ้งความไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ระยะเวลา อยากบอกว่าส่วนปอท.ก็มีคณะทำงานขึ้นมาหนึ่งชุด ณ เวลานี้พยานหลักฐานเราค่อนข้างสมบูรณ์ ขณะนี้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่งหลักฐานไปยังปอท.เรียบร้อยแล้ว วันพฤหัสบดีเขาจะมาให้การและแจ้งความดำเนินคดี
ใครต้องมา?
อนันต์ชัย : สำนักพุทธ เอกสารหลักฐานที่เขากล่าวหาลัทธิเชื่อมจิตอยู่ปอท.เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่มาให้การอย่างเดียว วันที่ 5 เรานัดพยานอีก 4 ปาก จาก 4 ปากเหลืออีก 2 ปาก ผมว่าไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนนี้ กระบวนการมีหมายเรียกกระบวนการเชื่อมจิตที่ผมไปแจ้งความดำเนินคดี น่าจะเรียบร้อยสิ้นเดือนนี้ นี่ชุดใหญ่ แล้วอยากบอกพี่น้องประชาชนว่าเมื่อคืนผมก็โพสต์ข้อความไป บอกว่าการไปแจ้งความของผม ไปแจ้งความกรณี พ่อแม่ แอดมิน ทนายความ ข้อหาผิดพรบ.คอมพ์ฯ ฉ้อโกงประชาชน ผิดพรบ.คุ้มครองเด็ก แล้วอาจมีเรื่องการฟอกเงินด้วย ผมทราบมาว่าตร.น่าจะแจ้ง ในกระบวนการพวกนี้ ผมยังไม่ได้แจ้งเด็กเลย แต่มาตรา 73 วรรค 2 ให้อำนาจไว้ว่าถ้าเด็กกระทำความผิดก็เข้าวรรคสอง คือคุ้มครองเด็ก ผมคุยกับมหาหมีแล้ว ถ้าหากวันที่ 17 มิ.ย. ศาลไม่สั่งในทางบวก ลบ ผมจะไปแจ้งดำเนินคดีกับเด็กทันที ผมให้โอกาสนะ ทุกองคาพยพเลย ไม่ว่าจะพม.สุราษฎร์ฯ อัยการ 6 ท่าน โดยเฉพาะอัยการวรรณา ท่านนั่งหัวโต๊ะ ตร.ก็ให้ความร่วมมือหมด เหลือแต่ศาลอย่างเดียวที่จะต้องพิจารณาเรื่องนี้ ฉะนั้นถ้าหากว่าไม่มีการคุ้มครองให้พม. ผมก็จะใช้วิธีการดำเนินคดีกับเจ้าตัว เพราะสังเกตจากการที่อะไรๆ ก็น้อง น้องหมด แม้กระทั่งล่าสุดจะมีหนังสือถึงสำนักพุทธ ก็ให้น้องเซ็น แสดงว่าน้องรู้เรื่องน่ะสิ แล้วการที่คุณไปพูดแบบนั้นต้องเข้าใจนะว่าสำนักพุทธเป็นผู้สนองงานมหาเถรสมาคม การที่คุณไปถามสำนักพุทธ ลัทธิคืออะไร ลัทธิเชื่อมจิตหมายถึงใคร นั่นหมายถึงคุณกำลังโต้แย้งคำสั่งเถรสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของพระพุทธศาสนา คุณไปเซ็นเอกสาร แสดงว่าคุณรู้ ความคิดที่ว่าเด็กคือเหยื่อ ผมว่าเคสนี้ไม่ใช่แล้ว เด็กคือผู้กระทำความผิดเลย ถ้าหลังวันที่ 17 ไม่บวก ผมดำเนินคดีกับเด็กด้วย เอาเลยครับ เมื่อคืนโพสต์ไปว่าเห็นด้วยมั้ยว่าจะดำเนินคดีกับเด็ก ไปดูสิครับ 500 กว่าคอมเมนต์ยกมือหมด
คุณอี้ไปที่พม.ทำไมเมื่อเช้า?
อี้ : ไปพบอธิบดีกรมเด็กและเยาวชน เพื่อให้กำลังใจว่าสิ่งที่ท่านทำถูกต้องแล้ว สองอยากให้ท่านเพิ่มความเข้มข้นหรือเพิ่มระดับปฏิบัติหน้าที่ให้รวดเร็วและจริงจังมากขึ้น เพราะตอนนี้ครอบครัวนี้คือภัยคุกคามต่อสังคมแล้ว เป็นปัญหาสังคมนะ ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะครอบครัวเดียว ถ้าทำแบบนี้ต่อไป อาจมีโศกนาฎกรรมเกิดขึ้น อยู่ๆ ต่อไปเด็กคิดสั้นฆ่าตัวตายหรือถูกล้อถูกอะไรต่างๆ ผมคิดว่าเป็นหน้าที่พม.โดยตรง ท่านทำงานเบาไป ช้าไป ไม่เข้มข้นจริงจัง จนเป็นไฟลามทุ่งแบบนี้ ผมก็ไปบอกท่านแบบนี้ ท่านก็บอกว่าเดี๋ยวจะพยายามทำให้
อนันต์ชัย : อยากบอกพม.ส่วนกลาง จากที่ท่านสัมภาษณ์วันนี้ ไม่ได้เรื่อง! อยากบอกท่านอธิบดี พม.สุราษฎร์ ฯ อัยการสุราษฎร์ฯ เขาทำงานกันแทบเป็นแทบตาย คุณไปพูดได้ไงว่าปกติ หรือไม่ปกติ ทำไมไม่บอกว่าต้องมีการตรวจสอบก่อน ให้แพทย์ตรวจสอบก่อน คุณพูดอย่างนี้เท่ากับชี้โพรงให้กระรอกน่ะสิ มันถูกที่ไหนล่ะครับ อยากบอกว่าอยากให้ไปทำงานที่สุราษฎร์ฯ โน่น อย่ามาพูดอย่างนี้ ถ้าเขาปกติผมจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับเขาเหรอครับ ประชาชนทั้งประเทศจะด่าเขาเหรอครับ แปลก ยังไม่ได้ตรวจสอบอะไรเลย แต่คุณไปประเมินเรียบร้อยเลย ประเมินทำไม ไม่เข้าใจ ผมไปแจ้งความดำเนินคดีกับเขาเอาข้อมูลให้คุณด้วย คุณไม่ดูเหรอครับ ว่าเป็นยังไง มาพูดได้ไงว่าปกติ มันไม่ปกติถึงไปแจ้งความไง ทุกคนที่เป็นผู้ต้องหาเพราะไม่ปกติไง อยากจะสอน ผมเอาข้อมูลให้คุณดู ดูบ้างหรือเปล่าเนี่ย ไม่เห็นคุณดูเลย
ต้นอ้อบอกว่าพม.สุราษฎร์ฯ ท้อเลยเหรอ?
ต้นอ้อ : เขาเสียกำลังใจค่ะ เพราะพวกเขาก็สู้เต็มที่ ตอนนี้อยากให้กำลังใจพม.สุราษฎร์ฯ นะ เริ่มแรกเราอาจมีกระทบกันบ้าง แต่ตอนหลังเขาก็ทำงานเต็มที่ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรนะ แต่ก็จะสู้เต็มที่ แต่ละคืนกว่าจะได้นอนดึกดื่น เขาเก็บหลักฐานทุกอย่าง เพราะฝั่งนั้นไม่หยุด เขาก็ภาวนาว่าวันที่ 17 มิ.ย. ขอให้ศาลเห็นในสิ่งที่เจ้าหน้าที่และทุกๆ คนเห็น
อนันต์ชัย : อัยการจากที่ผมไปร้อง เขาไม่ได้แก้ตัวนะ เขาแก้ไข 6 ท่านมีท่านวรรณานั่งหัวโต๊ะเลย นั่งประชุมช่วยเหลือกัน ถึงแม้ยื่นไปแล้วยก แต่ก็ไม่เป็นไร
เจอคำพูดเมื่อกี้?
อี้ : ผมคิดว่าท่านประเมินเร็วเกินไป และท่านน่าจะติดตามกระแสสังคมมากขึ้น กระแสสังคมไม่ใช่ว่าตัดสินในทันที แต่ใครใช้วิจารญาณก็ต้องรู้ว่ามันผิดปกติ วิธีการสื่อสารของครอบครัวเขา วิธีการเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานยิ่งชัดเจนนะ เขาใช้เด็กเป็นโล่ ในการอ้าง บังทุกอย่าง ผมแนะนำเองให้เอาผ้าเอาเสื้อมาคลุม แต่เขาบอกว่าไม่เอา ให้เปิดไปอย่างนี้ ผมก็อ้าว นี่ไม่ได้รักเด็กเลย ผมสะท้อนใจมากตอนเด็กออกมาจากรพ.แล้วเด็กตกใจ เพราะมีเสียงโห่ เสียงอะไร ก็อยากให้พม.ได้ดูสถานการณ์ พี่น้องประชาชนเขามาโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่ได้จัดตั้ง เขามาด้วยความรู้สึกอัดอั้น อึดอัดต่อการทำงานของพม. ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เด็กคนนี้อยู่ไม่ได้ ครอบครัวอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ทำร้ายเด็กไม่ใช่ใคร มีสามคน พ่อแม่ทนาย แล้วเอาใครมายืนข้างหลังบอกว่าเอาดอกไม้มาเชียร์ ของปลอมทั้งหมด ผมว่าเลิกทำร้ายเด็ก เลิกฆาตกรรมเด็กอย่างเลือดเย็นแบบนี้สักที พม.ต้องไม่ประเมินเอง เอาหมอ ผู้เชี่ยวชาญ ไปประเมินพฤติกรรม แยกไปประเมินให้ชัดเจน ถ้าไม่สบาย ไปรักษา ไปดูแลจะดีที่สุด
มุมมหาหมี มองยังไง?
ประยุทธ : ผมได้ยินท่านอธิบดีให้สัมภาษณ์แล้วตกใจ คนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะเป็นผอ.หน่วยงานต้องหาข้อเท็จจริงและข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนจะพูดอะไร เนื่องจากเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นเรื่องเด็กอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องการพยายามบิดเบือนคำสอนในพระไตรปิฎก แล้วความผิดสำเร็จแล้ว ทางเถรสมาคมท่านก็เขียนไว้ชัดว่าเป็นกระบวนการที่บิดเบือนประไตรปิฏกทั้งสิ้น สองสำนักพุทธเขารับลูกมาจากมหาเถรสมาคมตามอำนาจที่มีในกฎกระทรวงและพรบ.สงฆ์ คือปกป้องพระธรรมวินัย เขาทำแล้ว และจะแจ้งความร้องทุกข์ในเร็ววันนี้ เท่าที่ทราบ สามพวกเราพุทธศาสนิกชน สื่อมวลชน และหน่วยงานเอกชน ปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนแล้วตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ที่บอกว่าป้องกันการบ่อนทำลายพุทธศาสนิกชนให้ร่วมกันปกป้องพุทธเถรวาท เราทำทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่ดูข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และอย่าหลงประเด็นนะ กรณีดังกล่าวไม่ใช่ความเชื่อ ความเชื่อคือความศรัทธา เชื่อได้ไม่ได้อีกเรื่องนึง แต่กรณีดังกล่าวเป็นการละเมิดหลักการพระไตรปิฎกของเรา ซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ แล้วพระไตรปิฎกคือองค์พระศาสดานะครับ รัฐของไทยเราพยายามให้เด็กคนนึงและครอบครัวไม่กี่คน มาบิดเบือนหลักการที่เป็นโครงสร้างหลักพระไตรปิฎกตรงนี้เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ ฉะนั้นเจ้าหน้าที่รัฐอย่าหลงประเด็นนะครับ มหาเถรสมาคมมาแล้ว สำนักพุทธมาแล้ว พวกเรามาแล้ว ตรงนี้คือสาระสำคัญครับ
ทนายธรรมราชบอกว่าเป็นความเชื่อ?
ประยุทธ : เลอะเทอะ ไม่มีความรู้แล้วพูดจาเลอะเทอะ
แต่เขาบอกเป็นเรื่องราวความเชื่อ ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร?
ประยุทธ : มาดีเบตกันเลยครับ ไม่ต้องเตรียมอะไร ไม่ต้องเอาเอกสาร มาคุยกันเลย เอาความเชื่อมาจากไหน
หลายคนงงว่าทำไมทำเรื่องนี้บ่อยๆ ผมไม่ได้ทำในฐานะส่วนตัว แต่เป็นหลักของศาสนาพุทธ เชื่อว่าประชาชนคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้โดยตรง การที่ทำ ไม่อยากให้ลูกหลานโตมากับความเชื่อผิดๆ มหาหมีบอกว่าไม่ใช่ความเชื่อ แต่หลายคนบอกเป็นความเชื่อ?
ประยุทธ : ความเชื่อใครจะเชื่อยังไงก็เชื่อได้ รัฐธรรมนูญไม่จำกัดสิทธิเสรีภาพด้านความเชื่อ ปวงชนชาวไทยสามารถใช้สิทธิเสรีภาพโดยไม่ใช้ความเชื่อของคุณไปริดรอนสิทธิเสรีภาพคนอื่น หรือความเชื่อของคุณไปกระทบโครงสร้างหลักในการปกครองประเทศของเรา ประเทศเรามีรัฐธรรมนูญคือกฎหมายแม่แบบในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าความเชื่อของคุณกระทบต่อพระไตรปิฎก นั่นไม่ใช่ความเชื่อ แต่เป็นการบิดเบือน
เขาบอกเขาไม่ใช่ลัทธิ?
ประยุทธ : ความเชื่อของคุณถ้าดึงหลักธรรมพระพุทธศาสนาออกมา จะหลักธรรมข้อไหนก็แล้วแต่ แล้วมีมวลชนขึ้นมา เขาเรียกว่าลัทธิทั้งนั้น เนื่องจากพระไตรปิฎกคือพระพุทธศาสนา ไม่มีอยู่จริงในลัทธิของคุณ ฉะนั้นกรณีดังกล่าวเชื่อมจิต คุณบอกเป็นอนาคามี เป็นลูกพระพุทธเจ้า ศากยมุนี และเป็นใครก็แล้วแต่ ที่เป็นพญานาค ล้วนมีบัญญัติอยู่ในพระไตรปิฎกแต่ไม่ได้บัญญัติอย่างที่พวกคุณพูด มันเลยเป็นสิ่งที่บิดเบือนทั้งหมด
อี้ : แม้จะอ้างบางส่วน เมื่อเช้ากลุ่มแฟนคลับสาวกพูดว่า มีตรงไหนไม่ตรงกับพุทธเจ้าบ้าง
ประยุทธ : ก็มาดีเบตกันสิครับ พวกเราบอกตลอดว่าไม่ตรง จนกระทั่งมหาเถรสมาคม ตั้งผู้มีคุณวุฒิมาตรวจสอบ สั่งสำนักพุทธบอกว่าเป็นกระบวนการในการบิดเบือนแล้วสั่งเจ้าคณะผู้ปกครอง ตั้งแต่เจ้าคณะตำบล อำเภอ จังหวัด ทั้งหมดบอกว่าถ้ามีการบิดเบือนแบบนี้อีกให้ตรวจสอบ แล้วดำเนินคดีโดยสำนักพุทธ มหาเถรสมาคมท่านก็บอกชัดว่าบิดเบือน เป็นลัทธิ
เขาบอกเขาไม่เคยเอ่ยอ้างตัวเอง ฝั่งน้องก็ไม่เคยบอกเป็นลัทธิ?
ประยุทธ : เขาดูพฤติกรรมครับ เขาไม่ได้ดูว่าคุณจะเรียกตัวเองว่าอย่างไร เราไปลักขโมยเราก็บอกว่าเราเป็นคนดี
อี้ : หนึ่งอ้างหลักการที่ไม่มีอยู่จริง อ้างว่าเป็นลูกพระพุทธเจ้าอ้างว่าเป็นอนาคามี ไม่มีอยู่จริง สองอ้างเป็นการเชื่อมจิต
ประยุทธ : คุณจะอ้างยังไงก็ได้ แต่คุณหยิบหลักการว่ามีในพระไตรปิฏก
อนันต์ชัย : แม่เขาพูดเองนะครับ ต้องไปถามท็อปนิวส์ ออกมาเป็นช็อตๆ (หัวเราะ) ตอนหลังไปไกลกว่านั้น เขาบอกตัวเขาเองไปเจอพระพุทธเจ้าเลย ทั้งแม่ทั้งพ่อ เห็นแสงสีทอง โอ้โห ไปกันใหญ่
มหาหมีไปบอกเขาเลอะเทอะ เดี๋ยวเขาฟ้องนะ?
ประยุทธ : ไม่กลัวครับ เนื่องจากเราเป็นพุทธศาสนิกชน รัฐธรรมนูญคุ้มครองเรา เราต้องป้องกันการเซาะบ่อนทำลายพุทธเถรวาท สองเราเคยศึกษาเห็นชัดว่าในพระไตรปิฎกไม่มี การพิจารณาของศาลต้องเอาข้อเท็จจริง ว่าตรงไหนจริงหรือไม่จริง เราเรียนกฎหมายก็รู้ว่าไอ้สิ่งที่คุณอ้างมันมีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดหรือไม่ ถ้าอ้างได้เราก็ถูก ฉะนั้นเราก็ไม่กลัว
เขาบอกว่ามันคือความเชื่อ แต่ในคำสอนก็สอนตามข้อเท็จจริง?
ประยุทธ : ในรัฐธรรมนูญ เขาบัญญัติไว้คุ้มครองสิทธิ คนเราจะนับถือศาสนาใด ลัทธิความเชื่อใดก็ได้ แต่ลัทธิความเชื่อดังกล่าวของคุณต้องไม่ไปบิดเบือนโครงสร้างหลักพุทธเถรวาท เนื่องจากพุทธเถรวาทเรามีพระไตรปิฎกซึ่งเป็นพระธรรมวินัยบัญญัติไว้ชัด ความเชื่อของคุณเราไม่ปฏิเสธ แต่ความเชื่อใดมากระทบโครงสร้างพระไตรปิฎกของพุทธเถรวาท ทำไม่ได้ รัฐต้องคุ้มครอง เราต้องปกป้องครับ
เขาพูดเรื่องราวที่พี่เปี๊ยกไปพูดเรื่องลูกเขาเป็นออทิสติก ถ้าลูกเขาไปเดินข้างนอก เขาได้รับความอับอาย คนจะมองลูกเขรยังไง?
อนันต์ชัย : วันที่ผมไปที่อัยการ ผมหยิบยกหนังสือที่พม.ไปสอบถามเขา เขาพยายามสอบถามเจ้าหน้าที่พม.ว่าลูกเขาเป็นออทิสติกหรือไม่ และคะยั้นคะยอให้ตอบด้วย เราไม่ได้กล่าวหาว่าลูกเขาเป็นออทิสติก เขาก็มาไลฟ์สดว่าเราไม่รักลูก ผมก็เลยเอาลูกผมมาเป็นตัวอย่าง ลูกผมเป็นออทิสติก แต่เรารับได้ เพราะเราเป็นคนสาธารณะ เหนือเมฆลูกชายผมออกรายการเป็นว่าเล่นเลยนะ เพราะวิธีการเลี้ยงลูก ทำยังไงลูกถึงดี ไม่เป็นภาระสังคม เราจึงออกมา ทุกวันนี้เหนือเมฆเดินจงกรม นั่งวิปัสสนากรรมฐานได้ เราไม่เคยมาเปิดเรื่องนี้เลย
น้องเหนือเมฆเป็นเด็กพิเศษ?
อนันต์ชัย : ใช่ เรารู้ตั้งแต่สองขวบครึ่ง เด็กพิเศษ มีสามวาระ สองขวบครึ่งจะรู้ แปดขวบจะมีการเปลี่ยนแปลง สูงหรือดาวน์ แล้วก็ 12 ขวบ สูงหรือดาวน์ ช่วง 8 ขวบเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงของเขาแล้ว 8 กับ 12 เป็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กพิเศษ เราถามเขาว่าเป็นหรือไม่เป็น เราก็เปรียบเทียบกับลูกเรา เราพูดเพื่อให้ขวัญกำลังใจพ่อแม่ที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ แล้วตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้ว ลูกมาขอบวชกับผม 3 ครั้ง มีแต่มีกำลังใจดีขึ้น ไม่ได้ไปทำลายลูก สิ่งที่เราพูดถ้าลูกคุณเป็นก็ไปรักษาสิ ทำไมไม่ตรวจ ก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเลย
อี้ : หนึ่งคือการที่ท่านอธิบดีพม. พูดเรื่องนี้ มันถูกเอาไปอ้างอิง ซึ่งเป็นความเสียหายใหญ่ของโครงสร้างรูปคดี ท่านไม่ควรประเมินด้วยตัวท่านเอง ควรส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญประเมิน เพราะเจอกันครั้งแรก แล้วบอกว่าปกติ จริงๆ ต้องมีการพิสูจน์ก่อน สองสำนักพุทธต้องเทคแอ็กชั่น รีบยื่นคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้หยุดพฤติกรรมการแอบอ้าง สามที่ติดใจมากคือสภาทนายความ กระบวนการนี้จะไม่บานปลายถ้าไม่มีนักกฎหมายที่ตีความกฎหมายผิดเพี้ยน แล้วบ้าจี้ไปไล่ฟ้องคนอื่นเขาแบบผิดๆ แบบนี้ ผมว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ สามอย่างนี้ต้องบูรณาการครับ
ทนายตุ๋ย ในฐานะเป็นทนายรายการนึงที่เขาไปฟ้องอยู่ เขาพูดว่าไม่ต้องการเข้าสายรายการด้วยนะ อยู่ดีๆ โทรไปเขาไม่รู้เขาก็เลยพูด ทนายตุ๋ยมองยังไง ในฐานะเป็นทนายของพิธีกรท่านนั้นอยู่?
ทนายตุ๋ย : ผมจำได้ผมก็ดูในคลิป เห็นมีการไปเชิญ แต่เขาบอกเขาไม่พร้อม เขาขอวิดีโอคอลได้มั้ย เขาก็ยินยอมเองนี่ครับ มีเป็นคลิปอยู่ ผมก็เก็บไว้อยู่เป็นหลักฐานในคดี
ถ้าเขาไปปรึกษาทนาย ทนายบอกให้สู้เลย?
ทนายตุ๋ย : เรามีหลักฐานครับ
อนันต์ชัย : จากการที่ผมไปค้นคว้าเพจเฟซบุ๊กตั้งแต่ 15 ก.ค. ปี 64 ลูกเจ้าลัทธิปรากฏ มีพญานาคอยู่ข้างหลัง ลูกเขานั่งสมาธิ แล้วมีพญานาค 7 เศียร นั่นเป็นปางนาคปรก เป็นเพจของเขา แล้วมีรูปหนุ่มมีรูปพญานาคอยู่ข้างหลัง หลังจากนั้นแล้ว ก็อยากแนะนำคือจากที่เราไปค้นดูอ่านดูทั้งหมด เขาบอกว่าหนึ่ง เขารู้เอง ธรรมะเขาสอนเองหมด คิดเองอะไรเลย เป็นปัจเฉกพุทธเจ้าเลยที่เขาสอนเอง นี่ก็อ้างตัวตนขึ้นมา ซึ่งทนายธรรมราชก็พูดว่าน้องรู้เองอะไรเอง น้องก็พูด พ่อแม่ก็พูด สิ่งที่เขาทำคือเทียบชั้นพระพุทธเจ้าแล้ว คุณตุ๋ยเอาไปเลย
ทนายตุ๋ย : ส่วนนี้ส่งพนักงานสอบสวนไปแล้วครับ เอาออกมาจากเพจเขาเองเลยครับ
ทนายจะทำยังไง เขาจะไปร้องว่าเขาไม่ต้องการเข้าสาย เขากำลังวุ่นเรื่องพม. แล้วเราโทรเข้าไป?
ทนายตุ๋ย : ให้เขานึกดีๆ ว่าเขาสับสนอะไรหรือเปล่า เพราะเขาเป็นคนยินยอมเอง บอกเองว่าให้โทรไปได้มั้ย เขาไม่สะดวกมาในรายการ ถ้าแจ้งไป ผมว่าเดี๋ยวลูกความผมเสียหาย ผมแจ้งกลับ
ลูกความเป็นคนดี?
ทนายตุ๋ย : เป็นคนดีครับ อดทนด้วย (หัวเราะ)
ต้นอ้อ : เขาโกหกบ่อยจนเขาจำคำพูดตัวเองไม่ได้ เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เขาไลฟ์สดหรือทำคลิปวิดีโอลงโซเชียลมีเดีย แล้วเขาจำคำพูดตัวเองไม่ได้แล้วก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาเองทุกครั้ง เทปพี่หนุ่มก็ยืนยันได้ว่าคุณยินยอมให้เขาโฟนอินนี่ ก่อนคุณแม่จะพูดอะไร ย้อนกลับไปดูคลิปเก่าๆ นิดนึง
อนันต์ชัย : แม้แต่บอกว่าลูกคุณพาไปหาศากยมุนี เห็นแสงสีทอง รู้สึกปลื้มปีติ ก็คุณทั้งนั้น
ต้นอ้อ : หลักฐานมาจากคุณทั้งนั้น ไม่ใช่เราเป็นคนสร้าง
เมื่อวานคุณไปทำไม?
ต้นอ้อ : มีสายรายงานว่ามีกลุ่มเชื่อมจิตย่องเงียบมารับทราบข้อกล่าวหา บังเอิญแฟนคลับไปโรงพักพอดี เห็นก็เลยแชะมาหนึ่งรูป ก็คิดว่าใช่แล้วแหละ ก็เลยขออนุญาตไปดูเหตุการณ์นิดนึง แต่ไปแล้วติดลมไง เพราะฝั่งนั้นพยายามอัดคลิปวิดีโอเรา เราก็เอาไงดี แจ้งนักข่าวดีกว่า แต่พอเขาเห็นว่าอ้อไป ตอนแรกกลุ่มแอดมินอยู่ข้างหน้านะ พอเห็นว่าอ้อไปเขาก็แตกเลย เข้าไปข้างใน สักพักแม่เขาก็โวยเสียงดังมาก ถ้ารูปเขาหลุดไปเขาจะแจ้งความตร. ทำไมต้องบอกนักข่าวด้วย ต้นอ้อบอกนักข่าวไม่ใช่ตร. แล้วปักหลักยาวถึงที่เห็นเลยค่ะ 3 ทุ่ม
พี่ตุ๋ยไป?
ทนายตุ๋ย : ผมเห็นเพจเขาลง เราก็เอ๊ะ นัดวันที่ 5 ทำไมไปก่อน ก็ต้องตามไปดู จริงๆ ไปแจ้งความสองส่วน ลูกความผมเป็นพิธีกรดังท่านนึง กับรายการดังรายการนึง ที่เขากล่าวหา จริงๆ ต้องบอกว่าเขาแยกแยะไม่เป็นนะครับ เขาจะเรียกร้องสิทธิอะไรของเขาก็ไม่ควรกล่าวหาลูกความผม คนละเรื่องกัน เราเสียหาย ก็เลยจำเป็นต้องแจ้งความ ครั้งแรกเขานัด 20 มิ.ย. ในส่วนพ่อแม่ 26 มิ.ย. เป็นของทนาย แต่ทนายไปก่อนวันที่ 23 แล้วทำหนังสืออีกรอบเป็นวันที่ 5 มิ.ย. ผมก็ตั้งใจจะไปดูว่าเขาจะมาใช้สิทธิอะไรของเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาเมื่อวาน พอมีเพจลงผมก็เลยตามไปดูครับ
เขามาก่อนก็ได้?
ทนายตุ๋ย : ทนายความถ้าได้รับหมาย จะไปก่อนหรือไปหลังต้องแจ้งเขา เป็นมารยาท ต้องแจ้งพนักงานสอบสวน ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปแบบนี้แล้วอ้างสิทธิว่าไม่เห็นดูแลผมเลย
อนันต์ชัย : เป็นเวลาปกติไม่เป็นไร แต่อันนี้มีเด็กเข้ามาด้วย
ทนายตุ๋ย : พอมีเด็กมาด้วยไม่ได้ เพราะเขาประสานพม.เรียบร้อยเป็นลายลักษณ์อักษร และต้องเป็นวันเวลาและราชการชัดเจน ซึ่งตัวทนายเขาทราบหรือเปล่าผมไม่ทราบ
อนันต์ชัย : เขาทราบสิ ก่อนออกไปข้างนอก ยกมาตรา 27 ประกาศ ตร.ก็บ้าจี้ประกาศไปด้วย ประกาศอยู่นั่นแหละ ทำไมไมก็ไม่รู้ ประกาศขู่ผู้สื่อข่าว
มุมต้นอ้อ รู้สึกไม่เป็นธรรมยังไง?
ต้นอ้อ : ขนาดเราไปนะ เรายังรู้สึกว่าคุณให้สิทธิพิเศษเหนือประชาชนคนอื่นจัง ถ้าเราไม่ไปล่ะ จะร้องขออะไรก็ง่ายไปหมดเลยเหรอ อ้อมองว่าไม่ถูกต้อง ก็เลยพยายามแย้ง อย่างพิมพ์ลายนิ้วมือ ทำไมต้องให้สิทธิเหนือคนอื่น ณ ตอนนั้นไม่ให้เหตุผลอะไร ทางออกอีก เขาให้อภิสิทธิ์หมด ทำให้ประชาชนที่มาสังเกตการณ์มองว่าอ้าว ผมโดนเมาแล้วขับ ยังเดินไปข้างบนเลย แก๊งเชื่อมจิตเป็นใคร ทำไมให้อภิสิทธิ์เขาแบบนี้ ยิ่งให้อภิสิทธิ์เขาแบบนี้ เขายิ่งมั่นใจว่าสิ่งที่พวกเขาทำไม่ผิด เรายื้อกันมาครึ่งปีแล้ว ไม่จบสักที เพราะหน่วยงานภาครัฐด้วยหรือเปล่าที่ไปเอื้อให้เขา จนพวกเขาคิดว่าไม่ผิดอะไร
ต้นอ้อเฟียสมาก เขาแจ้งความคุณอีกนะ?
ต้นอ้อ : แจ้งความพิธีกรดังด้วยนะ ไม่เป็นไร หนูมีเพื่อน หนูไม่กลัว (หัวเราะ)
อี้ : เมื่อวานผมหาบันไดลงให้เขานะ อยากให้เขาเห็นว่าทิศทางต่อจากนี้ไปไม่ดีต่อเด็กเลย หาทางลงร่วมกันมาคุยได้มั้ย อยากได้อะไร อยากได้ผลประโยชน์ตรงไหนหรือไม่ เขาไม่ยอมคุย ให้ไปคุยที่ศาล เรื่องศาลผมไม่ติดใจ ไม่กังวล แต่ถ้าเขารักลูกจริงต้องหยุดพฤติกรรมนี้ เมื่อวานผมเองก็ไม่สบายใจนะ เด็กเหมือนช็อก หวาดกลัว แม่เขารีบกระชากขึ้นเลยนะ
แสดงให้เห็นว่าน้องถูกตีกรอบอยู่ในกรอบ คนมายกยอปกปั้นกราบไหว้ ไม่ได้เห็นว่าโลกภายนอกมันโหดร้ายขนาดไหน พอน้องมาเห็นน้องสะดุ้งสุดตัว เรามีลูกก็รู้สึกแย่มาก?
อี้ : อยากเข้าไปโอบกอดในโมเมนต์นั้น
ต้นอ้อ : เราเห็นแล้วสงสารเด็ก สะดุ้ง จะวิ่งเข้าโรงพัก แล้วแม่กระชากกลับมา
ถ้าเปรียเบทียบให้เห็นง่ายๆ ผมอาจให้ลูกทานพิซซ่าทุกวันโดยไม่เคยสอนลูกว่าตรงนี้มีพริก แต่วันนึงลูกไปกัดพริกแล้วบอกว่าไม่ไหว เราต้องสอนว่าอันนี้พิซซ่า อันนี้พริกนะ แต่อันนี้เด็กคนนึงไม่ได้ถูกสอนเลย เหมือนถูกสอนว่าพิซซ่ากินเข้าไป ดีกับร่างกาย เมื่อวานเกิดวิวาทะอะไรกัน?
ทนายตุ๋ย : เมื่อผมต้องไปปฏิบัติหน้าที่ ผมก็ไปนั่งเฉยๆ เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทีนี้คนของเขาไม่รู้มีใครบ้าง แต่มีคนนึงจ้องมองตลอดเวลา จ้องมองหาเรื่อง กระเป๋าสะพายข้าง จนลูกความผมมา เขาก็จ้องเหมือนหาเรื่องตลอดเวลา ผมก็ต้องอดทน เรามารอดูว่าต้องทำงานยังไง เดินเข้าห้องน้ำลืมชวนลูกความ มองหางตาผ่านเขา จ้องแบบหาเรื่อง ผมออกจากห้องน้ำกะว่าไม่สบตาเขา เดินมาเขามองอีก มันทนไม่ไหว เขาจ้องผมน่าจะเกือบสองชม. ก็เลยหันไปถามว่าคุณรู้จักผมมาก่อนหรือเปล่า คุณจะเอายังไง ผมเห็นคุณจ้องผมตลอดเลย สักพักนักข่าวมา ชม.นั้นก็ไม่ได้เห็นอะไร คุณต้นอ้อก็มา ก็ขอบคุณทางทีมงานเป็นหนึ่งด้วย เขาเข้ามากันผมด้วย เพราะของเขามีคนจะเข้ามาชาร์ตผมเหมือนกัน ก็ขอบคุณทีมงานน้องด้วย
ลูกความหลบอยู่หลังเก้าอี้?
ทนายตุ๋ย : จริงๆ ไม่ได้หลบครับ มองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ (หัวเราะ)
ต้นอ้อ : เริ่มแรกเราไม่มีอะไรจริงๆ เราไปสังเกตการณ์ ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่เป็นจุดที่พี่ตุ๋ยปะทะคารมนิดนึง ก็เป็นชนวนเหตุด้วย พอมีเสียงแม่เขาเล็ดลอดออกมา ต่อว่าพวกเรา จะให้ทนายออกมาจัดการพวกเรา แต่เขาไม่รู้ว่ากองทัพนักข่าวเต็มไปหมด มีแอดมินคนนึงพยายามบอกว่าอย่าออก เราเห็นมือพ่อเขาพยายามเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิป เขาเห็นว่านักข่าวเยอะ เขารีบปิดประตูล็อกเลย แล้วแม่เขาก็เสียงแว้ดๆ ด่าๆๆ ทะลุห้องเลย เดี๋ยวจะแจ้งความกลับ นังต้นอ้อ ปากดี อ้าว หนูก็ใส่เลย คุณแม่ก็ออกมาสิ ออกมาคุยกัน เห็นท้าอ้อดีนัก แอดมินเขาทุกตัว เฮ้ย ทุกคน เขาด่าอ้อทุกวัน เป็นคนตอแหลอย่างนั้นอย่างนี้ อ้อไปเมื่อวานไปหาแอดมินเขานะไม่ได้ไปหาเรื่องแม่ น้องเขาไม่เกี่ยวเลยค่ะ คุณแม่พยายามใส่ร้ายว่าอ้อไลฟ์สดด่าเด็ก ไปดูได้อ้อไม่เคยด่าน้อง
เขาแจ้งความคุณ รังแกข่มขู่คุกคาม ทารุณกรรมเด็ก?
ต้นอ้อ : ทารุณตอนไหน ยังไม่เห็นลูกเขาเลย
เขาบอกคุณหนีด้วยนะ?
ต้นอ้อ : อยากพูดตรงนี้ว่าหนีอะไร
เขาบอกว่าหนีกลับไปซะก่อน เคลียร์สิ?
ต้นอ้อ : อ้อไปคนแรก จะหนีทำไม จะหนีเพื่ออะไร ไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนั้น ใครกันแน่ ถ้าเมื่อวานประตูทางออก ออกไม่ได้คงขุดหลุมมุดดินออกไปแล้ว หนีไปทำไม ไม่ได้หนีเลยค่ะ อ้อออกมารอข้างนอก เพราะผกก.ขอร้องว่าให้ออกมารอข้างนอก ไม่งั้นเขาไม่ยอมออกมา ตอ.กับหมวกขาวเชิญหน่อยนะ ต้องออกไปหน่อยนะ ไม่งั้นเขาไม่ยอมออกจากห้องนั้น ตร.ต้องยุ่งยากเอารถแมคโคมาขุดดินให้เขามุดหนีกลับบ้านอีก เขาขอให้มายืนข้างนอก ตอนเสียงโห่ หนูก็ยืนอยู่ข้างหลังนั่นแหละ
ทนายตุ๋ย : เสียงคล้ายๆ ลูกความผมด้วย (หัวเราะ)
ต้นอ้อ : แล้วพี่หนุ่มปวดฉี่ แล้วไปฉี่ข้างกำแพง
หมวกขาวเข้าไปในซอก ยืนฉี่อยู่ตรงซอกกำแพง ล่าสุดสน.ทองหล่อจะแจ้งความผม ทำลายทรัพย์สินสน. กำแพงสน.แตก ไม่รู้อะไรสะบัดไปโดน?
อี้ : นี่มันยุทธการอนาคอนด้าสู้พญานาคหรือเปล่า (หัวเราะ)
ต้นอ้อ : เราอยู่นานมาก ไม่ได้ฉี่เลยเกือบ 10 ชม. พอพี่หนุ่มไปฉี่ปุ๊บก็ขอไปฉี่ข้างบน เราไม่ได้หนีไปไหน อ้อถึงบ้านตอนห้าทุ่มนะคะ อยู่จนนักข่าวกลับหมดเลย แล้วหนีตอนไหน ไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนั้น เป็นคนสู้คนอยู่แล้ว
มีเหตุปะทะ หมวกขาวขอเข้าห้องน้ำ ก็สงสัยทำไมตร.ยืนกันทางเดินไปเข้าห้องน้ำ จริงๆ ตร.สามารถยืนคุ้มกันหน้าห้องวีไอพีได้ ตรงนี้ก็ปล่อยให้คนเดินไปฉี่ได้ แต่คุณมากันทางเดิน สุดท้ายหมวกขาวก็เลยต้องไปฉี่ข้างกำแพง คล้ายๆ ร้องข้างกำแพง?
อนันต์ชัย : มองแล้วหมั่นไส้ตร. คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตร. ไม่รู้ว่าคุณทำหน้าที่อะไรมาก่อน อย่างคุณอี้เขาถามคุณ คุณก็ต้องอธิบาย ว่าดูแลที่นี่ สถานการณ์นี้ไม่ชอบมาพากล อาจเกิดเหตุรุนแรง ให้คุณหนุ่มไปตรงนั้นได้มั้ย ถ้าคุณหนุ่มยืนยันจะไปปัสสาวะ ให้ตร.สองคนไปเป็นเพื่อนได้มั้ย จะแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย แต่การที่คุณใช้อำนาจหน้าที่ของคุณทำแบบนี้กับประชาชนออกสื่อสาธารณะ คุณสอบตกใจการคุมฝูงชน ถ้าเป็นตร.คุมฝูงชนคุณต้องถูกปลด คุณทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง ถ้าเป็นผม ผมแจ้ง 157 เลย จริงๆ ไม่มีอะไรเลย เป็นเรื่องขี้ปะติ๋วมาก ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ภาพที่ออกไปสองมาตรฐานอยู่แล้ว หนึ่งเรื่องปั๊มลายนิ้วมือ ผมไม่เคยใช้อภิสิทธิ์ปั๊มลายนิ้วมือที่ห้องสอบสวน แต่แทนที่คุณจะทำอย่างนั้น คุณกลับให้โอกาสเขา เท่าที่ทราบมา เขาบอกว่าถ้าไปข้างบนเขาจะเอาลูกเขาไป เขาขู่พนักงานสอบสวนว่าถ้ารูปลูกเขาเผยแพร่เขาจะฟ้องทั้งโรงพัก คุณจะกลัวทำไม คนจะถูกดำเนินคดีคือสื่อมวลชน ไม่ใช่ตร. พอเขาไม่ไปปั๊มลายนิ้วมือ ทำไมไม่ใช้มาตรา 386 ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน การที่สั่งให้ไปปั๊มแล้วไม่ไป เป็นการขัดคำสั่งเจ้าพนักงานนะ คดีนี้เคยมีถึงศาลรัฐธรรมนูญเลย คุณไม่มีสิทธิ์ฝ่าฝืนคำสั่ง คุณใช้มาตรา 386 ได้ แต่คุณไม่ใช้ คุณลืมไปหรือเปล่า ถ้าเขาอยากเอาลูกก็ให้เขาเอาไปสิ มันเป็นหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องถูกดำเนินคดี การทำแบบนี้ทำให้ประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งผมด้วย การทำอย่างนี้คุณอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องหา แล้วมากดดันอีกฝ่าย ฉี่ก็ยังไม่ได้เลย จะบ้าเหรอ! ดีนะคุณหนุ่มไม่ฉี่ตรงนั้น (หัวเราะ)
เข้าใจว่าเวลานั้นเป็นเหตุที่กดดันกันไปหมด แต่บรรทัดฐานจะเกิด ที่ผมเสียใจ ผมไปฉี่ไม่ได้ แต่คนในห้องไปฉี่ได้ เจ้าทุกข์จะเดินไปฉี่ ก็ฉี่ไม่ได้ หมวกขาวเขาเสียใจ?
อนันต์ชัย : สน.ทองหล่อต้องออกมาอธิบายให้คนเข้าใจ ต่อไปนี้คุณไปสน.ทองหล่อ คุณไปปั๊มข้างล่าง ไม่ต้องไปปั๊มข้างบน ถ้าเขาปฏิบัติกับคุณไม่ดี คุณแจ้ง 157 เลย เฉพาะสน.ทองหล่อนะ สน.อื่นอย่าไปยุ่ง
ล่าสุดผกก.ติดต่อมา และชี้แจง ให้เหตุผลว่าจริงๆ แล้วก็ยอมรับว่าไม่มีใครแจ้งข้อเท็จจริงให้เราได้ฟังเลย คณะวีไอพี เขามันที่ไม่ได้มีการนัดหมาย ชั้น 2 ที่เป็นชั้นพิมพ์ลายนิ้วมือแบบอิเล็กทรอนิกส์ คนพิมพ์เขาไม่ได้มา เขาเลยจำเป็นต้องพิมพ์มือข้างล่าง?
อนันต์ชัย : ไม่ใช่ครับ ยังไงก็ต้องไปข้างบน ผมเป็นทนายความพิมพ์มาเป็นสิบครั้งแล้ว ไม่เคยพิมพ์ที่ห้องสอบสวนเลย จะแป้นพิมพ์หรือดิจิทัล ก็ต้องไปข้างบน ไปทีละคนก็ได้
อี้ : ตร.ค่อนข้างกังวลและดูหวาดกลัว
อนันต์ชัย : ต่อไปเอาเทปนี้ไปเป็นตัวอย่าง ถ้าหากตร.ไม่ยอม จะแจ้ง มาตรา 386 คุณแจ้ง 157 เลย
ต้นอ้อ : ตอนแรกเขาจะขอปีนไปปั๊มลายนิ้วมือ แต่ว่าดูแล้วเวทนามาก คิดในใจว่าน่าจะปล่อยให้เขาปีนไปเลยดีกว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากนะคะ คณะลิเกคณะนี้จะปีนขึ้นไปพิมพ์ลายนิ้วมือ จะเอาตู้ออกแล้วปีนขึ้นไป
เปิดคลิป ธรรมราช และแม่ โวยวายพ่อน้องเพรส?
อี้ : เมื่อวานแปลกมาก ต้องระดมสองสามสน. มาช่วยกันหลายสิบนาย เพื่อคุ้มครองคณะวีไอพีออกไป ตอนแรกบอกจะออกประตูหลัง สักพักบอกว่าไม่กล้าออกไป มีพวกเรารออยู่เยอะ ก็หลบไปอีกประตู สุดท้ายก็ออกประตูหน้า ไม่เก่งขนาดนี้เลย เราตะโกนเรียกก็แล้วก็ไม่ออกมาสักคนเดียว ได้ยินเสียงแว้ดๆ
ต้นอ้อ : เมื่อวานมุดอยู่ในรู หน้าเหลือสองนิ้ว มีแต่เสียงอยู่ในห้อง แต่วันนี้เขารู้ว่าเราไม่ไป เราติดรายการ ถ้าไปไม่ใช่แบบนี้ รับประกัน แล้วที่มาคือแอดมินเขาหมด แอดมินทุกตัว เฮ้ย ทุกคน จำหน้าได้หมด
เมื่อวานหมวกขาวเรียกไม่มาคุยกับเขาเลย ไอ้หมวกขาวบอกเสียใจเหลือเกิน อยากจะคุย เห็นฝั่งทนายคอยด่า คอยแซะ คอยว่าถากถาง จนเขาไปแจ้งความ แล้วพอเขาอยากจะคุย ไม่ออกมาคุยด้วยเลย ทำไมกับพ่อน้องเพรสถึงไปทำแบบนั้นกับเขา?
ต้นอ้อ : เมื่อวานมีแต่เสียงแม่ค่ะ เสียงทนายไม่มี
หมวกขาวถามเลย ใส่เดี่ยวมั้ยล่ะ ร้องเพลงนะ ร้องเพลงแข่งกัน เราไม่สนับสนุนความรุนแรง แต่เขาไม่คุยด้วย?
อนันต์ชัย : ตร.ตั้งเยอะ แต่คุมหมวกขาวไม่ได้ เสียยี่ห้อหมด ผมว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สาธารณะไม่ได้ไปก่อกวน การที่คุณเป็นตร.ควบคุมดูแล การที่คุณไม่สามารถควบคุมได้แล้วข่มขู่ว่าเป็นอำนาจหน้าที่คุณก็ผิดแล้ว คุณอี้ถามว่าเหตุอะไรคุณก็ไม่พูด
อี้ : เราไม่ได้วีไอพีพอ (หัวเราะ)
สภาพเมื่อวานเหมือนป๋อง กพล มีคนบอก ผมแทบไปเผาชุดทิ้ง?
อนันต์ชัย : คุณเอากฎหมายเด็กเหนือกว่ากฎหมายสงฆ์ หรือพระธรรมวินัย หรือพระไตรปิฎก ก็อยากบอกเจ้าหน้าที่บ้านเมือง โดยเฉพาะพม. สำนักพุทธ กฎหมายเด็กไม่ได้มีบัญญัติอยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญนะครับ แต่ศาสนาพุทธมีบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 1 วรรค 2 ฉะนั้นคุณอย่าเอาเด็กเหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะศาสนาพุทธเถรวาท เป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติ
อี้ : อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งในการแยกเด็กไปดูแล อธิบายก็ได้สื่อสารกับครอบครัวนี้ให้เข้าใจว่ามันบิดเบือนอย่างไร เป็นเท็จอย่างไร สองสภาทนายความถึงเวลาที่ท่านต้องออกมาจัดการเรื่องมารยาททนาย จะได้หาทางลงให้ครอบครัวนี้ ยิ่งนานต่อไปจะไม่เป็นผลดี ตอนนี้กลายเป็นเรื่องตลกไปหมด สุดท้ายกระบวนยุติธรรมต้องเด็ดขาดจริงจัง อย่าปล่อยปละละเลย สักๆ แต่ทำไป ผลเสียมันเกิดกับเด็กแน่นอน